“เต้ย” ฟิตร่างกายเตรียมวิ่งมาราธอนญี่ปุ่น แจงดราม่าหลังไม่ได้ถ่ายปฏิทินช่อง
ฟิตร่างกายอย่างหนักสำหรับพระเอกหนุ่ม “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์” หลังต้องเตรียมร่างกายเพื่อจะไปร่วมวิ่งงานโอซากา มาราธอน ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวเลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย รวมไปถึงดราม่าที่เจ้าตัวไม่เคยได้ถ่ายปฏิทินช่องด้วย
อ่านข่าวต่อ
“เต้ย พงศกร” ไม่โสด รับคุยสาวนอกวงการ
สำหรับงานวิ่งผมจะไปร่วมวิ่งงานโอซากา มาราธอน ประเทศญี่ปุ่น ไปกับพี่ๆ นักแสดงหลายคนเลย ตอนนี้ก็ซ้อมหนักอยู่เหมือนกันเพราะอยากให้ผลงานออกมาดีกว่าเดิม ถามว่ากดดันไหมที่ตั้งเป้าแบบนี้ ก็แอบกดดันอยู่เหมือนกันนะ มีบ้าง เพราะมันเป็นสนามที่ค่อนข้างทรมานร่างกายอยู่เหมือนกัน ส่วนเหตุผลที่ผมอยากลงรายการนี้ก็เป็นเพราะผมรู้สึกว่ารายการหลักๆ ในญี่ปุ่น 3 รายการ ผมอยากเก็บให้ครบก่อน แถมการวิ่งมันยังช่วยเราในหลายๆ ด้านด้วย ทั้งความมีวินัย สุขภาพ ไปจนถึงการเอาชนะความสามารถของตัวเอง
ยอมรับว่าชีวิตผมเปลี่ยนไปเยอะมากตั้งแต่หันมาวิ่งอย่างจริงจัง ประมาณ 3 ปี หลักๆ เลยก็คือเรื่องของสมาธิ และก็สุขภาพร่างกายกับสุขภาพจิตดีขึ้นมาก ส่วนอาการบาดเจ็บถามว่ามีไหม จริงๆ มันก็มีนะ เจ็บเข่าบ้าง เจ็บกล้ามเนื้อบ้าง แต่พอผมได้มาเรียนรู้เรื่องการวอร์มร่างกายอย่างจริงจัง อาการบาดเจ็บที่เคยเป็นก็แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย การวอร์มช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ดีมากๆ อย่างพวกอาการบาดเจ็บเรื้อรังอะไรพวกนี้ก็แทบไม่มีเลย สำหรับเป้าหมายสูงสุดของผมในการวิ่งก็คือ เก็บให้ครบเวิลด์เมเจอร์ทั้ง 6 ที่ครับ แต่ตอนนี้ผมเก็บของโตเกียวไปได้แล้ว 1 รายการ ก็เลยยังเหลืออีก 5 รายการที่อยากจะตามเก็บให้ครบภายใน 3-4 ปี
ด้านดราม่าปฏิทินช่องหลายคนไม่เห็นว่า “เต้ย” ถ่ายกับเพื่อน อันนี้จริงๆ ผมไม่ได้ถ่ายมาหลายปีแล้ว ไม่ได้ถ่ายทุกปีเลย ไม่ได้ถ่ายตั้งแต่เข้าวงการเลยด้วย แต่ผมก็ไม่ได้น้อยใจนะ เพราะผมรักช่องมาก ช่องคือที่ที่ทำให้ผมมีที่ทำงาน
ส่วนที่หลายคนแอบนอยด์แทนว่ามีพระเอกเกือบทั้งช่อง แต่ทำไมไม่มีเรา อันนี้ผมคิดว่าคนที่เขาได้ถ่ายปฏิทินเขาเหนื่อยกว่าผมด้วยซ้ำ เพราะเขาต้องไปถ่ายไกลถึงต่างจังหวัด ส่วนผมไม่ได้ถ่ายก็ไม่เหนื่อย จริงๆ สัญญาของผมกับช่องเป็นสัญญาใจนะ เพราะผมเซ็นกับ “พี่หน่อง” เป็นหลัก แต่ถามว่าที่ผ่านมาเคยมีช่องอื่นๆ ทาบทามผมไหม ก็มีนะ มีเยอะเลย แต่ผมก็ต้องปฏิเสธไป เพราะผมซื่อสัตย์กับช่อง 3 ยังต้องทำงานกับทางช่องอยู่ อีกอย่าง ผมเองยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้และต้องพัฒนาอีกเยอะเลยด้วย ผมเพิ่งจะเข้ามาทำงานในวงการแค่ 7-8 ปีเองมั้ง มันยังน้อยมากๆ ถ้าเทียบกับนักแสดงรุ่นพี่ แต่ก็ต้องขอบคุณนะครับ ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่เล็งเห็นศักยภาพในตัวผม และให้โอกาสผมในการแสดงมาตลอด
ด้านประเด็นคอมเมนต์เรื่อง “ซอลลี่” อดีตสมาชิกวง f(x) จนกลายเป็นดราม่า อันนี้ผมคิดว่ามันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลนะ และตัวผมเองก็แค่เข้าไปร่วมแสดงความเสียใจแค่นั้น เพราะมองว่าการบูลลี่คนๆ หนึ่งจนทำให้เขาคิดสั้น และเกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าวมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย เนื่องจากยุคปัจจุบันนี้คนพร้อมที่จะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นในอินเทอร์เน็ตทุกๆ เวลาโดยที่ไม่มองว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง หรือเรื่องไหนที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ซึ่งผมเองก็เห็นใจเขา และก็สงสารเขา จึงได้แสดงความเสียใจต่อเขาด้วยเหมือนกัน
อย่างบางคนก็คอมเมนต์ตอบกลับมาเหมือนกันว่ามันเป็นสิทธิของผม ผมไม่จำเป็นต้องลบคอมเมนต์ อย่าไปยอมแพ้กับคนที่เข้ามาบูลลี่ อะไรประมาณนี้ ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้ซีเรียสเลยนะ เพราะผมรู้สึกว่าทุกๆ คนมีสิทธิ์ออกเสียง เราจะไปปิดกั้นความคิดเห็นของคนอื่นไม่ได้หรอก