เปิดใจ “จอห์น มกจ๊ก” ตลกสู้ชีวิตกับรักครั้งใหม่
"จอห์น มกจ๊ก" อดีตดาวตลกแคระที่ตอนนี้กับการผันตัวเป็นแม่ค้าขายน้ำพริกสู้ชีวิตหลังจากที่สูญเสียสามีและลูกสาวไป ซึ่งเธอก็ได้ใช้ชีวิตลำพังเป็นเวลานานล่าสุดเธอได้เปิดใจกับรายการ "เคลียร์" กับชีวิตที่ต้องต่อสู้พร้อมรักครั้งใหม่ที่ได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาและได้เกิดขึ้นแล้ว จะพบเจอกันที่ไหน รักกันได้ยังไงมาดูเลย
ไม่น้อยใจนะที่เป็นแบบนี้ เพราะคนอื่นแย่กว่าเราก็มีเยอะ เราครบ 32 แต่แค่เราไม่สูงแค่นั้นเอง บางคนเขาก็แขนขาดขาขาด ตาบอดอะไรอย่างนี้เขายังแย่กว่าเรา สุขภาพตอนนี้ก็คิดว่าอายุมากไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เข่าแย่มากยืนนานไม่ค่อยได้แล้ว เป็นเข่าเสื่อมกระดูกเสื่อม ถ้าไปผ่าก็ไม่รู้ว่าใครจะดูแลแล้วก็จะปรับตัวยังไงดี จริงๆ เราไม่ค่อยไปหาหมอหรอกถ้าปวดก็แค่กินยาพาราอะไรแบบนั้น ไม่ได้ไปหาหมอเลย เคยมีผ่าไส้ติ่งมาก่อน ไม่รู้เลยว่าค่ารักษาผ่าตัดขาเท่าไหร่เพราะไม่เคยไปหาหมอเลย แต่เขาก็แนะนำว่าให้ผ่าดีกว่าเราก้ไม่กล้าไป เราไม่มีรายรับพอที่จะไปจ่ายค่ารักษาขนาดนั้น
จังหวะชีวิตที่เสียสามีไปตอนนั้นแย่หน่อยแต่เราก็ยังมีลูกเป็นกำลังใจ ก็พออยู่ได้ เป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูก แล้วลูกมาเสียอีกคนนึงก็แย่หนักกว่าเดิมเลย ใช้เวลาเยียวยาตัวเองนานมาก 2 ปี กว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม มีคนถามไถ่ว่าเป็นยังไงสามีตายลูกตายอยู่ได้ไหม หรือว่าคิดจะฆ่าตัวตาย หายเจ็บปวดหรือยัง เราก็คิดว่าเขาให้กำลังใจเราหรือซ้ำเติมกันแน่ มันก้คิดได้ 2 แง่ เลยคิดว่าจะทำยังไงดีให้คนได้รู้ว่าความเจ็บปวดเป็นยังไง อยากให้เขามาเป็นเราจะได้รู้ว่ารู้สึกยังไง ตอนที่ใช้ชีวิตเป็นตลกก็เดินทางไปที่ต่างๆ ได้เจอคนนอนริมถนนบ้าง ขอทานบ้าง เราคิดว่าเขาปกติแล้วเขาท้อและถอย อยากให้รู้ว่าเราสู้และไม่เคยถอยกับสิ่งที่เป็นอยู่ ก็เลยทำน้ำพริกขึ้นมา
วันแรกที่ทำขายแถวรามคำแหงอยากเอาเงินไปทำบุญครบรอบลูกตอนนั้นไม่มีเงิน วางขาย 200 กระปุก วางแผงไปพร้อมกล่องรับบริจาค ได้มาประมาณ 15,000 ก็ไปซื้อกล่องสังฆทานทำบุญ ส่วนขั้นตอนการทำของเราก็คือรู้จักกับแม่ค้าที่ตลาด เป็นแม่ค้าประจำโทรสั่งเขาแล้ววินมอเตอร์ไซต์มาส่ง เราก็เตรียมทำอยู่ที่บ้าน
ตื่นทำน้ำพริกตีสี่กลับเที่ยงคืนนั่งแท็กซี่มาจากพุทธมณฑลสาย 4 มาขายเมื่อก่อนเราขายไปทั่วเลยตามงานอีเว้นท์แต่มาอยู่ตัวที่วัดหัวลำโพง ขายที่นี่มาได้ 2 ปีกว่าแล้ว ตอนนี้มีคนมาช่วยขายของก็คือแฟนใหม่ ได้เขามาดูแล ทำความรู้จักกันจากในเฟซบุ๊คเป็นคนใต้ชื่อ “ทูน”
เจอกันในเฟซบุ๊คเขาเป็นคนทักมาหาเราก่อน เราเห็นเขาขายน้ำพริกก็ชอบและก็ได้คุยกัน ผมเป็นคนจีบเขาก่อน เขาเป็นคนที่ร่างกายเดียวกันก็เลยถูกใจกัน ใช้เวลากว่าเดือนนึงกว่าจะกล้าที่จะคุยกับเขา “จอห์น” บอกว่าตอนแรกไม่ชอบเขาแต่ไปท้าว่าถ้ารักจริงก็มาหาเราที่นี่เลยเขาก็มาจริงๆ
วิธีบอกรักเราก็บอกรักกันตรงๆ เลย เรารับผิดชอบเขาได้เลยจะมาอยู่กับเขา สิ่งที่ประทับใจอีกฝ่ายคือเป็นคนจิตใจดี ส่วนอีกฝ่ายบอกว่าคนนี้มีนิสัยเหมือนแฟนเก่าเราเป็นคนใจร้อนพูดไม่เพราะ แต่เขาเป็นคนง่ายๆ ซื่อๆ เขาตามใจเราทุกอย่าง คำที่ใช้แทนกันคือ “พ่อ-แม่” อนาคตข้างหน้าใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้วางถึงเรื่องการจัดงานมีคิดไว้แล้วแต่มันติดโควิด จริงๆ อยากจะให้คนอื่นได้รู้ด้วยตอนนี้เราอยู่คนเดียว ถ้าเรามีคนอื่นเดี๋ยวจะหาว่าเราไม่บอกปิดข่าวอยู่ได้อยากจะให้ทุกคนรู้ว่าเรามีความรักใหม่แล้ว
สำหรับใครที่กำลังท้อคือเราอย่าไปมองคนที่สูงกว่ามีคนอื่นที่แย่กว่าเราเยอะ เราจะมีกำลังใจทุกคนท้อได้แต่ห้ามถอย คิดถึงความรักของพ่อแม่อย่าคิดสั้นเลยมันไม่คุ้ม
