“มิ้น” ปัดซุ่มคบหนุ่มนอกวงการ ครอบครัวไฟเขียวให้ตัดสินใจเอง
“มิ้น มิณฑิตา วัฒนกุล” ปัดซุ่มคบแฟนหนุ่มนอกวงการ แจงแค่อยากอยู่เงียบๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป ครอบครัวไฟเขียว ให้ตัดสินใจเอง พร้อมเผยฝันถึงน้องสาวเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเช้า หลังเสียชีวิตมานานเกือบ 5 ปี
ถูกเพื่อนในวงการออกมาแฉว่า แอบซุ่มคบหนุ่มนอกวงการอยู่ในขณะนี้ ทำให้ต้องบินไปต่างประเทศ แถมยังมีภาพมือปริศนาโผล่ในไอจี พร้อมข้อความบรรยายภาพว่า “Happiness is simple” งานนี้ ทำเอาแฟนๆ ต่างสงสัย หรือ สาว “มิ้น” อาจกำลังซุ่มปลูกต้นรักกับใครอยู่หรือเปล่า โดยสาว “มิ้น” เผยว่า
“ภาพมือที่ลงไอจีไม่ได้จะปิดอะไร แต่เราอยากอยู่เงียบๆ ก็อยากแสดงความรู้สึกอะไรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งคนในรูปอยู่ในสถานะแฟน เราสองคนคุยกันมาสักพักแล้ว เขาเป็นคนไทยแต่แค่เกิดและโตแถบสแกนดิเนเวีย เรารู้จักกันเพราะเพื่อนแนะนำ ที่ไม่ค่อยลงรูป เพราะอยากเรียนรู้ไปตามสเต็ป ถ้าเรารู้สึกว่าการอยู่กันอย่างมีความสุขแบบเงียบๆ มันดี ก็จะอยู่แบบเงียบๆ ส่วนเรื่องจะเปิดตัว จริงๆ เพื่อนทุกคนก็รู้กันหมด แต่เราแค่ไม่อยากจะต้องมานั่งเปิดมานั่งลงรูปตลอดเวลา เรารู้สึกว่าเล็กๆ น้อยๆ มีความสุขกว่า ทางเขาเองก็เห็นด้วยที่เราค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ ทางด้านครอบครัวยังไม่ได้มีโอกาสพาเขาไปเจอ เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่เมืองไทย แต่ครอบครัวก็ทราบอยู่แล้ว ท่านก็ให้เราตัดสินใจเอง”
นอกจากนี้ สาว “มิ้น” ยังเผยอีกว่า “ทั้งคู่ต่างยุ่งเวลาที่มีให้กันก็ไม่ค่อยมีด้วยกัน เราคิดว่าความสุขมันง่าย ถ้ามันใช่ก็คือใช่ เราไม่ได้หวังว่าจะต้องมีความสุขอย่างล้นพ้นอะไรมากมาย ยอมรับว่ายากในเรื่องระยะทาง แต่ถ้าเราพร้อมไปต่อมันก็ง่ายขึ้น อีกทั้งการลงรูปเล็กๆ น้อยๆ ให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง ส่วนเขาจะบินมาหาเราไหม หรือเราจะบินไปหาเขาหรือเปล่า ก็ต้องหาเวลา”
สาว “มิ้น” ยังเปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝันถึงน้องสาว “มายด์ มาธวี วัฒนกุล” ซึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เมื่อเดือน ส.ค. 55 ด้วยว่า “เมื่อเช้างีบหลับแล้วฝันถึงน้องสาว ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่น้องเสียไปที่เราฝันถึง ในวันเกิดน้องทุกๆ ปีที่บ้านก็จะทำบุญกันเป็นเรื่องปกติ ล่าสุดเมื่อวานก็เพิ่งไปถวายพระประธานที่วัดทองไผ่มา ในความฝันน้องไม่ได้คุยอะไรด้วย แต่เราก็อิ่มใจที่ได้เห็นเขา ทั้งนี้ก็ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟัง มีเพียงพิมพ์ข้อความไปบอก จริงๆ แล้วทางบ้านแทบไม่ค่อยมีใครฝันถึงน้องเลย ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าน้องจะมาบอกลาอะไรหรือเปล่า เราเพียงทำหน้าที่ของคนที่อยู่ ทำสิ่งที่ดีให้เขา เช่น สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำบุญ ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามเวลาของเขา เราแค่บอกเขาว่า ไม่ว่าต้องเจออะไรไม่ว่าจะยากหรือง่าย คุณพ่อคุณแม่ให้เอาความแข็งแกร่งที่เขามี และให้รู้ว่าเรามาจากเขา และเราก็ทำได้เหมือนกัน คือ ความรู้สึกเหมือนว่าเราได้พูดคุยกับเขาก่อนที่เขาจากไป”