เป็นอีกคู่แม่-ลูกที่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ซึ่งทุกคนในวงการต่างทราบกันเป็นอย่างดีว่า "น้องเก้า-จิรายุ ละอองมณี" ติด "คุณแม่ก้อย-วรนุช" แค่ไหน จนถูกมองว่าเป็น "ลูกแหง่" ซึ่งอันที่จริง ตอนนี้น่าจะเรียกอีกอย่างว่า "คุณแม่ตามคุมแจ" ก็ไม่ผิดนัก
พอน้องเก้าเริ่มเป็นหนุ่ม ก็เริ่มเป็นที่จับตามองของสื่อมากขึ้น โดยเริ่มจากการรับงานอีเว้นท์-ถ่ายแบบ-เดินแบบมากขึ้นเรื่อยๆ จากปริมาณงานที่น้องเก้ารับเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีได้ว่าหนุ่มละอ่อนคนนี้เป็นที่นิยมมากแค่ไหน ยิ่งน้องเก้าได้โชว์ฝีมือทางการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง "SUCK SEED...ห่วยขั้นเทพ" ซึ่งถือว่าประสบความสําเร็จสูงสุด ได้ใจวัยรุ่นเด็กแนวทั้งประเทศ น้องเก้าเลยขึ้นแท่น "หนุ่มฮอต" คนหนึ่งของวงการบันเทิงไปได้อย่างสวยงาม
ระหว่างนี้ก็มีข่าวว่าน้องเก้าดังแล้วหยิ่งบ้าง อัพค่าตัวบ้าง ซึ่งทุกข้อครหาเจ้าตัวขอปฏิเสธว่าไม่เคยทําตัวเปลี่ยนไปแต่อย่างใด แต่เรื่องค่าตัวตนไม่รู้รายละเอียดเพราะปล่อยให้คุณแม่จัดการ หลังๆ โดนข่าวอัพค่าตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนน้องเก้าเองก็ชักปฏิเสธไม่ออกเพราะมันเป็นเรื่องจริง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์เด็กสมัยใหม่ว่าค่าตัวขึ้นตามชื่อเสียงที่มีมากขึ้นของตนนั่นเอง ถือว่าแมนมากที่น้องเก้าตัดสินใจยอมรับในข้อเท็จจริงเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ที่คนในวงการหากใครมีชื่อเสียงมากขึ้นค่าตัวก็มักจะอัพขึ้นตาม
แต่คําครหาเรื่อง "อัพค่าตัว" ของน้องเก้ายังไม่ทันซา ประเด็นใหม่ที่ตอนนี้เป็นที่กล่าวขานเมาท์มอยในหมู่มวลผู้จัดงานอีเว้นท์เป็นอย่างมากว่าคุณแม่ก้อยรักลูกชายเกินเหตุกลัวน้องเก้าดังหรือเด่นน้อยกว่าคนอื่น คุณแม่จะขอเปลี่ยนนู่นนี่ อาทิ ในงานอีเว้นท์งานหนึ่งคุณแม่ขอเปลี่ยนจุดตําแหน่งยืนของน้องเก้าเพื่อให้ลูกชายอยู่ในจุดที่โดดเด่นที่สุดอะไรทํานองนี้ทําเอาป่วนกันทั้งงาน ผู้จัดรวมถึงทีมงานต่างบ่นปวดหัวสุดๆ ในความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ซึ่งอาการนี้คุณแม่จะเป็นบ่อยครั้งมากจนผู้จัดงานหลายแห่งแอบส่ายหัวไม่อยากจ้างน้องเก้าอีก
หลายคนก็เข้าใจว่า "ลูกใครใครก็รัก" คุณแม่ก้อยคงไม่ผิดนักหากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูก แต่หลายคนก็มองว่าทุกอย่างที่ทําก็ควรจะอยู่บนพื้นฐานของความพอดีน่าจะเหมาะสมกว่า (มั้ย) ♦