“อุ้ม ลักขณา” เปิดใจครั้งแรกหลังหย่าสามีไม่ขอกลับไปซ่อมบ้านอีกแล้ว

“อุ้ม ลักขณา” เปิดใจครั้งแรกหลังหย่าสามีไม่ขอกลับไปซ่อมบ้านอีกแล้ว

       เป็นเซ็กซี่สตาร์ที่เพิ่งประกาศหย่าสามี และกลับมาอยู่กรุงเทพแล้วหลังจากอยู่เชียงใหม่มา 7 ปีสำหรับ “อุ้ม ลักขณา” ล่าสุดเธอเผยถึงเรื่องหย่าเป็นเรื่องจริงและไม่พร้อมมีใครใหม่      

อ่านข่าวต่อ: อดีตสามี “อุ้ม ลักขณา” โพสต์ข้อความแบบนี้! มีลุ้นมั้ย?

         เธอบอกว่า “ตัดสินใจอยู่นานทุกอย่างต้องใช้เวลา ทุกอย่างต้องไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ มันต้องใช้สติคิดแล้วก็ไตร่ตรองให้ดี มันไม่ใช่เรื่องของอนาคตอุ้มคนเดียวมันคืออนาคตของลูกด้วย อย่างที่บอกไม่อยากให้ลูกไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว แต่สุดท้ายก็ถึงทางที่เราสองคนตัดสินใจร่วมกันแล้ว สามเดือนกว่าที่ได้พยายามทุกอย่างแล้วที่ให้มันออกมาได้สวยงามที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของเราสองคน ที่มันจะไม่ Toxic ใส่กันไม่โกรธไม่เกลียดกันสามารถทำหน้าที่ของความเป็นพ่อเป็นแม่ได้เพื่อลูก”

     “เรื่องปัญหาทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว เหตุผลก็พูดไปเยอะแล้วในรายกายสุดท้ายแล้วมันก็คือเรื่องของคนสองคน ที่มันคิดกันไปคนละทางสุดท้ายจุดจบก็คือเรามาทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้ดีเพื่อลูกดีกว่า มันก็มีไม่กี่เรื่องที่หัวอกคนเป็นเมียหัวอกคนเป็นแม่ที่มันจะรับไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมันยาก มันยากจริงๆ เรารับรู้ตั้งสติก่อนแล้วอันดับแรกที่รู้ก็มีการคุยกันกลับบ้านมาอยู่ที่เซฟโซนของเรา พอเราทั้งสองคนสงบในเรื่องของอารมณ์ทั้งคู่ เราก็มาใช้เหตุผลคุยกันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเพราะอะไร การแก้ไขคือยังไง ทางออกคืออะไร สุดท้ายมันก็จบตรงที่ว่าเราสองคนก็ได้จดทะเบียนหย่ากันเป็นที่เรียบร้อย”

        “ทุกครั้งที่มีปัญหาอุ้มก็ไม่ได้คุยกับใครเลยมีแค่เข้าอยู่แล้วเราไม่ได้มีเพื่อนมีสังคมที่นู้นแต่ว่าอุ้มจะคุยกับพ่อแม่ตลอดทุกเรื่องอยู่แล้วคุณพ่อคุณแม่น้องสาวน้องชาย”

“มันไม่ได้มีการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราสัมผัสได้ว่านี้คือขอแก้ตัวมันเป็นเพียงแค่คำพูดเฉยๆ ทุกอย่างมันอยู่ที่การกระทำ เพราะฉะนั้นการแก้ไขมันก็ต้องเป็นการกระทำทุกอย่างดูที่การกระทำ”

       สำหรับกรณีที่อดีตสามีโพสต์ว่ากำลังซ่อมบ้าน เธอเผยว่า “ที่เค้าโพสต์กำลังซ่อมบ้าน คือเค้าก็ไปลงสื่อของเค้าเองลงโซเชียลของเค้าเองแต่เค้าไม่ได้มาพูดอะไรกับอุ้ม ทุกอย่างตอนนี้คุยกันแค่เรื่องลูกอย่างเดียว เค้าต้องเป็นคนดูแลน้องดิสนีย์ในตามสัญญาที่เราตกลงกัน อย่างที่อุ้มบอกบ้านใหม่ only no รีโนเวท รีโนเวทมันก็มีรอยร้าวทุบบ้านใหม่ทำบ้านใหม่เราก็ยังอยู่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นเราก็บ้านใหม่ only”

      “ในฐานะผู้หญิงคนนึงเราต้องรักตัวเอง เราต้องเห็นคุณค่าของตัวเอง อุ้มอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีที่สุด อาจจะไม่ได้เพอร์เฟคไปในซะทุกเรื่อง แต่ในเรื่องของความรัก ความซื่อสัตย์ความใส่ใจ การเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างอุ้มถือว่าอุ้มได้มอบให้กับเค้าไปหมดหมดทั้งหัวใจจริงๆหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทิ้งครอบครัวทิ้งงานในวงการพี่ๆเห็นว่าสี่ปีที่ผ่านมาก็คือไม่ได้เจอกันเลย

       เราฝากทุกอย่างไว้เค้าจริงๆ แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้เห็นคุณค่าและได้พังทลายลงจบไปแล้ว เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีก็คือเราต้องเป็นพ่อและแม่ที่ดีให้ลูกแค่นั้น ดีขึ้นแล้วเพราะว่าเรามียาใจก็คือน้องดิสนีย์ เค้าเป็นเด็กที่ซัพพอร์ตเราตลอดทุกเรื่องเราเลี้ยงเค้าเอง ด้วยน้ำพักน้ำแรงด้วยใจของอุ้มจริงๆ”

        “เพราะฉะนั้นเหมือนกับเค้าอยู่กับเราเสมอ เลยทำให้เรามีกำลังใจในทุกๆวันที่จะใช้ชีวิตต่อไป เพียงแต่ว่าจะหาภาพตอนนี้ของเราไม่เหมือนเดิมแล้วตอนนี้ดิสนีย์ก็เริ่มน่าจะเข้าใจ อธิบายน้องตอนแรกก็บอกว่าบ้านพัง เค้าก็ถามว่าทำไมปะป๊าไม่มาด้วยแล้วก็บอกว่าป่ะป๊าต้องอยู่ซ่อมบ้านไง ซึ่งเค้าก็ค่อนข้างเข้าใจ อยากให้น้องรู้แค่นี้ไปก่อนเพราะน้องก็ยังเด็ก ตั้งแต่ย้ายมากรุงเทพเค้าก็ยังไม่ได้มาเจอลูก เค้าจะมาส่งดิสนีย์เข้าโรงเรียนวันที่เปิดเทอม ก็มีการคุยว่าถ้าเค้าอยากจะมาหาลูกช่วงศุกร์เสาร์อาทิตย์คือเราก็ไม่ได้กีดกัน คือตามวาระความเหมาะสมถ้าเราว่างเราก็พาลูกไปเจอเขาได้”

เมื่อถามเรื่องจะมีบ้านใหม่หรือครอบครัวใหม่ไหมเธอบอกว่า “บ้านใหม่ไม่มีเข้ามาเลย บ้านนี้ดีคือบ้านใหม่ ก็อยากจะมีแต่ว่ายังไม่มีค่ะ ยังไม่ได้เปิดใจด้วย อุ้มยังเข้มแข็งยังไม่แข็งแรงพอที่จะมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ เราไม่อยากเอาใครดข้ามาในความสัมพันธ์ตอนนี้ในฐานะที่เรายังไม่เข้มแข็งพอ มันจะทำให้ทุกอย่างไม่ราบรื่นไปได้ไม่สวย เพราะฉะนั้นตอนนี้อุ้มไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักเลย โฟกัสแต่เรื่องลูกเรื่องงานเรื่องชีวิตดีกว่าอนาคตต่อไปเป็นยังไง เพราะเราก็อายุมากขึ้นทุกวันจะมามัวนั่งเสียดายอดีต เราก็จะไม่ได้เดินหน้าสักที ต่อไปนี้ก็คือต้องเดินหน้าต้องทำงานต้องหาเงินต้องเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดและมีความสุขที่สุด ส่วนตัวเองก็ต้องสวยที่สุดแซ่บที่สุด ถ้าวันนั้นจะมีใครสักคนเข้ามาคนคนนั้นต้องรักลูกเรา และลูกเราก็ต้องรักเขาต้องไปนี้คิดแต่ว่าขอให้เจอคู่บุญคู่บารมีแค่นั้นพอ”   

   ตอนนี้มีงานติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ อยากทำงานแต่ก็ต้องดูเรื่องของเวลาด้วย ด้วยความที่ดิสนีย์เราเลี้ยงเขามาตลอดพอเราจะต้องกลับมาทำงาน บางทีตัวเราเองนี่แหละคิดเยอะ กลัวว่าถ้าเราไปทำงานลูกจะน้อยใจไหม ลูกจะเสียใจไหม ที่ม๊ะม๊าไม่มีเวลาให้ เพราะเค้าติดแม่มากขนาดขออนุญาตก็ไม่ให้ไป ก็บอกเขาต้องทำงานหาเงินนะลูกเค้าก็เข้าใจแต่ก็งอแงตามประสาเด็ก ไม่ก็อาจจะผลักดันลูกเข้าวงการบันเทิงแทน

       สำหรับกรณีการปรับขนาดหน้าอกให้เล็กลงเธอบอกว่า “หน้าอกที่เพิ่งถอดออกไปอาจจะคัมแบล็คกลับมา ถอดเข้าถอดออกเป็นเรื่องง่าย มีความคิดว่าจะเอากลับเข้าไป คืออย่างที่บอกคนเราต้องรักตัวเอง เมื่อก่อนรักผู้ชายมาเยอะแล้ว ก็คิดว่าแขวนๆไปเถอะ ยังไงก็ไม่ได้คิดจะมีใหม่อยู่แล้ว เค้าก็เห็นเรามาหลายเวอร์ชั่นแล้วด้วยเรื่องสุขภาพเราด้วย แต่ว่าตอนนี้ถ้าเราต้องกลับมาทำงานเราจะมานมห้อยนมเหี่ยวก็ไม่ได้ อาจจะต้อง คัมแบล็ค หวนคืนวงการกลับมา ด้วยความที่เราต้องขายความเป็นอุ้มลักขณา ความเป็นคาแรกเตอร์เราด้วย ที่ผ่านมาเราไม่ได้รับงาน แต่ตอนนี้เราต้องกลับมาทำงาน คิดว่าอุ้มอาจจะต้องกลับมาคัมแบ็ค”