ทนายดังวิเคราะห์คดี “พิ้งกี้” โทษอาจคุก 5-10 ปี

ทนายดังวิเคราะห์คดี “พิ้งกี้” โทษอาจคุก 5-10 ปี

0

ทนายดังวิเคราะห์คดี “พิ้งกี้” โทษอาจคุก 5-10 ปี
        “สาคร ศิริชัย”วิเคาระห์คดี “พิ้งกี้” โดยเขาเผยว่า 
กรณีแชร์การลงทุนโฟลิก 3-D ซึ่งตกเป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้ซึ่งมีข่าวว่าดารานักแสดงซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์จะถูกดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าว   

อ่านต่อ:“หยาดทิพย์” ช่วย “พิ้งกี้” ด้วย - daradaily

พิ้งกี้ สาวิกา

พิ้งกี้ สาวิกา

       ในคดีดังกล่าวหากบุคคลที่มีชื่อเสียงมีโปรไฟล์เป็นที่น่าเชื่อถือในสังคมหรือเป็นดารานักแสดงซึ่งมีโปรไฟล์เป็นที่น่าเชื่อถือในวงกว้างไปเกี่ยวพันในวงจรหรือกระบวนการแชร์ดังกล่าว    หากเป็นเพียงผู้เสียหายที่ใช้เงินตนเองเข้าร่วมลงทุนและได้รับความเสียหายโดยไม่มีการชักชวนบุคคลอื่นหรือประชาชนมาร่วมลงทุนและไม่ได้รับผลตอบแทนก็ถือได้ว่าเป็นผู้เสียหายไม่ตกเป็นผู้ต้องหา   

พิ้งกี้ สาวิกา

สาคร ศิริชัย


        แต่หากดารานักแสดงหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่ตกเป็นข่าวดังกล่าวใช้ความเป็นดารานักแสดงความน่าเชื่อถือ    ความมีชื่อเสียงและโปรไฟล์ในสังคมที่สวยงามเลิศหรู   ไปตกเป็นเครื่องมือหรือส่วนหนึ่งของกระบวนการแชร์ดังกล่าวโดยได้มีการชักชวนประชาชนที่หลงเชื่อมาร่วมลงทุนโดยใช้กลวิธีและกลอุบายชวนเชื่อต่างๆให้คนเอาเงินมาลงทุน และแจ้งว่าจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนมากเกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้   
        โดยดารานักแสดงดังกล่าวได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบต่างๆและมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงระหว่างผู้ลงทุน   ดารานักแสดง        และหัวหน้ากระบวนการแชร์ดังกล่าว โดยเงินที่ผู้หลงเชื่อโอนให้ดังกล่าวไม่ได้เป็นเงินที่มีการลงทุนจริงแต่นำเงินของสมาชิกที่ระดมได้ภายหลังมาแบ่งจ่ายชำระให้แก่บุคคลที่เข้าร่วมลงทุนก่อนเป็นทอดๆ    ดารานักแสดงดังกล่าวก็จะตกเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดตามพระราชจะกำหนดว่าด้วยการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2527 มาตรา 4  ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี  และปรับตั้งแต่ 500,000 บาทถึงหนึ่งล้านบาทและเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาอีกด้วย                          ซึ่งความผิดฐานดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดมูลฐานที่จะถูก ปปง. ดำเนินคดีตรวจสอบยึดหรืออายัดเงินและทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้มาจากกระบวนการดังกล่าวด้วย    ซึ่งคดีดังกล่าวทราบว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้มีหนังสือเรียกให้ไปพบแล้ว   

สาคร ศิริชัย

         จากคดีดังกล่าวในฐานะทนายความที่ทำงานเกี่ยวข้องกับคดีลักษณะดังกล่าวมาหลายคดีขอแจ้งเตือนประชาชนว่าอย่าให้ความโลภมาบดบังสติปัญญา     ขอเรียนว่าไม่มีการลงทุนใด ๆ ที่ได้เงินมาโดยง่ายและไม่ได้ลงแรงทำสุดท้ายเงินทองที่หามาได้ด้วยความลำบากก็จะไปอยู่ในมือของกระบวนการแชร์ดังกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments