ขอคนมีใจ เปิดบทสัมภาษณ์พิเศษ “กึ้ง” ล้วงอุดมการณ์-แพชชั่นดัน 411

ขอคนมีใจ เปิดบทสัมภาษณ์พิเศษ “กึ้ง” ล้วงอุดมการณ์-แพชชั่นดัน 411

          เพิ่งเปิดตัวศิลปินเดี่ยวชาวไทยเป็นครั้งแรกไปหมาดๆ สำหรับ “โฟร์ วัน วัน มิวสิก” (Four One One Music หรือ 411 Music) ที่ดึงสาวน้อยมากความสามารถ “แอลลี่ อชิรญา นิติพน” มาเดบิวท์ในซิงเกิล “How To Love (feat. GRAY)” ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของบิ๊กบอส 411 อย่าง "กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” กับความท้าทายในการทำงานเข้าสู่ปีที่ 12 ในวงการนี้ อะไรกันที่เป็นความลับภายใต้การทำงานและรู้จักตัวตนของเขาด้วยกันผ่านบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ

ตัวตนของ “บอสกึ้ง”?
          ตัวตนจริงๆ เป็นคนสบายๆ ง่ายๆ อะไรก็ได้ เนี้ยบไหม แล้วแต่งานมากกว่า แล้วแต่ความสำคัญของงาน ถ้าสมมติว่ามันเป็นงานที่สำคัญมากๆ เนี่ย เราก็จะจัดลำดับความสำคัญ และก็ให้ความสำคัญมาก และก็ต้องเนี้ยบมากหน่อย แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่ได้สำคัญมากก็จะสบายๆ แล้วแต่ คนเราต้องมีการจัดลำดับความสำคัญของงานที่เราได้รับมอบหมาย

Passion ในการทำงาน
         ทุกคนน่าจะมีหน้าที่รับผิดชอบด้วย และก็ต้องชอบด้วย ต้องบริหารจัดการทุกอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน แน่นอนทุกคนอยากจะทำอะไรที่ชอบหมดแหละ แต่ก็เป็นไปได้ทั้งหมด ก็คงต้องดูเวลาที่เรามี อะไรที่ชอบเราก็ทำ อะไรที่เราต้องรับผิดชอบก็ต้องทำ ไม่ให้ทุกอย่างเสีย นั่นคือสิ่งที่ผมทำมาโดยตลอด แต่อย่าง 411 Music ก็เป็นสิ่งที่เราเริ่มมาจากที่ชอบ และผมเป็นคนที่ชอบทำอะไรใหม่ๆ ทำอะไรที่ตัวเองไม่รู้ อยากเรียนรู้ตลอดเวลา เพราะว่าโลกเราเนี่ยมันมีสิ่งที่น่าเรียนรู้อยู่เยอะแยะ และเราเรียนรู้ไม่หมดหรอก

อุดมการณ์ของ “บอสกึ้ง”
         แล้วแต่เลยครับ จริงๆ อุดมการณ์ไม่สำคัญเท่ากับการที่เขามีใจให้กับเรา คนที่ทำงานร่วมกับผมเนี่ย ต่อให้เขาเป็นคนที่เก่งขนาดไหนก็ตาม แต่สิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากกว่าคือ เขามีใจกับเราหรือเปล่า คือคนที่มีใจต่อให้ไม่เก่งในเรื่องนั้นเขาก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้ได้ เพื่อเรา และเราก็ต้องมีใจให้เขาด้วยนะครับ แต่คนที่เก่งแต่เขาไม่มีใจ เขาก็อาจจะสามารถทำให้ใครก็ได้ อันนี้ผมว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดมากกว่า

จุดเริ่มต้นของธุรกิจบันเทิง
          คือ 411 Entertainment มาจากการที่เราเรียนรู้ใหม่ๆ ผมชอบทำอะไรนอกกรอบ ก็คือการที่เราไปทำละครไทย ในสมัยนั้นนี่ยังไม่มีละครที่ทำจากดิจิทัล เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ผมก็ไปทำละครที่เกี่ยวกับเรื่องดิจิทัล และเอาศิลปินดาราเกาหลีมาเป็นคนแสดงละครในละครไทย หลังจากนั้นก็เลยได้รู้จักบริษัทที่อยู่ที่เกาหลี เขาก็โอ้! เห็นทำจริงก็เลยสนใจอยากทำแฟนมีตติ้งไหม นั่นคือจุดเริ่มต้นของ 411 Entertainment หลังจากนั้นเราก็ติดต่อมาเรื่อย ทำมาเรื่อย ลองผิดลองถูกบ้าง ผิดพลาดเยอะแยะมากมายบ้าง จนวันนี้ 11 ปีแล้ว เราก็ทำมาโดยตลอด แต่สิ่งสำคัญอันที่เราเล็งเห็นและรู้สึกมีกำลังใจที่ทำมา 11 ปี คือ เราได้เอ็นเนอร์จี้ที่ดีจากคนที่มางาน ในแต่ละงานแฟนมีตติ้ง เราเห็นรอยยิ้มของเขา เราเห็นคนดูก็ได้มีความสุขกลับบ้าน ผมรู้สึกว่ามันเป็นกำไรของเราแล้ว ก็เลยทำมาเรื่อยๆ มาจนถึงวันนี้

แต่ละงานที่เราทำเราทำอย่างเต็มที่ และก็พยายามหาข้อมูลกับแฟนคลับทุกคนว่า           เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เรากว่าจะมาถึงวันนี้ได้เราเรียนรู้มาเยอะ และก็การบริหารจัดการบริษัทเกาหลีต้องทำแบบไหน เพราะวัฒนธรรมของแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน การทำงานก็ไม่เหมือนกัน ต้องใช้เวลาในการปรับจูนให้อยู่เข้ากันได้ ก็เรียนรู้มาเยอะ แล้วก็ทำมาจนวันนี้ก็รู้สึกสนุกดีครับ

ทำไมดูซี้ปึ้กกับศิลปินเกาหลีมากกว่าแค่การทำงาน?
           มันมาจากการที่เรา ผมเป็นคนใช้ใจฮะ คือในการทำทุกอย่างก็จากการที่เราเป็นเพื่อนร่วมงาน พอเรามีใจให้กัน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เขามีใจให้เรา สุดท้ายความสัมพันธ์จากการเป็นเพื่อนร่วมงานก็มาเป็นเพื่อนได้ การทำงานที่ผ่านมาเราก็เกาหลีมาเยอะ ได้เจอศิลปินเยอะ เมื่อเจอคนที่เคมีตรงกันความสัมพันธ์ ความเป็นเพื่อน ก็เกิดขึ้น

“คุณกึ้ง” เองก็มีแฟนคลับเหมือนกัน
           ก็ได้แต่ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส ผมก็จะมีวันนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีแฟนคลับที่คอยซัพพอร์ตและก็ให้กำลังใจ และก็คอยให้ข้อมูลว่าสิ่งที่เขาต้องการ และสิ่งที่เราจะจัดงานให้ดีเป็นแบบไหน ผมรับฟังทุกความคิดเห็นนะครับ ก็ต้องขอบคุณจริงๆ มีวันนี้ได้ก็ต้องมาจากแฟนคลับทุกคน

มาจนถึงจุดนี้ อะไรที่ท้าทายที่สุด
         ผมว่างานทุกงานมีความท้าทายหมด ถ้าเราอยากจะทำให้มันดีจริงๆ มันจะมีอะไรที่เราต้องปรับและก็ทำให้ดีขึ้นตลอดเวลา แต่สำหรับเอ็นเตอร์เทนเมนต์เนี่ยก็อย่างแรกๆ เราต้องเข้าใจ culture หรือวัฒนธรรมของเกาหลีด้วย เข้าใจวัฒนธรรมของแฟนคลับ ของคนไทย ด้วยว่าสิ่งที่เขาต้องการแบบไหน แต่ว่าการที่เราต้องเข้าใจคนกลุ่มใหญ่ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ผมว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย จนวันนี้ก็ต้องมีการพูดคุยตลอดเวลา มีการปรับความคิดกันตลอดเวลา ทำแบบไหนให้ลงตัวกัน เพราะบางอย่างเนี้ยสิ่งที่แฟนคลับต้องการทางเกาหลีก็ทำไม่ได้ สิ่งที่เกาหลีทำได้ทางแฟนคลับก็อาจจะยังไม่ครบอะไรอย่างนี้ เราก็มีการพูดคุยทำความเข้าใจตลอดเวลา ทุกๆ งานก็มีความท้าทาย และก็มีอะไรใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลาอยู่แล้วครับ

เจอกระแสที่ไม่ดี ทำยังไง
          ผมว่าสนุก เพราะว่าทุกครั้งที่เขายังให้ใจเรา ยังใส่ใจเรา ยังมีความต้องการที่จะให้คอมเมนต์กับเรา ผมถือว่าต้องขอบคุณ แล้วเราก็อยากจะทำงานอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เราอยากทำงานให้ดีขึ้น อยากให้ทุกคนมีรอยยิ้มกลับบ้านทุกครั้งที่มา

จุดเริ่มต้นผลิตศิลปินคนแรกในสังกัด
           คือผมเชื่อว่าคนไทยน่าจะไม่แพ้ชาติใดในโลกนะครับ แล้วเราทำงานกับทางบริษัทเกาหลีมาประมาณ 10 กว่าปีแล้ว เราได้เห็นว่าทางเกาหลีก็สามารถพัฒนาศิลปินเขาที่มีคุณภาพ และก็สามารถไปโชว์ได้ทั่วโลกแล้ว ถ้ามาวันนี้ เราก็ว่าเอ๊ะ! ทำไมเราไม่ใช้ประสบการณ์ที่รู้จากเขามาให้กับเยาวชนไทย และผมก็เชื่อว่าคนไทยและเด็กไทยทุกคนถ้าเกิดได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ อย่างที่ทางเกาหลีได้ทำ ผมก็คิดว่าน่าจะทำให้ดีขึ้นได้ ผมก็เลยอยากดึงประสบการณ์เหล่านี้มาเปิด และมาสร้างโอกาสว่าเพลงไทยก็สามารถที่จะทำให้คนต่างชาติร้องได้เนอะ ก็เลยเป็นศิลปินแรกของเรา “น้องแอลลี่” ขึ้นมา โดยที่เพลงก็จะเป็นเพลงที่มีทั้งเพลงไทย อังกฤษ และก็เกาหลี ในเพลงเดียวกัน เพราะผมเชื่อว่าภาษาเพลงเป็นภาษาที่เหมือนทำไมเราร้องเพลงภาษาญี่ปุ่นได้ ร้องอเมริกาได้ ร้องจีนได้ จริงๆ มันเป็นภาษาเพลง ทำไมไม่ใช้ภาษาเพลงที่คนต่างชาติสามารถร้องเพลงไทยได้

ทำไมเป็น “แอลลี่”
           คนเก่งก็มีเยอะ แต่ว่าคนที่เก่งด้วย พยายามด้วย และมีใจด้วย ก็คือ “น้องแอลลี่”  ผมได้เจอเขาตั้งแต่อายุประมาณ 13 กว่าๆ แล้วก็ได้มานั่งคุยกันในออฟฟิศ และผมเล็งเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขา เหมือนไฟที่เขามีอยู่ และก็มีความมั่นใจว่าสิ่งที่เขาอยากจะเป็นมันมากเกินกว่าที่ผมจะไม่มองได้ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้บอกเขานะฮะ แต่ว่าหลังจากที่ผมเห็นตรงนี้ ก็ต้องไปผ่าน process หรือขั้นตอนทางทีมที่อยู่เกาหลีเหมือนกัน ผมก็โอเค ผมว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่มีอนาคต ก็เลยส่งไปออดิชั่นที่ทีมเกาหลี ทีมเกาหลีก็จะเป็นคนออดิชั่นให้เขาเต้น ให้เขาร้อง ให้เขาโชว์ ว่าสิ่งที่เขามีเป็นแบบไหน แล้วก็เห็นตรงกันว่าน้องคนนี้ไปได้ ก็เลยใช้เวลาอยู่กับน้องที่เทรนอยู่ที่โน่นประมาณปีกว่า

พูดถึง #ลูกสาวมาแน่
          #ลูกสาวมาแน่ ก็น่าจะเริ่มมา ก็หวังว่าผมอยากให้เป็นศิลปินคนแรกของ 411 Music แต่ผมว่าคนไทยทุกคนก็อยากจะโชว์ว่าประเทศไทยของเรามีดียังไง ผมว่า “น้องแอลลี่” ก็เป็นคนหนึ่งที่ถ้าเราสนับสนุน แล้วก็ช่วยกัน ก็จะทำให้น้องมีฐานที่สามารถไปโชว์ศักยภาพคนไทยได้

มอง “แอลลี่” ไปถึงจุดไหน
           ผมก็บอก “น้องแอลลี่” ตั้งแต่ต้นๆ ว่าทางบริษัทเตรียมให้ได้เต็มที่ ทำทุกอย่างให้ได้เต็มที่ ลงทุกอย่างให้ได้เต็มที่ ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่สุดท้ายจะดังไม่ดังอันนี้เป็นสิ่งที่ฟ้ากำหนด คือความดังก็ขึ้นกับที่คนชอบไม่ชอบ ถูกหูไหม อันนี้ไม่สามารถที่จะทำ แต่เราว่าเราเตรียมตัวได้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ นั่นคือ เราทำดีที่สุดแล้ว แล้วน้องก็เป็นคนเข้าใจ ก็พยายามอย่างเต็มที่ โอ้โห กว่าจะผ่านมา 1 ปีเสียน้ำตาไปไม่รู้เท่าไร ท้อไม่รู้เท่าไร เขามีเต้นไม่ยอมบอก เจ็บก็ยังเต้นอยู่ จนแบบต้องเข้าโรงพยาบาลก็มี ก็ไม่ยอมบอก คือน้องเขาเป็นคนสู้นะครับ มาถึงวันนี้ก็ต้องขอบคุณน้องเขาด้วยที่ไม่ท้อ แล้วก็มีวันนี้ได้ เราหวังว่าอันนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเฉยๆ จะไปถึงไหนได้ก็ขึ้นอยู่ว่าจะเป็นยังไง แล้วก็แน่นอน ทุกวันทำให้ดีที่สุด ผมบอกแค่นั้น ทำให้ดีที่สุดทุกวัน แค่นั้น

ฟีดแบ็คที่กลับ
          ผมขอบคุณดีกว่ากับเสียงตอบรับที่ได้มา ขอบคุณมาก แล้วก็อยากให้สนับสนุนน้องไปเรื่อยๆ แล้วก็เราอยากให้มีผลงานดีๆ จากคนไทย บริษัทไทย จากประเทศไทย ที่จะไปทั่วประเทศไทย นอกจากนั้นก็ไปต่างประเทศได้ด้วย

Life Goal ของ “กึ้ง”
        คือผมชอบเห็นคนรอบข้างมีความสุข Life Goal ของผม ผมก็อยากทำให้ตัวเองเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ มีศักยภาพเก่งพอในการทำ จะดูแลคนรอบข้างหรือคนที่ผมสามารถดูแลได้ให้มีรอยยิ้มทุกวัน นั่นคือ Life Goal