“มาร์กี้ ราศรี” เผยหลังถูกตม.ฮ่องกงกักตัว พร้อมเคลียร์ดราม่า “มารีน่า-ริชชี่”
มีโอกาสได้เดินทางไปทำบุญไหว้พระขอพรที่ฮ่องกงแต่ก็เจอปัญหาถูกทางตม.กักตัว เลยไม่รู้ความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร สำหรับคู่ของ “ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” กับ “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์” ล่าสุดฝ่ายหญิงก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมเคลียร์ดราม่าแทนน้องสาว “มารีน่า ศดานันท์ บาเล็นซิเอก้า” กรณีเปลี่ยนตัวนางเอกละครเรื่อง “ซ่อนเงารัก” กับ “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” ให้ฟังด้วยว่า
อ่านข่าวต่อ : “มารีน่า” พูดแล้วหลังรับไม้ต่อ “ริชชี่” ใน "ซ่อนเงารัก"
ก็คิดว่าน่าสงสัย เพราะไปเช้ากลับเย็นไหว้พระเสร็จก็กลับเลย เพียงแค่ 5-6 ชั่วโมง เขาขอพาสปอร์ตไปดูและถามมากับใครก็ไม่ได้ตกใจ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วเลยพอรู้ แต่ครั้งนั้นไปคนเดียว ครั้งนี้อยู่ฮ่องกงแต่ข้ามไปมาเก๊าเขาก็ตรวจปกติของแต่ละประเทศที่เข้าไปอยู่แล้ว ก็ถูกเช็กขากลับจากมาเก๊า ก็อธิบายว่าพาพนักงานรายการยูทูบมาไหว้พระ เขาก็ถาม โชคดีช่องตนมีคนตามเยอะ โดยได้ใช้เวลาเคลียร์ 1 ชม. หลังจากนี้หากจะไปไหนก็ไม่ได้ซีเรียสมองเป็นเรื่องปกติ ขำๆ ก็เรื่องความปลอดภัยเป็นความสำคัญของแต่ละประเทศ เข้าใจ ขำๆ การแต่งตัวตนก็ไม่ได้แต่งน่าสงสัยก็ไม่รู้จะเป็นทางผู้ช่วยหรือเปล่า
ส่วนเรื่องที่น้องสาว “มารีน่า” เจอกระแสดราม่า มองว่านักแสดงทุกคนมีประสบการณ์เรื่องโดนคอมเมนต์อยู่แล้วทั้งดีและไม่ถูกใจ หรือไม่ชอบทุกอย่าง ผ่านมาก็ให้ผ่านไป ก็บอกน้องอะไรที่ไม่ดีให้มองข้ามไป อะไรที่ไม่ดีแต่สามารถนำมาพัฒนาตัวเองได้ก็เอามา ถ้าไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็ข้ามไป โดยน้องก็ไม่ถึงกับเครียด เข้าใจละครเรื่องนี้เล่นยาก เห็นใจทุกคนที่เล่นด้วย ก็ทำงานเหนื่อยอยากให้งานออกมาดี เรตติ้งดี เขาก็ดีใจ เรื่องเสียบแทนก็มีงานมาหากโอเคที่จะรับก็รับตนก็เคยเจอการเปลี่ยนตัวแบบนี้ การทำงานหากติดขัดก็ต้องมีคนมาทำแทน เพราะมีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำ ถ้าทุกอย่างทำไปแล้วก็ต้องทำให้จบ เพราะรับมาแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด โดยเห็นกระแสข่าวที่น้องโดนโจมตีก็เบาๆ เขาต้องผ่านไปให้ได้ แต่เขาเข้มแข็งไม่ร้องไห้กับอะไรแบบนี้ ซึ่งตนก็ได้ชมละครน้องเล่นเขาก็พัฒนา ก็มีบางอย่างที่ขัดบ้าง
แต่เล่นบทฝาแฝดยาก ตนเคยรับแต่บทที่ตนรับไม่ยากซับซ้อนเท่าน้อง เพราะต้องเป็นฝาแฝดที่มาสลับตัวกัน เขาทำได้ในระดับที่ประสบการณ์เขามี เขาไม่ได้กดดันแค่บอกว่าเหนื่อยเครียดตอนกลับมาบ้าน เพราะตัวละครต้องร้องไห้เยอะ ตนเคยผ่านมาก็คิดว่าไม่เหนื่อยขนาดนั้น เดี๋ยวก็ผ่านไป แต่พอดูเองก็ยังแทบกลั้นหายใจเลย ด้านผลงานเพลงของสามีอย่าง “วิบวับ” ก็ดีใจกระแสดี เขาตั้งใจทำเองอยากให้ผลงานที่ทำทุกอันดี ก็ไม่มีค่าย หรือ พีอาร์ มาร์เก็ตติ้ง ตนคอยช่วยคิดและมีทีมงาน 4-5 คน เขาบอกขอบคุณที่ช่วย และเขาให้เป็นเงินเดือนในนามบริษัทอยู่แล้ว เขาก็บอกให้ช่วย โบนัสก็ถามทุกวัน ถ้าถึง 100 ล้านวิวจะให้อะไร หรือถ้ามีคอนเสิร์ตอีเว้นท์จะให้อะไรตน บอกจะหัก 30% เขาเลยบอกจะให้หมดเลย เพลงที่ทำสมัยนี้เดาทิศทางคนฟังยาก ก็สุ่มทำให้หลายแบบต้องมีโดนบ้างไม่โดนบ้าง ก็บอกเขาสู้ มีแบบดีใจเสียใจปนกันไป ก็มองปกติของการลงทุนทำธุรกิจ