จากวันนั้นจนถึงวันนี้ “ภูมิ ภูมิสิทธิ์” กับประสบการณ์ 5 ปีในวงการบันเทิง
ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีศิลปินน้องใหม่แจ้งเกิดขึ้นมาในวงการเพลงไม่เว้นแต่ละวัน แต่ต้องบอกเลยว่า “ภูมิ ภูมิสิทธิ์ วงศ์สมบูรณ์” จากวง “P2K” เป็นอีกหนึ่งคนที่มากความสามารถ และเป็นศิลปินสายเอ็นเตอร์เทนจริงๆ ร้องเพลงเพราะ ความสามารถดี แถมลีลายังเด็ดดวงโดนใจสุดๆ จ้างร้อยให้ล้านสมคำร่ำลือจริงๆ ว่าแต่จุดเริ่มต้นกับเส้นทางดนตรีของเจ้าตัวจะเป็นยังไง แล้วสิ่งที่ได้จากวงการนี้คืออะไร วันนี้เราไปล้วงคำตอบมาให้ฟังกันแล้ว
ชีวิตวัยเด็กพื้นเพเราเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่กรุงเทพฯ เป็นเด็กกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็เป็นลูกคุณครู เพราะแม่เราเป็นครูสอนที่โรงเรียนเราเลย เพราะฉะนั้นการเรียนเราก็จะทิ้งไม่ได้ ตอนนั้นก็ร้องเพลงด้วย เป็นนักร้องของโรงเรียน กีฬาสีทีไรเราก็เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ก็ค่อนข้างที่จะเป็นเด็กกิจกรรม ก็มีเรียน มีโดดเรียนบ้างทั่วไปเหมือนเด็กปกติเลยครับ
อย่างเราเรียนที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เราก็จะมีรุ่นพี่ในวงการที่จบโรงเรียนเดียวกันหลายคนมาก อย่าง พี่พลอย พี่เจนี่ น้องแต้ว ทุกคนใช้ชีวิตในวงการบันเทิงตั้งแต่วัยเรียน มาเรียนเช้า บ่ายลาไปถ่ายละคร เราก็จะเห็นความเคลื่อนไหวของพวกเขาแบบนี้มาตลอด เพราะเราก็เคยทำกิจกรรมร่วมกัน มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าถ้าโตขึ้นเราอยากจะทำให้ได้แบบนี้บ้าง ที่ทั้งทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย จัดการงานทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันได้
เราเริ่มเข้าวงการจากการประกวด “ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่น 11” ตอนที่ไปออดิชั่นก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ เพราะเราค่อนข้างที่จะอายุเยอะแล้ว มาหลายรอบมากรุ่น 8-9 ก็มา ตอนนั้นก็ท้อแล้วนะ และคิดว่าควรจะเดินหน้าไปกับความจริง แต่พอประกาศว่าเราเข้ารอบเราก็ดีใจมากที่ได้มาเป็น 1 ใน 12 คนของรุ่นที่ 11 เราก็เป็นพี่ใหญ่สุดของบ้าน ตอนประกวดก็กดดันมาก ฝึกซ้อมและท้าทายตัวเองหนักมาก แต่ต้องบอกเลยว่าดีใจมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเอเอฟ เราก็รักครอบครัวนี้มากด้วย
ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เราอยู่ในวงการนี้มา 5 ปีแล้ว สิ่งที่เราได้มากที่สุดก็คือมิตรภาพดีๆ ของคนในวงการ โดยเฉพาะกับครอบครัวเอเอฟ เราจะพูดกับตัวเองเสมอว่าทุกครั้งที่เราได้ร่วมงานกันกับทุกคนมันเหมือนเราอยู่กับครอบครัว เรานึกถึงกันเสมอ มันน่ารักมากจริงๆ
ต้องบอกก่อนว่าตอนเราอยู่ในบ้านเราไม่รู้ความเคลื่อนไหวภายนอกเลย แต่พอเราออกมาสู่โลกความจริงแล้วเราก็มีไปย้อนอ่านตามกระทู้ต่างๆ เราก็มีโดนเหมือนกัน แต่แฟนคลับของเราจะคอยบอกเสมอว่าให้เลือกเก็บเฉพาะดอกไม้ตามข้างทางที่เราเดินไป เราอาจจะได้เจอกับอะไรมากมายทั้งดีและไม่ดี แต่เราควรเลือกเก็บแต่ดอกไม้มากกว่า เพราะฉะนั้นให้เราเก็บคำชมมาเป็นกำลังแรงใจในการทำงาน ส่วนคำติ เราก็ไม่ควรทิ้ง เพราะนั่นคือสิ่งที่หลายๆ คนมองเห็น เราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เรายังทำได้ไม่ดีพอ ส่วนคำว่าร้ายหรือด่าทอก็ปล่อยทิ้งไปดีกว่า เพราะมันจะมาบั่นทอนเราเปล่าๆ การรับมือกับดราม่าเราก็ควรดูเป็นเคสไปมากกว่า
ก็ขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคน ผมจะบอกตลอดว่าทุกคนไม่ได้เหมือนเป็นแฟนคลับแต่ทุกคนคือครอบครัว คือเอเอฟเนี่ยเราจะเรียกกันเป็นบ้าน บ้านคนนั้นคนนี้ เวลาเราไปเที่ยวออกทริปกันเราก็จะไปกันเป็นครอบครัว เวลาเราพูดคุยกันก็ค่อนข้างเป็นกันเองมาก เขาจะรู้ว่าเราเป็นคนยังไง เขารับเราได้หมดเลย ทุกคนน่ารักมากจริงๆ ก็ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ยังอยู่กันมา ถึงตอนนี้จะ 5 ปีแล้วก็ยังคงตามกันอยู่ และก็ขอให้อยู่เป็นครอบครัวด้วยกันแบบนี้ตลอดไปนะครับ (ยิ้ม)