"แพท-เบนซ์" จับมือส่ง "เรสซิ่ง" เข้าเรียนอินเตอร์ อึ้งลูกไม่ร้องไห้เลย
ปกติก็ตัวติดกันทุกวันอยู่แล้วสำหรับคู่แม่ลูก "แพท ณปภา ตันตระกูล" และ "น้องเรสซิ่ง" แต่ล่าสุดถึงวัยที่ลูกชายสุดหล่อต้องเข้าโรงเรียนแล้ว โดยเป็นการเข้าเรียนวันแรกของ "เรสซิ่ง" มีคุณแม่ "แพท" พร้อมด้วยคุณพ่อ "เบนซ์" มาส่งถึงหน้าห้อง ซึ่งต่างก็ลุ้นว่าลูกชายจะร้องไห้ไหม ไปฟัง "แพท" เล่าถึงโมเมนต์ไปส่งลูกชาย
อ่านข่าวต่อ
"แพท" เปิดใจได้ทำหน้าที่ลูกจนวันสุดท้าย ตื่นเต้นมีน้องชายเพิ่มอีกคน
"น้องเรสซิ่ง" ไปโรงเรียนวันแรกเป็นอย่างไรบ้าง ตื่นเต้นทั้งแม่ทั้งลูกค่ะ เพราะเราคิดไว้อยู่แล้วว่าลูกเราจะต้องไม่มีโมเมนต์ร้องไห้ หรืออาลัยอาวรณ์แม่ และที่สำคัญ ลูกเราตอบได้แค่คำว่า Yes ซึ่งถือว่านางฉลาดมาก เพราะไม่ว่าคุณครูจะถามอะไรนางก็ตอบ Yes ทั้งหมด จน “แพท” เองก็เหวอ คือเเบบเขาทำได้ และหลังจากเขาเข้าห้องเรียนไปก็ไม่เหลียวหลังมาหา “แพท” เลย ขนาดเราพยายามเรียกให้เขาหันมามอง เขาก็ยังโบกมือบ๊ายบาย อารมณ์ประมาณว่าทำไมแม่ไม่กลับสักที ลูก ลูกมีแม่นะ ก็คือไม่ร้องไห้เลยค่ะ
ส่วนเรื่องเวลาตอนที่ไปรับกลับ จริงๆ เขาเลิกเรียนตอนบ่าย 2 แต่ “แพท” ไปรอเขาตั้งแต่บ่ายโมง ซึ่งคุณครูก็เล่าให้ฟังว่าน้องไม่ร้องไห้เลย คึกคักตลอดทั้งวัน เต้นไม่มีหยุดเลยจริงๆ แถมยังชวนเพื่อนๆ เต้นด้วย พลังงานเยอะมาก สำหรับเรื่องการเตรียมตัวไปโรงเรียน คุณครูก็บอกว่าคุณแม่ขาดของใช้ของน้องหลายอย่างเลย อย่างเช่น คุณแม่มีที่นอนกับหมอนก็จริง แต่ว่าคุณแม่ไม่มีผ้าห่มให้น้อง คุณแม่ไม่มีรองเท้าสลิปเปอร์ให้น้อง คุณแม่ไม่มีชุดน้องให้น้อง คุณแม่ไม่มีแปรงสีฟันให้น้อง และก็ฝากให้คุณแม่ช่วยเตรียมของทั้งหมดมาด้วยในวันพรุ่งนี้ ก็รับปากคุณครูไปแล้วค่ะว่าพรุ่งนี้จะเตรียมตัวไปให้ดีที่สุด
ปกติเราเป็นคุณแม่ที่ติดลูกมาก ความรู้สึกเป็นยังไงบ้างตอนเข้าไปโรงเรียน เป็นวันที่รู้สึกว่าเหงาค่ะ เวลาอยู่ในรถคนเดียวมันก็เงียบ ไม่มีเขามาคอยถามโน่นนั่นนี่เพราะเขาไปโรงเรียน ก็อย่างที่บอกไงคะ รีบไปรับเขาตั้งแต่บ่ายโมงเลย หลังจากเลิกเรียนแล้วได้ถามน้องไหมว่าเป็นยังไงบ้างการไปโรงเรียนวันแรก ถามค่ะ เขาก็บอกว่าไม่ร้องไห้ สนุก จะไปโรงเรียนอีก ยืนยันแล้วว่ายังไงพรุ่งนี้ก็จะไปให้ได้ ซึ่งในมุมของเราเอง เราก็ได้รับรู้ถึงมุมของแก๊งผู้ปกครองที่เราไม่เคยรู้มาก่อน มีกลุ่มแชทผู้ปกครอง มีกลุ่มแม่ๆ ที่พูดคุยเรื่องขนม
ตอนไปส่งเขาที่โรงเรียนมีโมเมนต์น้ำตาคลอบ้างไหม แค่เกือบๆ ค่ะ แต่ด้วยความที่ลูกเราตลกไง เพราะเขาไม่เหลียวหลังมาหาเราเลย แถมวันนี้ก็เป็นวันที่คุณพ่อเขาไปส่งด้วย เรายังคุยกับคุณพ่อเขาเลยว่าลูกไม่มองเราเลยจริงๆ นะ ซึ่งคุณพ่อเขาก็ตอบกลับมาว่า ลูกคงจะเบื่ออะไรเดิมๆ แล้ว
แสดงว่ามีการนัดกับ "เบนซ์" เพื่อจะไปส่งลูกที่โรงเรียนถูกไหม ใช่ค่ะ ก็มีการนัดกัน และก็ไปเจอกันที่โรงเรียน นางเห่อกว่าเราอีก นางถ่ายรูปลูกทุกโมเมนต์ มีรูตรงไหนนางถ่ายหมด เยอะ ส่วนเรื่องที่เขาจะไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวันไหม อันนี้ก็แล้วแต่เขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับเราด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าหากเรามีงานแม่ลูกเราก็คงต้องลา แล้วก็ไปบอกเขาว่าลูกไปหรือไม่ไป หรือถ้าวันไหนที่เขาสะดวกไปรับก็ให้เขาไปค่ะ ก็คือแล้วแต่เขาเลย หากเขาสะดวกอะไรยังไงก็ให้เขาทักมา
นอกจากเป็นการเปิดโลกของลูกแล้ว ยังเป็นการเปิดโลกของเราในฐานะคุณแม่ด้วย ใช่ เอาจริงๆ นะเราไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องแต่งตัวยังไงเพื่อไปรับไปส่งลูกโดยที่ให้ตัวเองดูเป็นคุณแม่ และไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง ซึ่งมันไม่ได้มีการแต่งตัวแข่งกันอะไรเลยนะคะ แต่เราแค่กลัวว่าเราจะดูไม่เหมือนคุณแม่ก็เท่านั้นเอง ตลก ขนาดลูกเรายังแต่งตัวแน่นเลย “เรสซิ่ง” แต่งตัวนานจนเพื่อนถามว่ามาเรียนหรือมาเดินแฟชั่นโชว์ ก็คือเราไม่รู้ไงคะ เราฟิตติ้งกันสองคนแม่ลูกตอนกลางคืนก่อนไปโรงเรียน มันก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ลืมของใช้บางอย่างของลูกไง
เรื่องค่าเทอมเรากับ "พี่เบนซ์" จัดการกันอย่างไร เราแบ่งกันคนละครึ่งค่ะ คือมันเป็นความตั้งใจของเราทั้งคู่อยู่แล้วที่อยากให้ลูกเรียนอินเตอร์ แต่ก็คือจะให้เขาทดลองไปก่อน 4 ปี ถ้าหากแม่สามารถไปต่อไหวเราก็จะไปค่ะ