“หนูแหม่ม-บ๊อบบี้” ควงเปิดใจชีวิตคู่ อยากมีลูกมากแต่ทำไม่ได้
เป็นอีกหนึ่งคู่รักตัวอย่างที่หลายคนชื่นชอบ สำหรับ “หนูแหม่ม สุริวิภา” และ “บ๊อบบี้ โรเบิร์ต พูนพิพัฒน์” ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 23 ปีแล้ว แต่กว่าจะมายืนถึงตรงนี้ได้พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคมากมายเลยทีเดียว งานนี้เขาได้จับมือมาพูดคุยชีวิตรักผ่านรายการทอล์คโชว์ชื่อดัง พร้อมกับเปิดใจถึงการอยากมีลูกแต่ไม่สำเร็จเสียที ถึงขั้นจะต้องแยกทางกันไปเลยทีเดียว
อ่านข่าวต่อ :
"แหม่ม" อัพเดทความสัมพันธ์ "หนูแหม่ม"
ช่วงที่แต่งงานใหม่ๆ “หนูแหม่ม” มีรายการ 7 รายการ อาจจะกระทบต่องาน พอตอน 36 ปี เราเริ่มปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ปล่อยได้สัก 1-2 ปี มันเริ่มแบบไม่ติด ไปหาหมอ ทำตั้งแต่สเต็ปที่เบาสุด จนถึงผสมในหลอดแก้ว ทำทุกอย่างตอนแรกมันก็ติด เราก็กรี๊ดกันทั้งบ้าน พอ 3 เดือนก็ดิ่งลง มันทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ตอนนั้นก็เสียใจทั้งคู่เลย เคยแท้ง ขณะที่แท้งหมอบอกว่ามันขูดไม่ได้ ต้องรอ ทุกอย่างมันเกาะหมดแล้ว แต่ว่ามันไม่มีหัวใจมันฝ่อ แต่ว่าการฝ่อก็คือการแท้ง
วิธีการแท้งมันก็มีหลายแบบ เราก็โดนมาแล้วทุกแบบทั้งขูดออก เขี่ยออก ให้ออกเอง เพราะว่าทำเป็นสิบครั้ง พี่อายุ 40-41 พี่ก็เลยมานั่งคุยกันบอกว่าเรามาถึงจุดที่เราต้องหยุดแล้วดีไหม ถ้าเราฝืนมันมากเกินไป บางทีลูกออกมาขาดกับเกิน ทีนี้เรามานั่งคุยกันเมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหานั้นเราพร้อมไหม แล้วเราจะเดินไปด้วยกันยังไง แล้วใครจะตายก่อน ถ้าเผชิญพร้อมกันเราจะสู้
เรารู้ว่าอีกฝ่ายอยากมีลูกมาก ครอบครัวเขาก็คาดหวังมากเช่นกัน เรารู้สึกว่าหมดทางแล้ว เลยบอก “บ๊อบบี้” ว่าอนุญาตให้มีเมียใหม่ได้เลย จะเป็นน้อยหรือเป็นหลวงแล้วแต่เธอเลย เธอจัดการกับมันได้เลย ฉันก็จะอยู่ในพื้นที่ของฉัน ในวันนั้นพี่พูดจริงๆ แต่พี่ไม่รู้ว่าถ้าเกิดขึ้นจริงๆ พี่จะทำได้ไหม แต่พี่รู้สึกว่าพี่ยอมรับอันนี้ได้ ด้าน “บ๊อบบี้” บอกว่าทำไม่ได้ เพราะเราต้องให้เกียรติเขา
เคยมีเกือบหย่ากันด้วย ต่างคนต่างไปดีไหม เพราะว่าเหมือนเราไม่เข้าใจ แล้วตอนนั้นทะเลาะกันแค่เรื่องวัฒนธรรมที่มันแตกต่างกัน คือเราถูกเลี้ยงมาคนละแบบ อีกคนเลี้ยงแบบต้องสู้ด้วยตัวเอง แต่อีกคนเติบโตมาในแบบที่มีแต่ครอบครัว ถ้าให้พี่เลือกระหว่าง “บ๊อบบี้” กับครอบครัววันนั้นที่เราคุยกันพี่เลือกครอบครัว แต่จุดนั้นพอเราเริ่มขอหย่ากันแล้ว แล้วเรามานั่งคุยกันมันทำให้เรารู้ว่าจริงๆ การที่มีคนละวัฒนธรรม หรือการโตมาคนละแบบ เราต้องมองคนละแบบแล้วต้องเข้าใจของอีกฝ่ายให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ทุกวันนี้ก็เลยอยู่ด้วยกันได้