“นาวิน ต้าร์” ทุ่มเงิน 100 ล้าน ซื้อบ้านที่ลอนดอน พร้อมปั๊มทายาทคนที่ 2
เป็นอีกหนึ่งคู่รักเตรียมตัวย้ายไปอยู่ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ สำหรับครอบครัวของนักร้องนักแสดงหนุ่ม “นาวิน ต้าร์” หรือ “นาวิน เยาวพลกุล” และภรรยาสาว “ไฮโซน้ำหวาน พัสวี พยัฆบุตร” เพราะหลังจากที่ทั้งคู่ไปเปิดคลินิกความงามที่นั่น ซึ่งล่าสุดก็เตรียมตัวซื้อบ้านในราคาเกือบ 100 ล้าน งานนี้มีโอกาสได้เจอ “นาวิน ต้าร์” เจ้าตัวเผยว่า
ตอนนี้ลูก้าจะ 2 ขวบแล้ว อยู่ในวัยที่รู้ความต้องการของตัวเอง แต่ยังไม่มีเหตุผล เขาก็จะอ้อนพ่อ เขาจะมีความชอบของเขาเอง ก็สนุกดีที่ตอนนี้เขาเริ่มพูดได้และเถียงตลอดเวลาครับ เขาจะไม่ยอมให้ผมเปิดคอม ผมนั่งทำงานอยู่เขาเห็นเขาก็จะแย่งไป เขาบอกว่าของลูก้า เป็นของลูก้าแล้ว ผมก็จะบอกว่าไม่ได้นะ แย่งแบบนี้ไม่ได้ นี่ของปะป๊า เขาก็บอกไม่ใช่ นี่ของลูก้า ลูก้าเขาอยากจะได้อะไรเขาก็ได้หมดทุกอย่าง เขาก็จะเป็นแนวอ้อนขอดูยูทูป ซึ่งเด็กวัยนี้จะชอบกันมาก จะใช้โทรศัพท์เราซึ่งเราเองไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเขา เราเองก็จ้องโทรศัพท์เยอะ เขาก็จะตามเรา ก็รู้สึกเป็นห่วงเขาเหมือนกัน เราก็รู้ถึงอันตรายที่สื่อพวกนี้ทำกับสมองของเด็ก ก็พยายามหลีกเลี่ยงกัน ก็จะพยายามไม่ให้เกิน1ชั่วโมงต่อวัน แล้วในทุกๆครั้งที่ดูวิดิโอยูทูปหรือใช้โทรศัพท์ผมก็จะอยู่ด้วยเสมอ มันจะไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เรากับลูกดูห่างกัน ไม่ใช่ว่าลูกดูแล้วเราไปทำอย่างอื่น สิ่งนั้นเราต้องพยายามไม่ให้เกิดขึ้น ต้องเป็นกิจกรรมที่ทำให้พ่อแม่ลูกมาสนใจสิ่งเดียวกันมากกว่าแยกย้ายกันไป
ช่วงนี้ที่บ้านไปเที่ยวกันบ่อย เป็นกิจกรรมที่บ้านเราชอบกัน จะไปเที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวต่างประเทศ ลูก้าก็ติดสอยห้อยตามไปด้วย ผมรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นนะครับที่บอกเด็กยังจำอะไรไม่ได้หรอก ยังไม่รู้ความเลย ผมขอให้เขามีความสุขก็พอ ขอให้คนรอบตัวเขามีความสุข พอคนรอบตัวเขามีความสุขเขาก็จะมีความสุขไปด้วย ผมขอแค่นั้นพอ เขายังไม่ต้องจำอะไรได้ก็ได้ครับ แต่ผมสังเกตทุกครั้งที่ไปต่างประเทศนานๆแล้วกลับมาเขาจะมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดเสมอ ทริปที่ไป
ล่าสุดที่ผ่านมาก็ไปกันมาเกือบ20วัน มีประชุมงานรวบรัดจบกันมาก็นานพอสมควร กลายเป็นว่าลูก้าพูดได้ แล้วก่อนหน้านั้นลูก้าเขาจะอ้อแอ้ ไม่ได้พูดเยอะ แต่พอเขากลับมาเขาก็พูดไม่หยุดเลย เขายังไม่2ขวบเลยแต่เขาพูดเก่งมาก พูดเป็นเหตุเป็นผลด้วย ปะป๊าทำให้หน่อย ลูก้าทำไม่ได้ เปิดให้ลูก้าหน่อยได้ไหม ปะป๊าอุ้มลูก้าไหวไหม ยายเหนื่อย ยายไม่ต้องอุ้มก็ได้ เขาจะมีความห่วงใย มีเหตุมีผล เราเพิ่งรู้ครับว่าเขาคิดได้เยอะขนาดนั้น
ส่วนสาเหตุที่ให้เราอยากจะซื้อบ้านที่อังกฤษ ก็เป็นเรื่องที่ผมกับภรรยากำลังดูๆกันอยู่ เพราะว่าผมกับคุณน้ำหวานเราทำงานกันที่โน่น มีธุรกิจเป็นคลินิกอยู่ที่ลอนดอน ก็รับคนไข้ทั้งคนไทยทั้งต่างชาติ โคกับแพทย์ที่นี่ด้วย มันก็เป็นเรื่องที่เราทำกันอยู่แล้ว ทีนี้ถ้าเราจะต้องไปที่นั่นบ่อยๆถ้าเรามีบ้านเป็นของเรามันก็จะสะดวก ผมเน้นเรื่องความประหยัด อย่างที่ข่าวออกไปว่าชีวิตเราหรูหรา ชีวิตเราดี จริงๆแล้วก็ต้อง บอกว่ากับบ้านในใจกลางเมืองลอนดอนมันก็ราคาประมาณนี้
ผมมองไว้ประมาณ ก็ไม่ถึงขนาด 100 ล้านหรอกครับ มันก็ราคาสมเหตุสมผล ราคาเท่านี้ที่ผมมองไว้มันก็ได้ 100 ตารางเมตร เป็นอพาร์ตเม้นต์เล็กๆในลอนดอน อย่างที่บอกผมว่าผมเน้นประหยัด บวกกับสภาวะทางเศรษฐกิจทางการเงินของประเทศอังกฤษตอนนี้เงินปอนด์มันอ่อน เงินไทยแข็งค่ามากที่สุดในรอบ6ปี เงินปอนด์อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ15ปี แล้ว
อสังหาริมทรัพย์ของที่โน่นลดต่ำลงมากที่สุดประมาณ10-20เปอร์เซ็นต์ ราคามันลดลงเลยนะ มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆมันเป็นจังหวะที่ดี ที่เราจะเริ่มลงทุน ก็มองด้วยเหตุผลทุกอย่าง ผมมองที่ความประหยัดอย่างเดียวเลย ถ้าเรายืนยันที่จะมีทรัพย์สินในจำนวนเงินที่มันหมุนเวียนอยู่ในต่างประเทศอยู่แล้ว เราเอาค่ามันกลับมาที่เมืองไทย มันก็มีเรื่องของค่าธรรมเนียม เรื่องของภาษี เรื่องของอะไรต่างๆที่มันมีความยากลำบาก แต่จริงๆเงินมันก็หมุนเวียนอยู่ตรงนั้น ผมก็หาวิธีในการไฟแนนซ์ในแบบของผมได้ แล้วมันก็เป็นช้อยส์ที่สมเหตุสมผล
ตอนนี้กำลังดูๆกันอยู่ ตัวเราคงไม่ได้อยู่ที่นั่นบ่อย คงจะเปิดให้เช่ารายวันผ่านเอเจนซี่ คิดว่าเป็นรายได้เสริมอีกทางนึงที่ผมตัดสินใจบริหารความเสี่ยงในแบบนี้ จริงๆมีแพลนสำหรับลูก้านะครับ อย่างที่ว่าเรามองเรื่องความประหยัดอยู่แล้ว ถ้าเรามีทรัพย์สินในจำนวนนึง แล้วมีเงินลงทุนในจำนวนนึงในประเทศนี้ เราก็มีสิทธิ์ขอเป็นพลเมืองในประเทศนั้น เขาก็จะได้สิทธิ์ประโยชน์ในเรื่องของการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มันก็มีราคาที่ถูกลง ก็ดีต่อการศึกษาของน้องด้วย ก็เป็นอีกออฟชั่นนึง
กับทายาทคนที่2เราก็อยากที่จะมีกันแล้ว แต่คุณน้ำหวานเขายังปั้มนมอยู่เลย แล้วลูก้าก็ชอบกินนมมาก มันเลยยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ปั้มนมปุ๊บจะทำให้มดลูกบีบตัว มันก็มีความเสี่ยงที่จะไม่ติดลูก ผมเองก็พยายามกันอยู่ทุกรอบเดือน แต่ก็ยังไม่มา ส่วนนึงคิดว่าเกิดจากการที่เขายังปั้มนมอยู่เป็นประจำ ก็ปล่อยตามธรรมชาติ เราก็พร้อมสำหรับคนที่สองแล้ว
