ทีมแพทย์รพ.จุฬาฯ แถลงอาการป่วย "เมฆ วินัย" เป็นโรคตุ่มน้ำพอง ยันไม่ใช่โรคติดต่อ

ทีมแพทย์รพ.จุฬาฯ แถลงอาการป่วย "เมฆ วินัย" เป็นโรคตุ่มน้ำพอง ยันไม่ใช่โรคติดต่อ

                 วันที่ 5 กรกฎาคม 2562 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทย์ พยาบาล พร้อมด้วย “นายหัฒศนัย ไกรบุตร” หรือ “วินัย ไกรบุตร” ร่วมแถลงข่าวการรักษาอาการป่วยอย่างเป็นทางการ

อ่านข่าวต่อ

อัพเดทอาการ “เมฆ วินัย” ละคร “ตะกรุดโทน” ไม่เปลี่ยนตัว

                 “ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์” กล่าวว่า โรคผิวหนังมีหลายพันโรคเพราะผิวหนังเป็นอวัยวะที่อยู่ภายนอก เมื่อเกิดตุ่ม ผื่น ฝี หรือมีร่องรอยต่างๆ ก็จะเห็นได้ง่าย ร่างกายของแต่ละคนมีโอกาสทำงานผิดปกติโดยที่ตนเองไม่รู้ตัว สาเหตุที่ระบบอื่นๆ ในร่างกายเข้ามาจัดการควบคุมดูแลกันเอง ทำให้ไม่มีอาการแสดงออกมา

                 ในส่วนของโรคตุ่มน้ำพอง เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบได้ไม่บ่อย แต่ก็ไม่ใช่โรคหายาก สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่มาทำลายโครงสร้างที่ทำหน้าที่ยึดเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหลุดออกจากกัน กลายเป็นตุ่มน้ำและแผลถลอก รอยโรคสามารถพบได้ทั้งผิวหนังและเยื่อบุ โรคที่พบบ่อย มีพบ 2 กลุ่ม ได้แก่ โรคเพมฟิกัส และโรคเพมฟิกอยด์ โรคเพมฟิกัส มักพบในช่วงอายุ 50-60 ปี มีความผิดปกติที่ชั้นผิวหนังกำพร้า จะเกิดในผิวหนังชั้นตื้นกว่า แต่อาจจะกินบริเวณกว้าง ผู้ป่วยจึงมีแผลเสมือนถูกน้ำร้อนลวกเป็นบริเวณกว้าง มักมีแผลถลอกในช่องปากร่วมด้วย มีอาการปวดแสบมากเมื่อแผลหายมักทิ้งรอยดำโดยไม่เป็นแผลเป็น ส่วนโรคเพมฟิกอยด์พบได้บ่อย พบในอายุมากกว่า 60 ปี เกิดจากมีการหลุดลอกของชั้นหนังกำพร้าออกจากชั้นหนังแท้ จะเกิดการแยกชิ้นของผิวหนังที่ลึกกว่า แต่มักจะกินบริเวณไม่กว้างมาก ผู้ป่วยจะมีอาการผื่นแดงคันนำมาก่อน ต่อมาเริ่มมีตุ่มน้ำใสขนาดต่างๆ โดยตุ่มน้ำมีลักษณะพอง แตกยาก หรืออาจแตกออกเป็นแผลถลอก

                 โรคตุ่มน้ำพองต้องตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาร่วมกับการตรวจทางอิมมูนเรืองแสงในการวินิจฉัยโรคด้วย ยาที่ใช้รักษาเป็นหลักคือ ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์และยากดภูมิคุ้มกัน ในโรคเพมฟิกอยด์มีอาการไม่รุนแรง อาจจะใช้ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์หรือยากลุ่มที่ไม่ใช่ยากดภูมิคุ้มกัน ในรายที่ตุ่มน้ำหรือแผลถลอกมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย โรคตุ่มน้ำพองมีการดำเนินโรคค่อนข้างเรื้อรังเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี หลังจากโรคสงบแล้วอาจจะเป็นซ้ำได้ ในกรณีสงสัยว่าเป็นโรคตุ่มน้ำพองแนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

                 คำแนะนำในการปฏิบัติ ควรทำความสะอาดร่างกายสม่ำเสมอ บริเวณที่เป็นแผลให้ใช้น้ำเกลือทำความสะอาด ไม่แกะเกาผื่นเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ผู้ป่วยที่มีแผลในปากควรงดอาหารรสจัด อาหารแข็ง หลีกเลี่ยงการออกกำลังก่ยหนักๆ ไม่ควรใส่เสื้อผ้ารัดคับ ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องมารักษาต่อเนื่อง มาตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ ทานยาต่อเนื่อง และดูแลรักษาแผลอย่างถูกวิธี

                 โดยทางคุณหมอได้กล่าวอีกว่า โรคนี้เป็นคนละโรคกับโรคพุ่มพวง อันนี้ชื่อเพมฟิกอยด์ และเป็นคนละโรคกับสะเก็ดเงินด้วย ไม่ใช่โรคสุกใส ซึ่ง “คุณเมฆ” เป็นโรคนี้ ยืนยันว่าตัว “คุณเมฆ” ไม่มีเชื้อโรค แต่คนที่เข้าไปเยี่ยมอาจจะเอาเชื้อโรคมาติด “คุณเมฆ” ได้ เพราะฉะนั้นขอให้ส่งกำลังใจให้ทางอื่นมากกว่า และขอให้เวลาทีมแพทย์ในการรักษาและดูแล “คุณเมฆ” ให้หายดีเหมือนเดิม อาการของ “คุณเมฆ” ในตอนนี้นับว่าดีขึ้นมาก จาก 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ใบหน้ามีรอย คือเป็นรอยจากการหาย

                 จากนั้น "เมฆ วินัย ไกรบุตร" ก็เปิดใจว่า อาการป่วยที่เกิดขึ้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่คิดว่าจะเจอโรคนี้กับตัวเอง จากคนสุขภาพดี ผิวดี ต้องกลายมาเป็นแบบนี้ มันโหดร้ายมาก ที่อยู่ได้ก็คือกำลังใจจากแฟนคลับที่ส่งกำลังใจกันมาให้ มีมากมายจริงๆ ขอบคุณสภากาชาดไทย ทีมแพทย์ อาจารย์หมอ ทีมที่ดูแลอย่างดี สุดท้าย ขอบคุณภรรยา ลูกๆ เพื่อนๆ ทุกคนที่ช่วยเหลือเรื่องค่ารักษา ทำให้สามารถอยู่โรงพยาบาลได้อีก 2 เดือนเลย ทุกวันนี้ตื่นมาน้ำตาแทบไหล รู้สึกขอบคุณมากๆ สัญญาว่าจะรักษาตัวเองให้ดี