“ใบเฟิร์น” ยินดีหลัง “ท็อป” เปิดตัวแฟนใหม่ คาดหวัง “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” คนดูต้องชอบ
ถือเป็นนางเอกสาวสุดยอดกตัญญู สำหรับนักแสดงสาว “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ที่เมื่อวันเกิดคุณพ่อที่ผ่านมาได้ถอยรถป้ายแดงคันใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด ล่าสุดได้เจอเธอก็เลยต้องถามถึงโมเมนต์นั้น พร้อมถามถึงอดีตคนรู้ใจอย่างหนุ่ม “ท็อป จรณ โสรัตน์” ตอนนี้ก็เปิดตัวแฟนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เลยต้องถามความรู้สึกของเธอสักหน่อย
อ่านข่าวต่อ :
ไขข้อสงสัยแท่งอะไรในมือ “ใบเฟิร์น” ทีเซอร์ “ใบไม้ที่ปลิดปลิว”
ล่าสุดซื้อรถให้พ่อ เราดาวน์ให้และพ่อผ่อน ปกติเขาจะไม่ค่อยชมว่ารถคันไหนสวย รถที่พ่อใช้มาก็สักพักแล้ว มันเป็นของที่จำเป็นต้องใช้ ไม่ได้มีอยู่แล้ว แฮปปี้เขาชมทุกวันเลย ดาวน์ครึ่งหนึ่งค่ะ คือเงินเก็บเรามีไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว เพราะโหมดเงินให้คุณพ่อจัดการ เรื่องเอกสารด้วย ก็เท่าที่มีเพราะที่เหลือให้คุณพ่อผ่อน เป็นเงินของ “เฟิร์น” เองอีกบัญชีที่เอาไว้ใช้ซื้อของ เราก็แอบเก็บไว้ เขาก็ชอบ ปกติเราไม่ได้ซื้อของใหญ่ขนาดนี้ ถึงวันเกิดเราคุณพ่อต้องจัดหนักไหม หนูเป็นเด็กที่ไม่เคยได้ของขวัญวันเกิดเลยตั้งแต่เด็กจนโต จะได้แค่เค้ก
ถามถึงเรื่อง “ท๊อป จรณ” เปิดตัวแฟน เราก็ทราบข่าวพร้อมทุกคน เพื่อนๆ ก็มีส่งมา อย่างที่บอกไปก็ไม่ได้แปลกใจ ผ่านวันเกิดเขามาได้ส่งข้อความหาไหม ไม่ได้ติดต่อกันเลย หรือเรายังไม่เปิดใจมีคนใหม่ เราก็ไม่ได้อยากเปิดอะไร แต่ก็ไม่มีคนคุยพิเศษอะไร มีคนเข้ามาบ้าง โฟกัสไหมว่าคนใหม่ต้องนิสัยยังไง ก็ทุกคนคงอยากได้คนดี แต่ว่าตอนนี้อยากมีเลยไหม ก็ไม่ แต่ก็มีคนคุยเข้ามาบ้าง เพื่อนๆ ก็เหนื่อยกับเราเหมือนกัน แฮปปี้ค่ะกับชีวิตโสด กลัวคนมองว่าจบไม่สวยไหม ไม่มีความจำเป็นแล้วค่ะ เราก็ไม่ได้ติดต่อกันที่เขาเปิดตัว ส่วนเราไม่รีบที่จะมีใคร
มาฝากละครดีกว่า กับบทบาทสาวประเภทสองกับฉากนั้น และมีหลายอย่างที่เราไม่เคยทำก็ได้มาทำในเรื่องนี้ อยากให้ทุกคนลองติดตามดู ศึกษากับการผ่าตัด แผลต่างๆ และกายภาพ คนแชร์คลิปเยอะมากกับฉากแท่งโม ไม่คิดว่าคนจะเข้าถึงขนาดนั้น เราโชคดีที่มีเพื่อนๆ เยอะ เขาก็มีเทคนิคส่วนตัวที่คอยมาสอนเรา เราก็ยังกดดันอยู่เพราะยังถ่ายอยู่ด้วย อยากทำให้มันออกมาดี ตอนนี้ถ่ายไปครึ่งเรื่องแล้ว
กดดันไหมเพราะบท “ก้านแก้ว” จาก “หลงไฟ” เราประสบความสำเร็จ เราไม่ค่อยกล้าคาดหวังกับกระแสว่ามันจะต้องดัง เพราะตัวละครที่ “เฟิร์น” ได้ถ้าคนที่ได้ดูเขาสามารถนำไปเรียนรู้ได้ เรารู้สึกว่าที่เราได้ถ่ายทอดออกไปตัวละครเขาจะใช้ชีวิตและทำทุกอย่างได้อย่างคนทั่วไป อย่างคนที่เขาเคยดูถูก เราก็อยากบอกให้โลกรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายเลยนะกับการที่ต้องมาแสดงความไม่เท่าเทียม
