​​​​​​​เปิดใจ “มิ้นต์” กรณีน้องชายนางเอกดังไม่ช่วยผู้หญิงถูกตบหน้าผับ

เปิดใจ “มิ้นต์” กรณีน้องชายนางเอกดังไม่ช่วยผู้หญิงถูกตบหน้าผับ

               กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงกันว่อนโซเชียลอีกแล้วค่ะ หลังมีเพจดังออกมาปล่อยแชทข้อความจากสาวรายหนึ่งอ้างโดนกลุ่มของน้องชายนางเอกดังและดาราที่เล่นซีรีส์วานดักทำร้ายร่างกาย หลังตัวเองเข้าไปทักทายกับดาราวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่ม แต่กลับโดนทำร้ายร่างกายที่ผับย่านเอกมัย โดยไม่รู้สาเหตุ และมีน้องชายของนางเอกดังคนนั้นก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและไม่ได้เข้ามาห้าม แถมยืนดูเฉยๆ อีกด้วย และเมื่อเรื่องราวนี้ถูกแพร่ออกไป ซึ่งงานนี้ถูกโยงไปถึงนักแสดงหนุ่ม “ม่อน ธนัชชัย วิจิตรวงศ์ทอง” น้องชายของ “มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” เมื่อได้เจอกับสาว “มิ้นต์” เราก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปถามถึงเรื่องนี้กันสักหน่อย

อ่านข่าวต่อ :

เปิดแชทหลุดสาวปริศนาอ้างถูกกลุ่มน้องชายนางเอกดังตบ-ต่อยเบ้าตาแตก

               สำหรับเรื่องที่มีเพจดังออกมาแฉ มีสาวโดนกลุ่มของน้องชายนางเอกดัง ต่อยเบ้าตาแตก คนโยงว่าเป็น “ม่อน” น้องชาย เราก็เห็นข่าวแล้ว เพราะน้องเป็นคนบอก เอาจริงๆ รายละเอียดเรื่องทั้งหมดมิ้นต์ไม่ทราบอย่างแน่ชัด ว่าเรื่องราวเกิดขึ้นยังไง งงคนโยงเป็นน้องเรา มิ้นต์เป็นคนไม่อยากถามอะไรมาก ด้วยความที่เราอยากให้เขาเติบโตในวงการ เราได้แค่บอก ได้แค่เตือน แต่สุดท้ายแล้วก็สุดแต่ใจเขาจะไขว่คว้าให้ตัวเอง อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเราก็ไม่ทราบอะไรแน่ชัด แต่ก็ทราบจากน้อง เขาเล่าว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง แต่เรื่องราวเราฟังความฝั่งเดียวไม่ได้ค่ะ ต้องฟังทั้งสองฝ่าย แต่ทั้งหมดทั้งมวลเราไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งสองฝั่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเวลาพูดตรงๆ พอแอลกอฮอล์เข้าปาก คนเราก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ไม่ได้เข้าข้างน้อง ไม่ได้ฟังความจากอีกฝ่าย ดังนั้นต้องให้เป็นเรื่องของเขาทั้งสองฝ่าย เขาก็ได้เล่าว่า ได้ไปสถานบันเทิง แต่ว่ามิ้นต์เคยเตือนเขาตลอดว่า ทำอะไรต้องระมัดระวัง เพราะเราอยู่ในสื่อ แต่สุดท้ายอย่างที่บอก วัยรุ่น ถ้าไม่ได้ให้เขาลอง ให้เขารู้ ให้เขาเห็น สุดท้ายเขาต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

               อาจจะมีผลกระทบกับชื่อเสียงตัวม่อนเอง เราเตือนตลอดค่ะ น้องจะรู้ ว่ามิ้นต์ไม่ใช่พี่ที่สปอยล์และเข้าข้าง เตือนตลอด อย่างเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็ต้องให้เขาได้เรียนรู้และรู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเอง เป็นห่วงน้องไหม ข่าวค่อนข้างแรง ถ้าความเป็นพี่มันเป็นห่วงอยู่ทุกเรื่องค่ะ น้องชายอะ มันดื้อ พูดตรงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับขี่รถ การเจอผู้คน วัยรุ่นก็คือวัยรุ่น เราได้แค่บอกแค่สอน อย่างคุณพ่อคุณแม่มิ้นต์ สอน พูดจนปากเปียกปากแฉะ แต่เด็กผู้ชายอะ ถ้าเกิดเขาฟังแล้วทำตามก็คงอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร ให้เขาเรียนรู้ รู้จักการแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเอง

               คิดว่ามันจะมีผลกระทบกับงานไหม คือมิ้นต์รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย หรือร้ายแรงขนาดนั้น แบบทะเลาะวิวาทกัน คือเรื่องนี้มิ้นต์มองว่ามันเกิดจากการหยอกล้อกันมากกว่า ที่อาจจะพูดไม่เข้าหูกัน แต่เราก็ไม่ทราบรายละเอียดตรงๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังมีข่าวออก เพราะด้วยกรณีมันไม่ได้เกิดกับตัวน้องมิ้นต์ตรงๆ ก็อาจจะแค่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ม่อนก็ได้บอกมิ้นต์ว่า เขาได้ห้ามแล้ว แต่มิ้นต์ไม่รู้ว่าจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ม่อนมาบอกก่อนข่าวออก คือมิ้นต์ไม่ได้เป็นคนนั่งอ่านข่าวหรือเช็กข่าวอยู่แล้ว อย่างแม่ก็บอกถึงเหตุการณ์นี้ว่า แม่บอกแล้วนะ