"แพรว คณิตกุล" รับเสียใจหลังเลิก "ฟรอยด์" ยันไร้ปัญหาเรื่องมือที่สาม
ทำเอาเสียใจอยู่ไม่น้อยหลังจากได้ยุติสถานะความสัมพันธ์เลิกรากับ "ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์" ที่คบหาดูใจกันนานถึง 5 ปี แต่ก็ยังมีเหตุให้สงสัยจะมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวไหม สำหรับ "แพรว คณิตกุล เนตรบุตร" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยว่า
เป็นเรื่องของเส้นทางตรงปลายมันไม่เหมือนกัน การที่คบกันไปเรื่อยๆ แล้วมันทำให้เหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่สามารถไปเที่ยวได้ และไม่ใช่ความผิดของใครเลย บางทีความรู้สึกที่จะไปถึงตรงนั้นมันไม่เหมือนกันแค่นั้นเอง ซึ่งก็ไม่ขอโทษว่าเป็นความผิดของใคร เป็นเรื่องยิบย่อยที่ไม่ขอลงรายละเอียด แต่รู้ว่าเราต้องการอะไร และเขาเป็นยังไงก็พอ และการที่จบก็ไม่ได้ทำให้มีสิ่งแย่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้คิดนานที่จะเลิกกัน แต่กว่าจะเป็นข่าวมันค่อนข้างนาน เพราะเราก็ไม่ได้มานั่งบอกใคร ปกติในไอจีก็ไม่ได้ลงอะไรที่เป็นดราม่ามากอยู่แล้ว ไม่ต้องมาบอกเพื่อให้คนเป็นห่วง และเป็นการให้เกียรติเขาด้วย
รับรู้สึกสนุกเวลาที่คบกัน แต่เวลาที่ต้องมีครอบครัวมันเป็นอีกแบบหนึ่ง ฉะนั้นที่เลิกปุ๊บก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหาใหม่ทันที แค่โฟกัสกับเขาว่าเขามีความสุขก็ไม่ผิดอะไร เราโอเคกับการที่เป็นแบบนี้ไหม แค่นั้นเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเลิกกันแล้วมันแย่มาก
กับสาเหตุที่ตัดสินใจก็หลายอย่าง ทั้งเรื่องความคิด การใช้ชีวิต ซึ่งการคบกันก็ต้องรู้จักคนรักว่าเป็นคนยังไง เราจะโฟกัสเรื่องนี้เป็นหลัก อย่างตอนที่ทะเลาะกันจะรู้ได้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน และถ้าทำไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการกันและกันก็ไม่อยากจะไปฝืน ถามว่าใครเริ่มคุยก่อนว่าจะเลิกกัน จริงๆ เป็นวันครบรอบ เรารู้สึกว่ามันเป็นจุดที่ต้องคุยกันทั้งคู่ ก็เสียใจ แต่ไม่เสียดายเวลา เพราะตอนที่คบกับเขาก็ให้เกียรติ มีน้ำใจ ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้แย่ แต่ในช่วงเวลาที่คบกันบางครั้งก็ไม่ต้องขอเวลาปรับตัวกันมาก เขาเองก็รู้ตัวว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วเหมือนกัน
ส่วนประเด็นที่ถูกโยงมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยว ไม่มี พอมารู้ว่าโยงไปถึงคนที่เคยเกี่ยวข้องกับเขาก็จะโดนว่าไม่ดี เขาก็ต้องเสียใจ เราไม่อยากให้ไปซ้ำเติม เพราะคนเราจะเลิกกันมันไม่ได้เป็นเรื่องของคนๆ เดียวอยู่แล้ว ถ้ามีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวค่อยว่ากัน แต่คู่เราเป็นหลายๆ เรื่องรวมกัน ฉะนั้นกว่ามันจะถึงจุดที่เลิกมันก็ใช้เวลามาแล้ว ทั้งนี้รู้สึกดีใจที่เขามีความรู้สึกเหมือนกัน เราก็ยังอยากเป็นเพื่อนอยู่ ไม่ใช่พอเลิกแล้วจะห่างกันไปเลย ตอนนี้ยังมีคุยกันบ้างเพราะยังต้องมีแมวที่สลับกันเลี้ยงอยู่ โดยเรายังรู้สึกโอเคที่ยังได้เจอกันอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเขาโอเคไหม ส่วนตัวเจอก็ยังหยอกล้อเล่นเฮฮาได้ปกติ ซึ่งเขาก็เป็นคนขี้เล่นอยู่แล้ว ไม่ได้ติดอะไรที่เขาจะเล่นเหมือนเดิม เพราะไม่ได้ทำให้คนรอบข้างรู้สึกแย่ และเขาเองก็ไม่ได้มีใคร แต่ถ้าแต่ละคนมีแฟนใหม่แล้วนี่ก็ต้องเกรงใจกัน
กับโอกาสที่จะกลับไปคุยกันอีกก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่ามันชัดเจน และได้คิดกันมาแล้ว ไม่ได้เป็นการประชดกันว่าถ้าทำแบบนี้จะเลิก คือถ้าหยุดก็คือหยุด อนาคตจะเป็นไงค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ไม่มีข้อสงสัย ชัดเจนว่าเลือกที่จะหยุดแล้ว อย่างที่บอก ได้มีการเจอกันตลอด และเขาเองก็มีการเปลี่ยนแปลงแต่ละสเต็ปช่วงชีวิตที่โตขึ้น ยันยังตอบไม่ได้จะกลับมารีเทิร์นหรือเปล่า เวลามาเจอกันก็สนุกดี ไมได้หวั่นไหวอะไร ระยะเวลาที่คบมาเกือบ 5 ปีทำให้ชินกับการเป็นเพื่อน
ด้านครอบครัวทั้งคู่ก็ไม่ได้มายุ่งเรื่องความรักอยู่แล้ว แค่ถามด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น พ่อแม่เขาก็น่ารัก กับที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะวางอนาคตไว้แล้ว ก็ไม่เคยพูดกันเลยว่าจะมี อย่างช่วงเทศกาลก็รู้อยู่แล้วจะทำงานแยกกัน ที่เขามั่นใจจะแต่งงานกับเราก็เป็นจุดที่ทำให้คิดว่าแต่งงานกันไปจะเป็นยังไง แต่คิดว่ายังไม่ถึงจุดนี้ ฟุ้งชีวิตโสดก็โอเค แฮปปี้ ตอนนี้ขอลุยธุรกิจโรงแรมที่เชียงใหม่ คาดน่าจะเสร็จหลังเดือนเมษายนนี้ ก็รอดูว่าจะทันไหม จริงๆ มีทำไปแล้วหนึ่งสาขา เราจะหุ้นสาขา 2 และแพลนทำสาขา 3 และมีไปทำที่สัตหีบอีก มองว่าพออายุ 35 เริ่มมองอนาคต อยากทำอะไรจริงจังเพราะเห็นคุณแม่เป็นไอดอล และคิดถ้าต้องอยู่คนเดียวคงต้องจ้างคนมาดูแลเลยต้องเตรียมตัวไว้บ้าง แต่ถ้ามีคู่ก็ถือว่าฟลุค ถ้าไม่มีก็อยู่ได้ไม่เป็นไร