“ดาว พิมพ์ทอง” รับคุย “พอร์ช ศรัณย์” โบ้ยถามสถานะฝ่ายชาย

“ดาว พิมพ์ทอง” รับคุย “พอร์ช ศรัณย์” โบ้ยถามสถานะฝ่ายชาย

     ถูกจับตาความสัมพันธ์อย่างหนักสำหรับคู่ของสาว “ดาว พิมพ์ทอง วชิราคม” กับหนุ่ม “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ว่าทั้งคู่ซุ่มปลูกต้นรักกันอยู่รึเปล่า ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวเลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องสถานะสักหน่อย 

      ถ้าเอาเรื่องสถานะไปถาม "พอร์ช" เขาดีกว่า อยากให้เขาเป็นคนพูด แต่ก็ชัดเจนจากคอมเมนต์หยอกกันไปมา เอาจริงๆ คอมเมนต์ โอเคเรายอมรับว่าคุยกัน แต่ส่วนของคอมเมนต์เราสนุกกัน มีเพื่อนๆ กลุ่มของเราที่เข้าไปคอมเมนต์เฮฮากันสร้างความเอ็นเตอร์เทนเพื่อนๆในเฟซบุ้กเฉยๆ

     ความสัมพันธ์เริ่มต้นยังไงอะหรอ จริงๆ ตนกับ "พอร์ช" รู้จักกันตั้งแต่อายุ15-16 ตั้งแต่ถ่ายนิตยสารด้วยกันนานมากแล้ว ก็รู้จักกันแต่ไม่ได้keep  in touch ไม่ได้ติดต่อกัน แล้วเขามาจีบตอนไหนยังไม่รู้เลย ช่วงปลายปีที่ผ่านมาวันที่27-28 ก็มีไลน์คุยกันว่าเป็นไงบ้างสบายดีไหม แล้วนัดกันกินข้าว เขาเป็นคนทักมา 

     สรุปคือเขาจีบเราใช่ไหม จีบก็ได้ ที่เขาทักมาชวนกินข้าวตอนนั้นยังไม่ได้เป็นอะไรที่ใช้คำว่าเดท วันที่แหวนแหวนลงรูปนั่นคือวันที่เราเจอกัน ไปกินข้าวกันปกติยังคุยกันมึงกูเป็นเพื่อนอยู่เลย ตอนเขาทักมาเราโสด แล้วเราก็รู้ว่าเขาโสด

       เราเริ่มรู้สึกตอนไหนว่าเค้ามาจีบ จริงๆ มันเร็วมาก เรื่องความรู้สึกมันจะมาบอกว่าต้องใช้ระยะเวลามันไม่ใช่ ด้วยความที่เรารู้จักกันมานานมากแล้วมันไม่จำเป็น จีบมั้ยยังงงเลยว่าจีบตอนไหน สำหรับสถานะให้พอร์ชออกมาพูดก่อนดีกว่า กับเราเขาก็เป็นคนพิเศษคนนึง 

     เปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นคนที่คบกันเปลี่ยนไปยังไงบ้างทำตัวลำบากมั้ย จริงๆ ตอนนั้นไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลยนานมาก ด้วยความที่เราไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันขนาดนั้นมันเลยไม่ได้มีโมเมนต์แบบว่าจากเพื่อนสนิทมาเป็นอะไรอย่างนี้ เป็นจากเพื่อนแล้วก็มาคุยกันมากกว่า

     อะไรในตัวพอร์ชที่ทำให้เราเปิดใจคุยกับคนนี้ สำหรับพอร์ชเขาเป็นคนเอนเตอร์เทนเก่ง ไม่กลัวเรื่องความเอนเตอร์เทนของเขาคนจะมองว่าเขาเจ้าชู้ เพราะเจอแต่คนเจ้าชู้จนชิน 

     ด้านเพื่อนๆ รอบตัวว่าไงบ้างพอรู้ว่าเราคบกับพอร์ช ก็มีถามบ้าง ถามเยอะเลยเพราะโสดมานาน อยู่ดีๆก็มีคนคุย เพื่อนก็แซวๆกัน ทางครอบครัวเราจริงๆ เขารู้จักกับคุณแม่ เวลาเราไปทำงานเราก็ไปกับคุณแม่ ก็ไม่มีปัญหาคุณแม่ให้สิทธิเราตัดสินใจคุณแม่เขาไม่ได้บอกว่าผ่านหรือไม่ผ่าน โตแล้วก็ให้อิสระ ความหวานเปลี่ยนไปไหมจากเพื่อนเป็นแฟน จริงๆ ยังไม่ได้พูดว่าแฟนเลย แต่แทบจะไม่ได้ปรับตัวอะไรเลย มีบ้างที่ว่าเราใช้ชีวิตคนเดียว ส่วนใหญ่ไปไหนก็ไปกับเพื่อน ก็มีเขาไปด้วยบ้าง 

      พร้อมบอกไม่ได้คาดหวังกับความรักครั้งนี้เพราะ มันไม่มีอะไรแน่นอนไม่มีอะไรตายตัว เราก็แค่มีสติกับเรื่องราวที่มันจะเกิดขึ้นตอนนี้ก่อน โอเคแฮปปี้เราก็รู้ตัวเองว่าเรามีความสุข อนาคตมันจะเป็นยังไงเราก็ต้องยอมรับทุกอย่างให้ได้