"บอย-เจี๊ยบ" จับมือฝ่าฟันหนี้ก้อนโต พิสูจน์แล้วคุ้มค่าที่ได้เจอรักแท้
ล่าสุดคู่รักมาราธอนอย่าง "บอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี" หรือ "บอย พีซเมกเกอร์" กับแฟนสาว "เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์" ก็ได้ออกมาขอบคุณแฟนๆ หลังจากทั้งคู่ได้ไปออกรายการคลับฟรายเดย์ พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวที่เป็นหนี้หลายล้านบาท พร้อมทั้งบอกว่าดีใจมากที่เรื่องของคู่ตนได้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคู่รักคู่อื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน ล่าสุดเจอทั้งคู่ก็ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้
คืบหน้างานแต่งพร้อมไหม จริงๆ ก็ไม่เพียบพร้อม 100% นะ มีกังวลอันนี้ครบไหม อันนั้นได้ครบหรือเปล่า ก็ถามทีมงานตลอดเวลาว่าอันนี้ได้ยัง ติดต่ออันนั้นยัง คนนี้ยัง มีอะไรที่กังวลยังไม่เรียบร้อยตรงไหนบ้าง จริงๆ ถามว่ามีอะไร 100% มันก็ยังไม่ 100% หมด ยกเว้นชุด เสื้อผ้า ป้ายงาน เรื่องอาหารเราได้กะเกณฑ์ไปแล้ว ก็กังวลอยู่ดีว่าจะพอไหม คนมาเยอะพอไหม คนมาน้อย เรากังวลหมดเลย มันก็คิด 2 อย่าง กลัวคนไม่มาบ้าง คนมาเยอะอาหารไม่พอ กลัวดูแลแขกไม่ดีพอ หลายๆ อย่าง ผู้ใหญ่นั่งตรงนี้ จัดโต๊ะจัดไม่ถูก
มีความตื่นเต้นเจ้าบ่าว-เจ้าสาวน้อยมากกว่าความกังวลจะเรียบร้อยไหม กลัวดูแลแขกไม่ได้ดีเท่าที่ควร แรกๆ ก็ไม่ตื่นเต้นมาก พอใกล้ๆ วันเริ่มคุยกันบ้างแล้วว่าจะมีสเต็ปอะไรบ้าง
วันศุกร์นี้แล้ว ใช่ค่ะ แต่งครั้งแรกด้วย มีส่งการ์ดเชิญให้ เดวิด เบคแคม ด้วย ตอนนั้นผมกับเจี๊ยบมีโอกาสไปร่วมงานกับตัวเขาเป็นพรีเซนเตอร์ แล้วผมเหมือนช่วยเขาเปิดคลินิกสอนฟุตบอลน้องๆ เราก็หาโอกาสเอาการ์ดไปให้เขาเซ็นแต่ไม่ทัน เราเลยเอาไปให้ทีมงานที่ทำงานเขา บอกให้เขาเซ็นให้หน่อย เขาก็ใจดีก็ส่งไปเซ็นให้ ให้เขาเซ็นให้ เขารู้ไหมว่าเป็นการ์ดแต่งงาน ก็น่าจะรู้ หน้า-หลังมันเป็นการ์ดแต่งงานเลย รู้แต่ไม่น่าจะรู้ธรรมเนียมตรงนี้ เราก็ไม่ได้คาดหวังให้เขาใส่ซอง แค่อยากได้ลายเซ็นเขาเฉยๆ ถือว่าเป็นของขวัญแต่งงาน
หลังจากไปออกรายการ ครับ ล้นหลามมาก กลับกลายมาเป็นให้กำลังใจเรา เรื่องของเราสองคนเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน ดูแลความรักมายาวนาน คน 2 คนจับมือสู้แก้ปัญหา ก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่เรื่องของเราสองคนเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายคนได้ เป็นกำลังใจให้หลายคนที่กำลังท้อ คือบางข้อความเราอ่านน้ำตาไหลเลย เขาก็มีหนี้อยู่เหมือนกันแต่ไม่รู้ทำไง มีหนี้นิดเดียวก็ทิ้งหนูไป ฟังดูแล้วเสียดายแทนเขาเลย รู้สึกเสียใจจริงๆ บางคนก็กัดฟันสู้ เรารู้สึกอิ่มใจมีกำลังใจสู้เพื่อให้มีแรงบันดาลใจ
เหลือเยอะไหม เหลือไม่เยอะแล้ว เหลือแค่ 2 ปีเราก็เรียบร้อย คือจริงๆ คาดการณ์ 2 ปี แต่ได้คุยกันไว้มันน่าจะหมดเร็วกว่านี้ ดูสภาพจิตใจดีขึ้น ดีขึ้นแล้วในการออกรายการ ทุกครั้งที่เล่าเหมือนเอามีดมากรีดที่เดิม ก็เจ็บเท่าเดิม มันเหมือนมีปม มันไม่ขนาดนั้น เพียงแต่เอามาเตือนใจว่าวันหนึ่งเราทำอะไรเราต้องมีทางหนีทีไล่มากกว่านี้ แต่มันก็เหมือนเป็นบทพิสูจน์ว่าคนข้างเรา ผมว่าจำนวนเงินที่เสียไปมันคุ้ม มันถึงเป็นบทพิสูจน์ มันคุ้มมากกับสิ่งที่เราได้มา
ในวันที่เราเจอขนาดนี้ทำไมถึงอยู่ข้างๆ เขา เราต่อสู้กันมาตั้งแต่แรก ตอนนั้นการเริ่มต้นธุรกิจก็ดี ปัญหาทุกอย่างเราต้องช่วยกันแก้อยู่แล้ว ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ในวันที่เรามีปัญหาใหญ่แบบนี้ เราก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน ไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้ใดๆ ให้เราแยกกัน เรารู้สึกโชคดีมากๆ ไม่ได้สู้เพียงลำพัง มีอีกคนช่วยคิดช่วยสู้มันก็มีกำลังใจ มันเป็นสิ่งที่คู่รักหรือแฟน การที่ต่างคนต่างให้มันไม่ต้องเรียกร้อง ผมว่ามันดีมาก ขอบคุณรายการที่ให้เราพูดเพื่อเป็นกำลังใจให้คนอื่นๆ สู้