เปิดใจ “พุฒ-จุ๋ย” หลังแต่ง กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย

เปิดใจ “พุฒ-จุ๋ย” หลังแต่ง กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย

              เป็นฤกษ์ดีๆ ที่เกิดขึ้นกับคู่รักในวงการอีกคู่ สำหรับ “พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน” และสาว “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” ที่ทั้งคู่ได้จับมือเข้าประตูวิวาห์ในวันนี้หลังจากที่คบหาดูใจกันมากว่า 4 ปี โดยภายในงานตลอดทั้งวันก็มีเพื่อน พี่น้อง ในวงการ รวมไปถึงญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมเป็นสักขีพยานรักกันอย่างอบอุ่น ซึ่งล่าสุดทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจถึงงานแต่งในวันนี้ที่อบอวลไปด้วยความรักและความรู้สึกหลังจากเปลี่ยนสรรพนามเป็นสามีภรรยา

              งานตอนเช้าจะทำบุญตักบาตรเลี้ยงพระ ขบวนขันหมากของ “พุฒ” ช่วงนี้ก็จะมีแต่ญาติสนิทเท่านั้น ต่อด้วยพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ โดยเชิญแขกผู้ใหญ่ในวงการที่เคารพนับถือ หนุ่ม “พุฒ” บอกว่า ในส่วนของประตูเงินประตูทองในวันนี้นับได้คือ 12 ประตู กว่าจะผ่านแต่ละประตูมาได้ก็ยากเหมือนกัน เพราะกว่าจะได้เจ้าสาวที่ดีขนาดนี้มาเป็นคู่ชีวิตก็ต้องยากนิดนึง

              ความรู้สึกตอนที่อีกฝ่ายใกล้จะเข้ามาถึงตัวเราแล้วเป็นยังไงบ้าง “จุ๋ย” บอก ก็คิดว่าเมื่อไหร่จะถึง อยู่ไหนแล้ว ทำไมช้าจัง ก็ต้องมีการเจรจาแต่ละประตูกว่าจะมาถึง เราก็มีแอบดูบ้าง เป็นการแต่งงานแบบไทยๆ ที่คลาสสิคอยู่เสมอ ความรู้สึกตอนนั้นเป็นอะไรที่อธิบายยากนิดนึง

              “พุฒ” แต่ละด่านยากมาก โหดมาก บางด่านให้เราโชว์พละกำลัง วิดพื้นบ้าง แร็ป ฮูลาฮูป ซึ่งประตูแรกก็เป็น “น้องปีใหม่” ที่น่ารักของพวกเรา เธอให้ผมหอมแก้ม เมื่อคืนนอนกันตี 1 ตื่นตี 3 ทุกอย่างเราต้องทำหมดเลย รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังไม่ได้จัดแจงอีก ทั้งคุณพ่อคุณแม่มาอยู่ด้วยก็ต้องพาไปทานข้าวนั่นนี่

              ช่วงตอนสวมแหวนก่อนหน้านั้นผู้ใหญ่ก็มีให้พร ผู้ใหญ่ฝั่ง “จุ๋ย” เป็นซีนซึ้งๆ ทำให้เราสองคนมีน้ำตาเหมือนกัน ตอนสวมแหวนก็ไม่ได้พูดอะไร ยิ้มให้กันอย่างเดียว เรื่องสินสอดก็เป็นไปตามความเหมาะสม รวมๆ ให้มาอยู่ในพานอย่างสวยงาม ที่บ้านยึดหลักว่าความรักสำคัญกว่าเงินทอง และเขาทำงานหนัก และทำเพื่อครอบครัว ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย ก็ตามความเหมาะสม ประเพณีที่ดีงาม

              สำหรับชุดบ่าว-สาว ฝ่ายชาย 4 หญิง 3 ช่วงเช้าเริ่มต้นด้วยชุดไทย ใส่โจงกระเบน ตอนแห่ขันหมากก็เป็นชุดสูทสากลสีครีม หลังจากนั้นงานเลี้ยงกลางวันเป็นชุดทักซิโด้สีดำ งานแถลงข่าวก็เป็นชุดสูทสีน้ำเงินตามคอนเซ็ปต์งานแต่งของเรา คุณพ่อคุณแม่จุ๋ยบอกว่าฝากดูแลลูกแม่ด้วย ตอนพูดก็น้ำตาคลอและเสียงสั่น ครอบครัวพุฒจะเป็นสายฮา พอเห็นเป็นวันสำคัญ ตื้นตันจนพูดไม่ออก รู้สึกบรรยากาศในวันแต่งงานรู้สึกดี ด้วยความที่เราเองไปทำงานหลายช่อง ก็เลยเห็นผู้ใหญ่จากหลายๆ ช่องมาร่วมงานเรา ก็รู้สึกดี ทุกคนมาร่วมงานในวันสำคัญของเราถึงแม้ว่าจะเป็นวันธรรมดา แต่ทุกคนตั้งใจมางานเราจริงๆ

              เราคิดว่าทุกวันมันเป็นเหมือนเดิม เราจะรักกันแบบนี้ไปตลอด จะดูแลกันมากกว่านี้ด้วย ใช้ชีวิตเปิดเผยกันมากขึ้น เป็นสามีภรรยากันแล้ว “พุฒ” บอกว่า วันพรุ่งนี้ที่เราตื่นขึ้นมาความรู้สึกที่มีให้กับเขามันจะแน่นแฟ้นมากขึ้น มีความรักผิดชอบและดูแลเขามากกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเธอคือคนที่เราจะใช้ชีวิตด้วยตลอด เพราะฉะนั้นเราก็จะดูแลเขาให้ดีที่สุด

              เรื่องทายาทยังมีเลยไม่ได้ เพราะว่าติดถ่ายละครอยู่ ขอประมาณอีก 2-3 เดือนค่อยวางแผนจริงจัง แต่ช่วงนี้ก็มีไปตรวจสุขภาพอยู่บ้าง

              แหวนทั้งคู่ทั้งหมด 3 กะรัต แค่นี้ก็พอแล้ว สงสารเขาต้องทำงานหนัก เป็นแหวนแทนใจแทนความมั่นคงก็พอแล้ว เรื่องการจดทะเบียนสมรสยังไม่ใช่ตอนนี้ มีฤกษ์ของมัน ส่วนชื่อในวงการยังคงใช้ชื่อนี้เหมือนเดิม แต่คงต้อรอดูกันอีกทีนึง

              งานรดน้ำสังข์วันนี้เป็นสังข์ที่หายากมาก เป็นอัญมณีที่ราคาแพง พี่เขาตั้งใจทำให้ในวันสำคัญของเรา ฮันนีมูนเคยคิดมาเมื่อวานนี้ว่าก่อนแต่งงานเรามีแฮชแท็ก ทุกที่คือพรีเวดดิ้ง หลังจากนี้คิดว่าทุกที่คือฮันนีมูน เพราะคิดว่าไปไหนก็คือฮันนีมูนสำหรับเราอยู่แล้ว แต่มี 2 ประเทศที่คิดไว้ คือ สกอตแลนด์ และ แคนาดา พวกเราเป็นสายเน้นธรรมชาติ ไม่ได้เน้นช้อปปิ้ง

              เรือนหอตอนนี้ได้ 20-30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องด้วยสภาพอากาศพายุเข้า แต่ก็พยายามให้ผู้รับเหมา ไม่ได้เร่งรีบอะไร ขอให้บ้านของเราแข็งแรงไม่มีปัญหาตามมาก็พอ ตอนนี้ไม่มีชมรมกลัวภรรยา มีแต่ชมรมคนกลัวเมีย วันนี้มีพี่น้อง ดีเจ เพื่อนๆ ในวงการที่แต่งงานแล้วที่มาร่วมงานในวันนี้ก็มีแซวๆ บ้าง

              “พุฒ” ทำให้เห็นอยู่แล้ว จะมีพูดบนเวทีต่อหน้าพ่อแม่เรา เขาก็บอกว่ารักเรา ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แค่ส่งสายตาให้กันก็เข้าใจแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดขอบคุณคนที่มาร่วมงานมากกว่า คนที่มาช่วยให้งานแต่งของเราเกิดขึ้นมา ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนที่มอบความรักให้กับพวกเราโดยตลอด

              ทั้งคู่กว่าจะผ่านเรื่องราวต่างๆ จนมีวันนี้ได้ จะบอกกันอยู่เสมอเลยว่า คู่เราเริ่มต้นมาไม่ได้หอมหวาน แต่เรารู้กันอยู่สองคน เราจริงใจให้กันและกัน ไม่ได้สนเรื่องชื่อเสียงเงินทอง แค่เรารู้สึกว่าเราอยากจะใช้ชีวิตคู่กับเขาไปเรื่อยๆ บอกมาโดยตลอดว่าจะจับมือสู้ไปด้วยกัน ขอบคุณที่จับมือแน่นมาโดยตลอด ตอนนั้นที่เจอปัญหาก็ไม่ได้คิดว่ามันหนักหนาอะไร เขาทำให้เรารู้สึกว่าเราเชื่อมั่น เขาจะคอยให้เกียรติเราเสมอ ดีใจที่ได้เขามาเป็นลูกเขย มันเป็นความดีที่ติดตัวเขา เราก็รักเขามากๆ เหมือนกัน พร้อมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปเรื่อยๆ