“มิ้งค์” เผยวินาทีเครนล้มทับเก๋ง-บ้านที่ศาลาแดง
ทำเอาเพื่อนๆ ในวงการตกใจไม่น้อยหลังนักแสดงสาว "มิ้งค์ ฐรินดา กรรณสูต" (มิ้งค์ ณัฏฐริณีย์) โพสต์ภาพความเสียหายที่บริเวณหน้าบ้านของตนเองหลังเกิดเหตุเครนล้มทับเก๋งและบ้านในซอยศาลาแดง ล่าสุดมีโอกาสเจอตัว เจ้าตัวก็เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน ช่วงเช้า ประมาณ 9 โมง เราอยู่ในบ้านแล้วได้ยินเสียงตู้มเหมือนระเบิดลง แล้วบ้านสั่น เราก็รีบเปิดผ้าม่านดู เห็นปลายเครนอยู่นอกหน้าต่างค่อนข้างจะใกล้ เลยคิดว่าบ้านเราต้องเป็นอะไรแน่ๆ เลยวิ่งไปดู เข่าอ่อนเลย รถเราโดนเหมือนเป็นกำแพงที่โดนเครนทับตรงๆ เลยฟาดลงมา ชิ้นส่วนปูนกระจกของชั้น 6 กับชั้น 5 แตกลงมาใส่รถแล้วก็บ้านเรา ตกใจมาก เสียงก็ค่อนข้างดัง คิดว่าเรารอดก็บุญแล้ว ถ้าตึกด้านหน้าโดนสับลงไปอีกนิดเดียวก็เข้าบ้านเราแล้ว แล้วถ้าเราหลับอยู่ก็ตาย ไม่ต้องวิ่งหนี
ชาวบ้านแถวนั้นก็หวาดระแวงกันหมด แล้วมีรถคันหนึ่งที่โดนเครนทับเลยแค่ขับผ่านเอง แล้วก็มีร้านหน้าบ้านที่โดนแต่ไม่โดนคน แต่บ้านเราที่อยู่อาศัยแล้วคนแถวนั้นก็เดือดร้อนเพราะไฟดับหมด แต่คนแถวนั้นก็หวาดระแวงไปหมด ในเมื่อแถวนี้มีก่อสร้างแล้วคนอยู่บ้านเฉยๆ ยังอันตราย เราจะต้องทำยังไงถ้ามีก่อสร้างอยู่ใกล้บ้าน
หลังจากเกิดเรื่อง 2-3 วันแรกก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแค่ทางเขตมาถามว่าบ้านเป็นอะไรบ้าง แล้วให้ไปร้องเรียนว่าต้องการอะไร ก็เงียบไปเป็นอาทิตย์ เลยไปแจ้งความว่าทางผู้รับเหมาไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมา หรือไม่ได้มาดูแลเยียวยาหรือมาพูดคุยแต่อย่างใด เขาก็ให้ทนายออกมาพูดคุยกับเรา ยืดไปอีกหนึ่งอาทิตย์ คืออาทิตย์นี้บอกว่าจะเข้าไปตามบ้าน มาคุยว่าต้องทำอะไรกันบ้าง แต่หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านั้นผู้ที่เดือดร้อนอยู่กันมาได้ยังไงโดยที่ไม่รู้อะไรเลย และไม่มีเจ้าหน้าที่มาแนะนำ แล้วเราจะไปตามหาคนที่ทำได้จากไหน เพื่อให้มารับผิดชอบ แต่ตอนนี้เริ่มเข้ามาไกล่เกลี่ยมาเยียวยาแต่มันค่อนข้างช้า ตอนนี้เราเพิ่งได้รถเช่ามาจากที่ไมีมีรถมาสิบกว่าวัน ก็ไปไฟท์สุดชีวิตถึงได้รถมา รถเราก็เอาไปประเมินความเสียหาย ตอนนี้อยู่ในช่วงเจรจาในด้านอื่นๆ เรานอนไม่หลับตลอดอาทิตย์เลย ผวาตลอดเวลา ภาพก็จำติดตา ไม่อยากเดินผ่านหน้าบ้าน
เรื่องบ้านตอนนี้ก็ได้แค่คุยตกลงว่าจะซ่อมยังไง เขาจะซ่อมให้หรือเราจะจ้างช่างมาเอง ก็มีคุยแต่ไม่ได้ลงมือทำ
สำหรับที่เราไปคุยปรึกษากับซินแสมาว่าดวงไม่ค่อยดีมา 3-4 ปีแล้ว ที่จริงทำบุญเยอะมาก ก็มีแต่คนบอกว่าทำบุญเยอะเลยรอด ยืนลุ้นทั้งวันเลยว่าจะหล่นเข้ามาในบ้านเราไหม คาอยู่จนหนึ่งทุ่มกว่าเขาจะเอาออก นอนๆ อยู่ในบ้านรถก็พังได้ ซินแสแนะนำให้ตั้งศาลเจ้าที่แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น มีเรื่องเข้ามาหลายเรื่องตั้งแต่แม่ไม่สบาย แต่เรื่องนี้ร้ายที่สุดแล้วตั้งแต่เกิดมา แต่มันไม่ได้เกิดจากความประมาทของเรา ตอนนี้เราก็ทำทุกอย่างที่ซินแสแนะนำ เพิ่งไปหามาสองวันเอง หลังจากนั้นก็ไปปล่อยปลา ปกติไปวัดทุกอาทิตย์อยู่แล้ว เพิ่งไปวิปัสสนามาด้วยเมื่อสองเดือนที่แล้ว แต่ก็ไม่อยากให้เหตุนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นอีก เพราะการก่อสร้างมีอยู่ทุกที่ในประเทศ จะไปยับยั้งไม่ได้ แล้วเราเป็นประชาชนธรรมดาจะไปเข้าตรวจสอบก็ไม่ใช่หน้าที่ของเรา ก็ต้องฝากให้หน่วยงานต่างๆ เพิ่มความระมัดระวัง
ตอนนี้ไม่ได้ย้ายออก แต่เขาก็ปิดไว้เหมือนเป็นเขตอันตราย คือตึกที่โดนเต็มๆ เขาไม่ให้อยู่ เพราะซ่อมอยู่ หน้าบ้านก็ทำอยู่ บ้านเราก็ยังไม่ทำ ตอนนี้เขาบอกว่าไม่อันตราย เพราะเขาดึงเครนออกแล้ว รื้อโครงสร้างที่จะร่วงจะหล่นออกไปแล้ว แต่ก็ยังเดินเลี่ยงๆ อยู่ คิดดูว่าใจกลางเมืองเกิดเหตุแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้ก็ยังผวา เพราะต่อไปเขาก็จะขึ้นต่ออีก แต่มันก็ยากที่ตรงไหนมีก่อสร้างแล้วเราต้องย้ายบ้านหนี มันน่าจะมีความปลอดภัยมากกว่านี้ เพราะช่วงนี้เครนล้มบ่อย อยากให้ไปตรวจสอบมาตรฐาน แค่เสียงดังยังพอรับได้ ที่เขาก่อสร้างน่าจะเป็นที่พักอาศัย 6 ชั้น ตอนแรกเป็นบ้านเก่าแล้วรื้อไป ตอนนี้เจ้าของยังไม่ได้ออกมา มีแต่ผู้รับเหมา เครน แล้วก็ประกันที่กว่าจะออกมา ก็เข้าใจว่าเขาต้องตั้งสติ แต่พวกเราอยู่โดยที่ไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้อยู่ในการพูดคุย ประกันเขาก็ทำได้เท่าที่เขามีอำนาจดีลกับผู้รับเหมา แล้วก็เครน
ถ้าในอนาคตจะยืดเยื้อก็คงต้องปรึกษาทางกฎหมาย คงต้องดำเนินคดี ตอนนี้ไกล่เกลี่ยกันอยู่ ถ้าบอกว่าแค่ซ่อมรถให้ไม่โอเค ตอนนี้ก็คงไม่มีใครยอมถ้ารถจอดอยู่เฉยๆ แล้วซ่อมแล้วจะเอามาใช้ต่อ