"ซีแนม" มั่นใจเคลียร์ "ดิว อริสรา" จบด้วยดี โต้เปิดธุรกิจทับไลน์อีกฝ่าย
ดูเหมือนเรื่องราวจะจบลงด้วยดีไม่บานปลายจนต้องกลายเป็นคดีความฟ้องร้องกันใหญ่โต หลังจากได้ขึ้นศาลและได้มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยทำให้เข้าใจกันมากขึ้น กับกรณีที่ "ซีแนม สุนทร" หรือ "ซีแนม เอเอฟ" กับพวกรวม 2 คนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายหุ้นส่วนร้านทำเล็บเป็นจำนวนเงินร่วมหลักล้านบาทกับทาง “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” แต่ไม่สามารถเปิดได้ ล่าสุด "ซีแนม เอเอฟ" ก็ได้ออกมาเผยให้ฟังว่า
เพิ่งไปไกลเกลี่ยรอบแรกมาเป็นอะไรที่ดี เพราะที่ผ่านมาหุ้นส่วนก็ไม่เคยได้คุยกับ "ดิว อริสรา" เลย เมื่อวานก็เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกัน ก็รอวันที่ 10 กันยายนนี้อีกทีนึงก็ต้องเคลียร์เงินตามสัดส่วนที่จะได้คืนและที่จะต้องจ่ายค่าฟ้องร้องตึกที่เช่าว่ากี่บาท เหลือเท่าไหร่ก็ต้องคืนกันมา โดยตอนที่คุยไกลเกลี่ยก็ไม่ได้คุยว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ ตัวเลขยังไม่สรุป ตอนนี้หุ้นทั้ง 5 คนก็ต้องมาคุยต้องรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งส่วนตัวยินดีอยู่แล้วหากจะต้องรับผิดชอบค่าเช่าตึกจะได้ไม่มีปัญหาและคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล ตอนนี้เป็นเรื่องของหุ้นส่วนทั้ง 5 คนแล้ว กับเรื่องที่ถ้าไม่ได้เงินคืนก็น่าจะประหลาด เรื่องนี้ที่คุยก็เข้าใจกันได้ดี ส่วนตัวรู้สึกโล่งแล้วแต่ต่างคนต่างก็ต้องรับฟังข้อเสนอกันด้วย
ทั้งนี้ตนรู้สึกหนักใจเรื่องคดีฟ้องร้องกับตึกที่เช่าอยู่โดยทาง "หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ" ที่หุ้นด้วยเขาก็ติดงาน แต่หลังจากนี้เขาก็ต้องเข้ามารับรู้เพราะเป็นความรับผิดชอบของหุ้นส่วนทั้งหมดและไม่ทราบเขาเรียกร้องอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ขอเงินคืนก็เป็นสิทธิ์ของเขา อีกอย่างเขามาลงทุนทีหลัง แต่ตนกับหุ้นส่วนอีกคนไม่ขอทำแล้ว แต่ "ดิว อริสรา" กับ "หนูนา หนึ่งธิดา" จะหุ้นทำอีกหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
ส่วนตอนนี้มีเปิดธุรกิจร้านขนตากับน้องอีกคนอยู่แล้ว ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป ก็เป็นธุรกิจความสวยความงาม ยันไม่ได้ตกใจหรือกลัวการทำธุรกิจ และไม่ได้เปิดเพื่อทับไลน์อีกฝ่ายทุกคนต้องก้าวเดินต่อไป ทำกับใครก็ได้แต่ขอให้ทำถูกต้องทั้งนี้อย่างที่บอกเรื่องเงินที่ฟ้องร้องกันไม่น่าจะเป็นคดีความจบที่ไกล่เกลี่ยเหลือแค่เรื่องตึกอาจจะต้องฟ้องร้องกันต่อก็หนักใจเรื่องนี้แทน จะได้คืนหรือไม่ได้คืนยังไงก็ยังไม่ได้คุยคดีกับเจ้าของตึก ก็ทำเต็มที่ ไม่อยากให้แย่ทั้งสองฝ่าย พร้อมฝากบอกทุกคนไม่ได้มีอะไรขัดใจกันแล้วจากการที่ได้คุยกัน เขาก็มาคุยกับหุ้นส่วนทุกคน ย้ำชัดเจอก็คุยทักทายปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไรต่อกันแล้ว