“หมอเจี๊ยบ” แฮปปี้เตรียมเปิดตัวมูลนิธิ เผย “ริท” พร้อมแฟนคลับร่วมบริจาค
หลังจากควักเงินส่วนตัวมาเปิดฟรีคลีนิกตอนนี้ความฝันของ “หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์” ก็ดูจะเป็นจริงแล้ว เพราะเร็วๆ นี้ทางหมอเจี๊ยบจะมีการเปิดตัวมูลนิธิ Let’s be hero ต้องบอกเลยว่านอกจากจะควักเงินส่วนตัวแล้ว ทาง “หมอริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช” ก็ขอร่วมบริจาคเงินที่ได้มาจากการจัดงานวันเกิดพร้อมเหล่าแฟนคลับให้กับมูลนิธิอีกด้วย งานนี้ทาง "หมอเจี๊ยบ" เผยว่า
งานเปิดตัวมูลนิธิวันที่ 10 กันยายนที่เซนทรัลเวิล อย่างที่บอกว่าอยากเปิดเป็นฟรีคลินิค แต่เป็นในรูปแบบมูลนิธิ let’s be hero จะทำมากกว่าเปิดฟรีคลินิคอีก จะมีฟรีคลินิคเฉพาะทาง เฉพาะโรคในพื้นที่ที่ขาดแคลน และยังมีสอน CPR กู้ชีพและยังมีโครงการช่วยเหลือสัตว์อย่างอื่นด้วย ก็มีเพื่อนที่เป็นคณะกรรมการด้วยกันสิบกว่าคนเป็นทั้งคุณหมอและคุณหมอสัตวแพทย์ด้วยมาช่วยกันทำ เราทำคนเดียวไม่ได้เพราะเป็นคลินิคเฉพาะโรคเคลื่อนที่ มีคุณหมอที่น่ารักหลายท่านมองเห็นโครงการเราแล้วติดต่อเข้ามาว่าจะช่วย ช่วงแรกที่เป็นช่วงก่อตั้งมูลนิธิต้องมีเงินทุนก่อตั้ง ก็ใช้จ่ายของตัวเองทริปแรกที่ไปทำ เพราะอยากทำให้เห็นภาพก่อนว่ามันมีจริง ให้เห็นภาพผลงานก่อนที่จะขอเงินคนอื่นเพื่อไปทำต่อ ตอนนี้ก็พร้อมแล้วเพราะเราไปทำจริง พร้อมเปิดตัวและรับบริจาค สัญญาว่าจะเอาเงินที่ทุกคนบริจาคไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทั้งคนและสัตว์
ส่วน "น้องริท" กับแฟนคลับเขาก็น่ารักมาก จัดงานวันเกิดเขาก็เอาเงินรายได้มาบริจาคเข้ามูลนิธิเรา บริจาคมาสองแสน ก็ดีใจก็เป็นเงินก้อนใหญ่กว่าจะหาได้แต่ละบาท ก็หวังว่าจะอยู่ได้เรื่อยๆอย่างหนึ่งที่กังวลคือทำยังไงให้อยู่ได้นานที่สุด เป็นโจทย์ที่เรากำลังคิดกันอยู่ว่าจะทำยังไงให้มีเงินบริจาคเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนรายได้มูลนิธิคือบริจาคอย่างเดียว เพราะทำเป็นมูลนิธิไม่แสวงหารายได้ผลกำไรใดๆ เลย ก็พยายามสอนกู้ชีพ CPR ถ้าใครเห็นว่าสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เผื่อเขาจะบริจาคเข้ามาก็ได้
พอลงพื้นที่คนก็รู้จักมากขึ้น สิ่งที่ได้คือความประทับใจ ตอนนั้นลงพื้นที่ก็เอาหมอเฉพาะทางผิวหนังในทีมไปรักษาคนไข้ คนไข้ก็ดูดีใจกัน แต่ที่ชื่นใจทึ่สุดคือหมอฉุกเฉินไปสอนหมอตำแยในการกู้ชีพเบื้องต้นง่ายๆให้ทารก ก็เป็นคุณยายอายุ 80 ที่ก็พูดถาษาไทยไม่ได้ ต้องมีล่ามในการเรียนการสอน เขาก็ตั้งใจที่จะเรียนรู้ ความเหนื่อยหรือความยากลำบากที่เราไปมันหายไปหมดเลย และที่ประทับใจอีกอย่างคือช่างภาพที่เก็บภาพมาทำโปรโมทให้ เขาบอกว่าผมเห็นรอยยิ้มของเขาแล้วรู้สึกว่านี่แหละคือความสุขจริงๆ เขาเข้าใจความรู้สึกที่เรามีแล้วยิ่งมีความสุข เขาบอกว่าถ้าครั้งหน้ามีอีกเขาจะไปให้ฟรีเลย
