"หนูแหม่ม" ไม่ปิดโอกาสร่วมงาน "แหม่ม คัทลียา"
กลับมาเจอกันครั้งแรกในรอบ 12 ปี สำหรับ "หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา" กับ "แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช" หลังต้องมาอัดรายการร่วมกันในรายการหนึ่ง งานนี้ก็ทำเอาแฟนคลับอดลุ้นไม่ได้ว่าทั้งคู่จะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกหรือไม่ เมื่อมีโอกาสเจอตัว “หนูแหม่ม” เลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย
สำหรับแฟนๆ หลายคนลุ้นให้เราร่วมงานกับ “แหม่ม คัทลียา” จริงๆ เราก็ไม่ได้ปิดโอกาส แต่ว่ามันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเร็วๆ ตอนนี้คงยังบอกไม่ได้ แต่ถามว่าโอกาสมีไหม ก็ไม่ได้ปิด ถ้าเมื่อไหร่ที่เราพร้อมทั้งคู่ก็น่าจะเป็นไปได้
ส่วนวันที่ได้ไปเจอกันในรายการ จริงๆ เราเจอกันก่อนหน้านั้นแล้ว คุณแม่น้องแหม่มเป็นคนประสานให้เราได้เจอกัน วันนั้นตื่นเต้นกว่า แต่วันที่อัดรายการไม่ตื่นเต้น แค่รู้สึกว่าเราไม่ได้เจอกันตั้งนานก็ทักทายกันแบบกอดเหมือนเคยที่เราเคยทำกันมา ครั้งแรกที่เราได้เจอกันนานนั้น ชาไปทั้งตัว เจอที่ร้านเล็บ กับคนมองว่าได้พูดคุยเรื่องที่คาใจไหม เราเหมือนมันข้ามช็อตไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเอากลับมาพูด จริงๆ แล้วความรู้สึกกับลูกๆ ของน้องแหม่มสำคัญที่สุด จริงๆ ทุกคนอาจจะอยากถามว่าต้องเคลียร์อะไร ต้องปรับอะไรกันไหม จริงๆ หนูแหม่มคิดว่าปัจจุบันนี้น้องๆ ก็โตขึ้นทุกวัน น้องอ่านหนังสือได้ อาจจะเสพสื่อโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ ถ้าความรู้สึกของน้องถูกกระทบกระเทือนด้วยสื่อหรือโดยที่น้องไม่ได้เข้าใจ มันกลายเป็นว่าต้องมาเล่ากันใหม่ แต่ก่อนที่จะเล่าหรืออธิบายให้น้องฟัง เวลามันก็จะเนิ่นนานไป เราก็เลยมองว่าอะไรที่เรามองข้ามไปได้ ก็ให้มันข้ามไป เดี๋ยวมันจะกลายเป็นว่าปัญหาที่มันเกิด มันจะเป็นปัญหาใหม่สำหรับคนรุ่นเล็กๆ หรือหลานๆ เราก็เลยมองว่าอันไหนที่มองข้ามไปแล้ว มันก็ไม่ควรที่จะย้อนกลับมาอีก ถามว่าโล่งไหม มันก็โล่งตั้งแต่วันนั้นแล้ว เรารู้สึกว่าจริงๆ มันเป็นแค่อารมณ์หนึ่งที่เรารับมือมันไม่ได้ ตัวเราวันนั้นรับมือยังไม่เก่ง ไม่มีประสบการณ์ เลยไม่รู้จะรับมือกับวันนั้นยังไง มันก็เลยกลายเป็นอารมณ์ที่ทุกคนเห็น แต่ถ้าวันนี้มันตกผลึกขนาดนี้ แล้วมาเกิดขึ้นอีก หนูแหม่มคิดว่าเราอาจจะรับมือได้ดีกว่า
หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกันบ่อยเพราะต่างคนต่างยุ่งมาก จริงๆ น้องเองต้องไปอังกฤษสลับกันเพราะว่าลูกคนโตอยู่อังกฤษ แล้วพอว่าก็ต้องดูแลอีกสองคนที่บ้าน ไลฟ์สไตล์ของเรามันค่อนข้างแตกต่างกัน เราก็จะออกกำลังกายตลอด บางทีแอบเห็นน้องอ้วนขึ้นกว่าที่เคย เราก็บอกน้องออกกำลังกายสิ ก็มีชวนออกกำลังกาย แต่ก็กลายเป็นว่าพี่หนูแหม่มออกกำลังกายหนักไป น้องไม่ไหว ก็เลยกลายเป็นไม่ได้เจอกัน แต่ถ้าเป็นงานมีงานก็ยังได้เจอกันบ้าง ยอมรับชื่นชอบหลานเพราะแพ้ทางเด็กยิ้ม
ด้านเรื่องงานผู้ใหญ่ยังไม่มีทาบทามให้เราสองคนกลับมาร่วมงานกัน แต่ว่าเราสองคนก็ไม่ได้ปิดโอกาส หนูแหม่มคิดว่าถ้ามันเหมาะสมแล้วเป็นภาพที่ทุกคนคิดว่าเห็นแล้วมันเป็นบวกมากกว่าลบ มันก็น่าจะเกิดขึ้น ถ้าเรายังรู้สึกว่าต่างคนต่างยุ่ง แล้วยังไม่ได้มีคนชวน แต่ว่าเราพยายามจะดันให้มันเกิดขึ้น