เหล่าผู้บริหารร่วมงานสังสรรค์ หลังสำเร็จหลักสูตรบริหารระดับสูงบสพ.
"ชาลอต โทณวณิก" ประธานกลุ่มผู้บริหาร (บสพ.1) หลักสูตรบริหารระดับสูงเชิงบูรณาการทางการแพทย์ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแก่ผู้สื่อข่าวในงาน สังสรรค์ ของเหล่าผู้สำเร็จหลักสูตร ถึงหลักสูตรดังกล่าวว่า การบริหารทางการแพทย์ คือไม่ได้มาเรียนแพทย์ แต่เป็นหลักสูตรที่ผู้บริหารเข้ามาเรียนเกี่ยวกับเรื่องของวิทยาการสมัยใหม่หรือว่าการที่เราจะนำวิชาการทางการแพทย์มาทำใหม่เพื่อมีการอยู่ร่วมกันหรือแม้กระทั่งเรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หรือแม้กระทั่งเอจจิ้งโซไซตี้ คือเป็นการบริหารระดับสูงเชิงบูรณาการทางการแพทย์
หนึ่งในวิชาที่เรียนคือ การทำความเข้าใจเอจจิ้งโซไซตี้คือ ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในหลักสูตรนี้ก็จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอสมควร ขณะเดียวกันผู้ที่มาเรียนก็เรียกว่าค่อนข้างส่วนใหญ่เลย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหนก็จะสนใจในการที่จะต่อยอดจากเรื่องของสังคมผู้สูงวัยหรือเอจจิ้งโซไซตี้
เหล่าผู้บริหารเข้ามาเรียนแล้ว ส่วนหนึ่งก็คือบุคลากรทางการแพทย์เลย ซึ่งท่านก็ได้บอกว่า ปกติบุคลากรทางการแพทย์จะเป็นผู้ที่เรียนเก่งแล้วก็เป็นระดับท็อปๆทั้งนั้น เพราะฉนั้นชีวิตก็จะมีแต่ในแง่มุมส่วนนึง แต่พอในวันที่ได้มาเรียนกับทางนักธุรกิจหรือเพื่อนๆที่มาจากสังคมอื่น ทางส่วนของแพทย์เองก็บอกว่าได้เปิดโลก ได้เห็นโลกกว้างมากขึ้นและคิดได้หลายมิติมากขึ้น นส่วนของเอกชนเองก็เราก็ได้เจอเอกชนหลายภาคส่วนอบู่แล้วแต่ว่าครั้งนี้เหมือนกับว่าเราได้เข้ามารับรู้ในเรื่องของวิวัฒนาการทางการแพทย์มากขึ้นด้วย รุ่นนี้มีอยู่ประมาณ80 ถือว่าเยอะ ก็เป็นไปตามเป้าที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ตั้งเป้าไว้ แล้วพอจบรุ่นหนึ่งก็กำลังจะเปิดรุ่นที่สองต่อ
การเรียนที่ผ่านมาของตัวเราเองหรือเพื่อนๆบรรลุเป้าหมายไหมก็ถือส่าบรรลุเป้าหมาย แต่ว่าในหลักสูตรแรกก็อาจจะมีการวางหลักสูตร ซึ่งตอนนี้ต้องบอมรับว่าเป็นการนำโดยทางคณะที่เกี่ยวกับทางแพทย์ ก็อาจจะมีอะไรที่ต้องมีปรับปรุงกันบ้างในเรื่องทั้งภาคเอกชนที่เขาไปเรียนเรื่องหลักสูตรมาเยอะ เราก็ทำให้หลักสูตรในรุ่นต่อไปอาจจะมีการวางหลักสูตรที่เหมาะสมยิ่งขึ้น แต่ครั้งนี้ก็ถือส่าทุกคนก็ได้รู้เรื่องของทิศทางเกี่ยวกับสุขภาพ ในเรื่องของการได้รู้จักกัน เพราะว่ามาเรียนคราวนี้เดี๋ยวนี้เขาเรียกว่าการดูแลสุขภาพองรวม องรวมหมายถึงว่า ทั้งกายทั้งใจ คือไม่ใช่ดูแลสุขภาพกายอย่างเดียว และตรงนี้ไม่ใช่การรักษาแต่เป็นการป้องกัน
ด้าน "รศ.นพ. ปรัญญา สากิยลักษณ์" ศัลยแพทย์ รพ. ศิริราช หนึ่งในผู้บริหารที่เข้าอบรมในหลักสูตรดังกล่าวเผยว่า หลักสูตรนี้คืออะไรทำไมผู้บริหารซึ่งไม่ได้อยู่แวดวงการแพทย์ถึงได้มาเรียนกันเยอะคือจริงๆถึงแม้ว่าผู้ที่มาเรียนหลายท่านไม่ได้อยู่แวดวงทางการแพทย์ หลักสูตรนี้จริงๆแล้วเน้นเรื่องแผนการแพทย์ ปัจจุบันนี้ ธุรกิจที่เกี่ยวกับการแพทย์เจริญเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างเช่นสังคมคนแก่ คนชรา ตอนนี้ก็ก้าวเข้ามาสู่ประเทศไทยแล้ว ธุรกิจไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยสข้องกับคนชรา ก็มีบทบาทมากชึ้น แล้วอีกอันเดิมๆที่ยังอยู่อย่าง ความงามก็สำคัญ จะเห็นว่าธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ แท้กระทั่งเอกชนก็ถือว่าเป็นธุรกิจทางการแพทย์ ซึ่งถือว่าใหญ่มาก ดังนั้นจึงได้มีหลักสูตรนี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจถึงรายละเอียดยิบย่อยของธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ทั้งหมด มีทั้งไปดูงานในประเทศและต่างประเทศ ไปดูสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับที่เราเรียน เพราะฉนั้นตอนนี้ หลายๆคนก็สนใจธุรกิจด้านนี้ แพทย์ที่อยากทำธุรกิจด้านนี้ หรือคนที่ไม่ใช่แล้วอยากจะมาทำธุรกิจ เมื่อมาเจอกันก็ได้เกิดธุรกิจใหม่ๆ
ถามว่าส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ไหมก็จริงๆไม่เลย มีตั้งแต่คนรุ่นเก่ายั้นคนรุ่นใหม่เลย ซึ่งดี เพราะคนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ ของบางอบ่างเราเริ่มปุปปับไม่ได้ อย่างยา บางท่านเก่งเรื่องสมุนไพรก็ต้องผ่านการวิจัยเป็นเวลานาน มีพื้อนฐานที่ดี เพราะฉนั้นคนรุ่นเก่าก็ช่วยได้เยอะ และบางทีบางท่านเป็นผู้ชำนาญด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ช่วยเยอะ อบ่างเราจะหาสถานที่ดูและผู้ป่วยหรือคนชราในอนาคต แต่ถ้าไม่รู้เรื่องพื้นที่เราก็ทำงานลำบากมากขึ้น
ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เป็นที่รู้จักได้เข้าร่วมสังสรรค์ด้วย อาทิ คุณ นภัสนันท์ พรรณิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.ดาราเดลี่จำกัด "สกลวุฒิ ภูผาสุข" กรรมการ ผู้จัดการ บ.เอเอ อีเลคทริไลค์ จำกัด มหาชน คุณ มนัสนันท์ เธียไพรัตน์ เป็นต้น ในงานมีศิลปินดาราอาทิ เจเน็ท เขียว ดิว เดอะสตาร์ และ แพนเค้ก เขมนิจ ร่วมงานด้วย