“แม็กซ์ เจนมานะ" ออกจากป่า ส่งกำลังใจโปรเจ็คท์พิเศษ “เราจะไม่แพ้"

“แม็กซ์ เจนมานะ" ออกจากป่า ส่งกำลังใจโปรเจ็คท์พิเศษ “เราจะไม่แพ้"

            เชื่อว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” ของนักร้องหนุ่ม “แม็กซ์ ณัฐวุฒิ เจนมานะ” หนุ่มเสียงดีที่เคยผ่านการประกวดจากเวที The Voice แน่นอน เรียกว่าฮอตจนกลายเป็นเวอร์ชั่นคัฟเวอร์มากมายในโลกดนตรี รวมถึงอิงกับกระแสข่าวเรื่องการล่าสัตว์ในช่วงที่ผ่านมาจนยิ่งฮอตขึ้นจนฉุดไม่อยู่บนชาร์ตเพลง แต่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ที่มาที่ไป และความหมายของเพลงนี้ และเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม รวมไปถึงโปรเจ็คท์เพลงใหม่ร่วมกับโรงพยาบาลที่เจ้าตัวภูมิใจสุดๆ โดยหนุ่ม “แม็กซ์” เผยถึงผลงานต่างๆ ให้ฟังว่า

            หลังจากประกวด The Voice ก็เคว้งๆ ไปแป๊บนึง แต่ก็ทำงานเกี่ยวกับดนตรีนี่แหละ มีปล่อยออกมา 2-3 ซิงเกิ้ล และก็เพลินๆ แถวในเมือง และก็ช่วงอยู่ในค่าย หลังออกจาก The Voice ก็มีเขียนหนังสือ “หน้าแปลกที่แปลกหน้า” และ “เด็กไม่รู้จักโต” เรื่องการเขียนหนังสือ จริงๆ ตนมองว่าตัวเองเป็นนักเขียนหนังสือมากกว่านักดนตรี ตนชอบอ่านและก็ชอบเขียน จริงๆ ตนก็บังคับตัวเองให้ต้องเขียนหนังสือและก็ปรับพื้นฐานตัวเอง เพราะว่าเขียนเนื้อเพลงภาษาไทยไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ เลยใช้การเขียนหนังสือเป็นการปูพื้นฐานด้วย เป็นความชอบที่ช่วยเรื่องการเขียนเนื้อเพลงไทยมาก การเขียนหนังสือเป็นเหมือนมาราธอน แต่การเขียนเพลงเป็นการวิ่งสั้นที่ต้องจบใน 3 นาที  อย่างเพลง “ปีศาจ” แต่งร่วมกับ The Unicorn คู่หูของเรา เขาไปเข้าห้องน้ำและก็ให้เวลา 15 นาที เพราะว่าเราคิดว่าเป็นชั่วโมงก็ไม่ออกสักที เขาก็เลยบอกว่าเขียนเป็นภาษาอังกฤษไหลไหม เราก็เลยปั้นเป็นภาษาอังกฤษ ก็ง่ายดี ก็เลยเขียนภาษาอังกฤษเสร็จก่อนและก็มาปรับเป็นภาษาไทย

            สำหรับผลงานตอนนี้มีอัลบั้มที่เพิ่งปล่อยออกไป อย่าง "Let There Be Light" ซึ่งก็มีเพลงพิเศษที่ทำร่วมกับโรงพยาบาล เป็นเพลงชื่อว่า เราจะไม่แพ้ เพลงในอัลบั้มมี 5 เพลง และมี 1 โบนัสแทร็ก รวมเป็น 6 เพลง เป็นเพลงที่ตนเอาทุกเรื่องที่เป็นมุมต่างๆ ในชีวิตของตนมาใช้ทั้งหมด ทั้ง Wine, วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า, ดารา, ปีศาจ และก็เพลง แต่ละเพลงก็มีธีม มีสีของตัวมันเอง และก็มีเรื่องราวที่ชัดเจน แต่ละเพลงเรียงตามลำดับเวลาตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเช้า

            เรื่องความคาดหวังในอัลบั้มนี้ จริงๆ แค่อัลบั้มเสร็จเราก็ดีใจแล้ว ไม่ได้คิดว่าอัลบั้มนี้จะได้รับการตอบรับดี ดีใจมาก เกินความคาดหวัง ตอนนี้ก็ยังนอนน้ำตาเปียกหมอน ซึ้งมาก กระแสของเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” ก็เปลี่ยนชีวิตเหมือนกัน งานเข้ามาเยอะดี จ้างเข้ามาเยอะ แต่นอกจากเรื่องงานเยอะก็มีเรื่องอื่นๆ เราไม่ค่อยพูดถึงตัวเองเท่าไหร่ในอัลบั้มนี้ คนก็รู้จักเพลงก่อนที่จะรู้จักเรา เราก็ดีใจที่เขารู้จักจากผลงาน ส่วนเรื่องอื่นก็เหมือนเดิม

            ด้านเอ็มวีเพลงก็เป็นโปรดักชั่นที่ชวนเพื่อนๆ มาช่วยกันทำ อยากประหยัดงบด้วย เราเน้นน้อยแต่มาก ถูกแต่ดูแพง เพราะว่า budget จำกัด และส่วนเพลง “ชัดเจน” เพลงที่ปล่อยออกมาล่าสุด ก็อาจจะมีเอ็มวีแต่ก็คิดๆ กันอยู่ มันเป็นเพลงค่อนข้างส่วนตัว ไม่อยาก push มันมาก เป็นเพลงสำหรับคนที่เหนื่อยและควรพัก

            สำหรับ MV เพลง “ปีศาจ” เพื่อนที่มาช่วยทำเป็นคริสเตียนชาวอเมริกัน และเขามีแฟนเป็นคนเกาหลี เขาทำงานในเอเชียเยอะมากเหมือนกัน ตัวนี้มันเป็นเชิงสัญลักษณ์มาก ถึงโรคซึมเศร้าในเชิงสัญลักษณ์ ต้องไปดู เนื้อหาเพลงที่สะท้อนมา เราเขียนไว้บำบัดตัวเอง แต่ก็เหงาๆ เลยแบ่งให้กับคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีค่า คิดว่าตัวเองสู้กับความเศร้าไม่ไหว เพลงนี้น่าจะเป็นเพื่อนได้ มันเคยเป็นเพื่อนผมมาก่อน หวังว่าจะเป็น therapy ได้ 

            ในอัลบั้มนี้จริงๆ เราก็ชอบทุกเพลงเลย ส่วนเรื่องความหมายของเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” มันก็มาจากความชอบของเราจริงๆ เราชอบเดินเข้าป่าอยู่แล้ว วันไหนเซ็งๆ ก็จะไปภูเขา ก็เหมือนกับมีฟีลที่เราได้เจอความสงบในตัวเอง ก็เลยเอากิมมิคนี้มาใส่ ป่าให้พื้นที่ที่ไม่มีคน ก็เป็นที่ที่สงบ และทำให้เราเคารพธรรมชาติ เข้าป่าก็ควรเคารพป่าไม้ สัตว์ป่า ไม่ทำร้ายกันส่วนเพลงอัลบั้มต่อไปจะมีเกี่ยวกับทะเลไหม ก็กำลังคิดอยู่ อาจจะมีวันหนึ่งฉันดำลงทะเล หรือ วันหนึ่งฉันออกนอกอวกาศ จริงๆ นะ ก็มีคิดว่าจะต่อยอดไหม แต่ก็กลัวมันจะกิมมิคไปไหม ก็ต้องรอดูอีกที

            ล่าสุดตนมีโปรเจ็คท์ที่ทำร่วมกับโรงพยาบาลวัฒโนสถ เพลง “เราจะไม่แพ้" เป็นโปรเจ็คท์ที่เราภูมิใจในปี 2018 เลย ดีใจมากที่ได้ทำ มันเริ่มมาจากวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เป็นวันมะเร็งโลก เราก็ได้รับโอกาสจากโรงพยาบาลวัฒโนสถเป็นโจทย์มาว่า ให้แต่งเพลงที่พูดถึงวันมะเร็งโลก และก็การให้กำลังใจกับผู้ป่วย ซึ่งก็เป็นการให้กำลังใจผู้ป่วยในมุมที่ว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียว บางครั้งคนป่วย หรือคนที่มีภาระ มีปัญหาในชีวิต เขาจะคิดว่าเขาอยู่คนเดียว แต่จริงๆ มันไม่ใช่ การทำอะไรก็แล้วแต่มันต้องทำเป็นทีม อย่าคิดว่าอยู่คนเดียว การต่อสู้กับโรคมันไม่ใช่แค่ทีมแพทย์ เครื่องมือรักษา หรือว่ายาเท่านั้น แต่มันมีครอบครัว เพื่อน คนรัก และสิ่งเหล่านี้ก็สำคัญมากในการเป็นกำลังใจ เราคิดว่ามะเร็งแพ้ความสุข

            ทางโรงพยาบาลให้พื้นที่ในการแต่งเพลงเต็มที่ เหมือนกับทำเพลงปกติ อย่างเราเห็นวาหน้าโรงพยาบาลมีสัญลักษณ์ของชัยชนะ เราก็อยากเล่าเรื่องราวของชัยชนะอีกมุมนึง คือ ถ้าเราอยากจะชนะมันอาจจะยากไปหน่อย แต่ถ้าบอกว่าเราจะไม่แพ้ เราก็กลับมาย้อนดูตัวเอง รวมแก๊งเป็นเรา เป้าหมายมันไม่ได้อยู่ว่าเราจะมีชัยชนะอย่างเดียว แต่เป้าหมายคือเราจะทำอย่างไรก็ได้ให้ไม่แพ้ มันก็เป็นมุมที่ positive และไม่ aggressive มันให้ความหวังได้มากกว่า เพลงนี้ไม่ต้องเป็นผู้ป่วย แต่คนที่อยากให้กำลังใจกันและกันก็ส่งให้ได้ ฟังก์ชั่นของเพลงนี้มันเป็นเรื่องความหวังล้วนๆ ชีวิตนี้มีความหวัง เราจะสู้ไปด้วยกัน ถ้ามีเราก็มีความหวังเสมอ