4 หนุ่ม “Mattnimare” เผยเบื้องลึกเพลงกินใจ “ความรัก-ความสุข”
หลังจากที่ร่วมคอนเสิร์ต Joox Mad Furious แบบจัดเต็มช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หนุ่มๆ Mattnimare เจ้าของเพลงความหมายลึกกินใจ อย่าง “ความรัก” และ “ความสุข” ก็ได้โอกาสเผยถึงเบื้องหลังของการทำเพลง มิวสิควีดิโอ รวมถึงแพลนการออกซิงเกิ้ลใหม่ในปีนี้ให้ได้ติดตามกัน เชื่อว่าแฟนเพลงและหลายๆ คนที่เคยได้ฟังเพลงนี้ต้องอินมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
ก่อนอื่นขอเริ่มต้นที่เพลง “ความสุข” ที่หลายๆ คนเคยได้ฟัง เนื้อเพลงแต่งโดย “ซุง” (มือกีตาร์) โดยเนื้อหามาจากชีวิตจริงช่วงนึง และก็เรื่องราวจากหลายๆ คนรอบตัวมาเขียนเป็นเพลง ตอนนั้นสังเกตเห็นว่าคนแต่ละคนก็มีความสุขไม่เหมือนกัน บางคนก็ชอบปาร์ตี้ บงคนก็ชอบอยู่เฉยๆ เหมือนเป็นเรื่องของใครของมัน ที่แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ที่สำคัญคืออย่าไปตัดสินว่าเขาไม่มีความสุขกับสิ่งที่เขาทำ เราต้องให้เกียรติความสุขของคนอื่นด้วย ส่วนเรื่อง MV ที่ไม่เป็น story ไม่เป็นเรื่องราวต้องบอกว่าเป็นมิวสิควีดิโอที่เราไม่ได้แพลนเลย ช่วงนั้นวงก็ไม่มีงบอะไร แต่มีโอกาสรู้จักพี่ท่านหนึ่ง ชื่อว่า “พี่ออย” เขาได้ฟังเพลงของเรา และเขาก็มีคลิปอยู่ในมือเอามาเสนอเรา โดยแกเล่าว่าแกเดินทางไปที่เกาะพีพี แล้วตั้งใจจะไปถ่ายพระอาทิตย์ตก แต่อยู่ดีๆ ก็มีครอบครัวหนึ่งเข้ามาในเฟรม เขา้ก็คิดว่าจะย้ายที่ แต่มุมที่แกเห็นมันสวยมากก็เลยอัดไว้เลย 15 นาทีถ้าจะสังเกตมิวสิควีดิโอที่เราเขียนว่า realistic ก็เพราะว่ามัน real จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการจูบ การเต้นรำ ไม่มีใครกำกับ คนแสดงเราก็ไม่ได้แคสต์มา เป็นของจริงเลย มันเป็นรูปแบบของเรื่องความรักของพ่อแม่ลูก พอเราเห็นเราก็เอาเลย
วง Mattnimare เราฟอร์มวงกันตั้งแต่มหาวิทยาลัย เพราะว่าเราเรียนที่เดียวกันที่มหิดล เราก็ตั้งวงกันตั้งแต่ปี 1 เหมือนคนปกติทั่วไปที่เรียนดนตรี จริงๆ ตอนแรกกะว่าจะทำวงระยะสั้นเพื่อไปประกวดแค่งานเดียว ก็เอาแนวเพลงมาฟังกัน จนแข่งเสร็จก็ไม่ยอมเลิกวงกันสักทีจนตอนนี้ เราจบกันมา 2-3 ปีแล้วก็ยังทำเพลงกันอยู่
ด้านเพลง “ความรัก” ก็มาจาก “ซุง” เหมือนกัน ที่มาของเพลงนี้มาจากที่ช่วงนึงตนไม่รู้สึกถึงความรักเลย เพราะว่าเหมือนมีความรักผ่านมาหลายครั้งแล้ว จนมันชา มันก็เหมือนจะดีนะ เหมือนกับว่าเราไม่ต้องมีความรักก็ได้แต่มันมีปัญหาสำหรับเราก็เพราะว่าเราเขียนเพลงไม่ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่รู้สึก เราไม่มีทางเล่าเรื่องของมันได้เลย มันก็เลยรู้สึกว่าแย่แล้วก็เลยพยายามท้าทายความรู้สึกของตัวเอง เอาหนังที่เคยดูแล้วอินที่สุด เอาเพลงที่ฟังแล้วอินมากลับมาฟังก็ไม่ได้ผล ก็ทิ้งมันไป มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก จนก็มีเหตุการณ์ที่เราได้กลับไปเคลียร์ความรู้สึกบางอย่าง เรารู้สึกว่าความรู้สึกที่เกี่ยวกับความรักมันกลับมาแล้วในรูปแบบที่เราเข้าใจมันมากขึ้นว่าความรักไม่ว่าจะดีหรือแย่มันไม่มีอะไรเสียเปล่า ต่อให้เป็นความรักครั้งที่แย่ที่สุดก็ไม่เสียเปล่า มันก็ทำให้รู้ว่าเรายังเป็นคนอยู่ ยังรู้สึก ยังไม่ตายด้าน มันเป็นสิ่งที่ความรักให้เรา
ส่วนเพลงที่คิดว่าทำให้คนเป็นที่รู้จักก็น่าจะเป็น “ความสุข” เป็นเพลงแรกๆ ที่เราฝึกเขียน แม้ว่ามีหลายอย่างที่อยากจะสื่อ แต่ก็เขียนออกมาให้ง่ายที่สุด ส่วนเรื่องอัลบั้มเราตั้งกันไว้ว่าจะประมาณ 10 เพลง แต่คิดว่าก็คงเกิน 10 เราก็อาจจะแยกไปเป็นพิเศษ ตอนนี้ที่เราทำก็ 7-8 เพลง แต่ยังไม่ได้อัดจริง เป็นเดโม่เฉยๆ ปีนี้ก็จะทยอยปล่อยเพลงเรื่อยๆ แต่ครบจริงๆ ก็คงต้นปีหน้า ตอนนี้เราคิดว่าคงอยู่ตรงกลาง อัลบั้มก็ทำ ซิงเกิ้ลก็ปล่อย
เรื่องความกังวลว่าเพลงของเราจะลึก หรือมีเนื้อหาที่เฉพาะกลุ่มเกินไปไหม เราไม่เชิงกลัว แต่เราอยู่ในยุคที่สูตรสำเร็จขายไม่ได้แล้ว สังเกตุจากศิลปินที่เกิดขึ้นมาแบบแรงๆ ในแต่ละปี ถ้าดูดีๆ คือเขาก็แหกกฏทั้งนั้น เราก็เลยไม่ได้กลัวที่มันไม่ได้ Mass เกินไป เพราะว่าถ้าเกิดเรา Mass มาก มันก็จะเข้าสูตรสำเร็จที่ใช้ไม่ได้แล้ว ส่วนแนวความคิดเรื่องการทำเพลงตามกระแสเรามองว่าการทำดนตรีมันเสรี คุณจะยึดหลักของตัวเองก็ไม่ผิด ไปตามกระแสก็ไม่ผิด ใครจะทำยังไงก็ได้หมด เรารู้สึกว่าเวลาใครปล่อยเพลงอะไรออกมาก็เอาใจช่วยเขาทั้งหมด เรารู้สึกว่าเราเลยจุดแอนตี้เวลาเห็นใครทำเพลงตามใครแล้ว เราเองก็เป็นคนทำเหมือนกัน ถามว่าจะมีหมุนไปตามกระแสไหม ก็คงมีบ้าง เราก็ต้องรับมันกับเทรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามา เพราะว่าเราก็ไม่อยากเป้นคนแก่ที่เรียนรู้อะไรช้า แต่ถามว่าตัวเราที่เป็นดั้งเดิมกำลังทำอะไรอยู่ เราก็รู้กันดี พูดง่ายๆ คือถามว่า Mattnimare ตามกระแสไหมหรืออยากทำแต่แนวของตัวเอง เราว่ามันแล้วแต่เลยว่าเราอยากจะเอียงไปทางไหนมากกว่ากัน มันจะมีตรงกลาง
เรื่องคอนเสิร์ตเราก็แพลนไว้ มันเป็นความฝันของเรา ด้านซิงเกิ้ลต่อไป จะเป็นเพลงที่ความเป็น Mattnimare ก็ยังอยู่ แต่ว่ามันมีความเปลี่ยนแปลง ถ้าเปรียบเป็นคน ตอนวัยรุ่นเราก็อาจจะแต่งตัวจัดจ้านมาก เน้นสีสัน แต่พอโตขึ้นก็ค่อยๆ แต่งตัวเรียบขึ้น ก็เหมือนกับเพลงต่อไป เรายังแต่งแบบ Mattnimare อยู่แต่เป็นเวอร์ชั่นที่ตัดลงมา อะไรที่มันเกิดเราก็ตัดออก ซึ่งมันก็เป็นเพลงที่ค่อนข้างเรียบแต่อารมณ์แบบ Mattnimare ยังมีครบ