“ก้อย” เมินดราม่าก้าวคนละก้าว ฟิตร่างกายเตรียมแข่งมาราธอนเกียวโต

“ก้อย” เมินดราม่าก้าวคนละก้าว ฟิตร่างกายเตรียมแข่งมาราธอนเกียวโต

0

“ก้อย” เมินดราม่าก้าวคนละก้าว ฟิตร่างกายเตรียมแข่งมาราธอนเกียวโต

 

          หลังจากโครงการก้าวคนละก้าวผ่านไปด้วยยอดบริจาคทะลุไปกว่าพันล้านบาท สำหรับสาว “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ” ก็ขอกลับเข้าสู่โหมดปกติสักที แต่ดูเหมือนว่าสาว "ก้อย" เองก็ยังคงไม่ทิ้งการวิ่งอย่างแน่นอน เพราะล่าสุดดูเหมือนว่าสาว "ก้อย" จะมีโอกาสไปร่วมแข่งวิ่งมาราธอนถึงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น แถมยังเป็นสนามแรกในการแข่งขันวิ่งมาราธอนของเธออีกด้วย งานนี้ "พี่ตูน" ก็ขออาสาไปเป็นคู่วิ่งซ้อมให้สาวก้อยกันแบบสองต่อสอง และสภาพร่างกายของทั้งคู่หลังจาก “ก้าวคนละก้าว” จะเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนกระแสดราม่าถึง “พี่ตูน” ไม่รู้ว่าทั้งคู่จะว่าอย่างไร งานนี้สาว "ก้อย" ก็ออกมาเผยประเด็นเหล่านี้ว่า

ก้อย ก้าวคนละก้าว วิ่ง มาราธอน เกียวโต

          ตอนนี้ก็เป็นช่วงในการปรับตัว เราไปอยู่ตรงนั้นมาเกือบสองเดือนเนอะก็มีอะไรหลายๆ อย่างในร่างกายที่มันเปลี่ยนแปลงไป อย่างตอนวิ่ง ตนรู้สึกว่าดึงพลังงานจากอนาคตมาใช้ค่อนข้างเยอะพอกลับมาเรายังมีความอะเลิร์ทมาก แต่ว่า activity ที่เราทำอาจจะไม่ถึงขั้นตอนนั้น ช่วงนี้ก็จะนอนไม่ค่อยหลับตื่นตัวตลอดเวลา "พี่ตูน" ก็กำลังค่อยๆ ปรับตัวเหมือนกัน ก็เป็นช่วงที่เราได้กลับมาพัก เริ่มทำงาน ฟื้นฟูร่างกายให้ตัวเอง ตอนนี้ติดตื่นเช้า วิ่งนี่เป็นอะไรที่เป็นกิจวัตรไปแล้วจริงๆ ตอนวิ่งไม่ได้เจ็บอะไรมากแต่พอกลับมาพบว่าตัวเองมีปัญหาที่เข่ากับสะโพก แล้วระหว่างวิ่งนั้นเราไม่ได้รักษาเหมือนกับเราลืมความเจ็บไปเลย พอกลับมาก็เลยต้องทำกายภาพเพื่อที่เราจะได้กลับมาวิ่งได้เหมือนเดิม เวลาวิ่งต้องระวังคอยสังเกตตัวเองถ้าป่วยหรือเจ็บก็หยุดพัก คุณหมอบอกว่าวิ่งได้การวิ่งเป็นการยืดกล้ามเนื้ออย่างหนึ่งแต่อาจจะต้องไม่หักโหมเกินไป ก็เหมือนกับพยายามบาลานซ์กันระหว่างออกกำลังกับฟิตเนสกับการวิ่งสลับกันไปมา "พี่ตูน" จริงๆ ขาไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่ทราบกันจะเจ็บช่วงไหล่ช่วงสะบักแล้วก็ทำการรักษาอยู่ เท่าที่ไปวิ่งกันมาตอนนี้ก็ยังวิ่งได้ตามปกติ โชคดีตรงที่พอเรารู้ตัวว่าร่างกายของเราอาจจะยังไม่ได้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะฉะนั้นเราต้องทำกายภาพปรึกษาคุณหมอแล้วก็วางแผนเรื่องของการฝึกซ้อมให้ดีๆ คือหมอแนะนำให้พักแต่ไม่อยากพักเพราะก้อยมีเวลาซ้อมน้อยมาก คือหกอาทิตย์ก่อนที่จะไปวิ่งมาราธอน เราก็เลยรู้สึกว่าทำยังไงก็ได้ให้หายให้เร็วที่สุด

ก้อย ก้าวคนละก้าว วิ่ง มาราธอน เกียวโต

          คุณหมอก็แนะนำเรื่องของการยืดเยียด หมั่นทำกายภาพ คือคุณหมอแนะนำอะไรเราฟังแล้วก็ปฏิบัติตามมันจะได้หายเร็วขึ้น ที่ต้องระวังของตนอาจจะไม่ได้รุนแรงมาก พอเราฝั่งเข็มไปอาจจะต้องหยุดพักสักอาทิตย์หนึ่งแต่จะเป็นคนดื้อ พอเรารู้สึกว่าอยากจะออกไปซ้อมอยากจะออกไปวิ่งก็ออกไปวิ่ง แล้วพอไปวิ่งเราถึงรู้ว่าเราอยากจะวิ่งสิบกิโลแต่พอวิ่งถึงหกกิโลก็จะรู้สึกปวดเราก็ต้องหยุดทันที ก็จะรู้ว่ามันไม่เหมือนเดิมแล้ว แล้วก็กลับมาดูแลตัวเอง กินยา ทำกายภาพ นวด ทำทุกอย่างที่มันจะหายเร็วที่สุด จริงๆ ระหว่างที่หยุดวิ่งก้อยฟื้นฟูตัวเองตลอด ก็คือเหมือนกับเราเปลี่ยนการออกกำลังกายไปเป็นเวทเทรนนิ่งเข้าฟิตเนสเน้นส่วนอื่นแทนที่เราจะไปย้ำในส่วนที่เราเจ็บ ไม่ได้ถึงกับหยุดไปเลยแต่เปลี่ยนการออกกำลังกายมากกว่า ซึ่งเป้าหมายของเรามันใหญ่มากจนเรามีความรู้สึกว่าถ้าเราหยุดตอนนี้เราจะไปไม่ถึงตรงนั้น เพราะฉะนั้นเรารู้ลิมิตตัวเองเรารู้ว่าเราสามารถที่จะฟื้นฟูมันได้อย่างไรก็ปฏิบัติตาม ถ้าหยุดไปเลยก็กลัวว่ากลายเป็นพอเรากลับมาซ้อมมันจะไม่ดี

ก้อย ก้าวคนละก้าว วิ่ง มาราธอน เกียวโต

          ในช่วงที่วิ่งก้าวคนละก้าวอยู่มันก็มีคนมาชวนไปว่ามันมีงานวิ่งที่เกียวโตนะสนใจไหม ก็รู้สึกว่าถ้าเราจะลองลงมาราธอนครั้งแรกในชีวิตเนี่ยก็อยากจะลองในสนาม ซึ่งคนญี่ปุ่นเขาคลั่งไคล้การวิ่งมาก การจัดงานของเขาเรียกได้ว่าเป็นระดับสากล คือทุกคนทั่วโลกจะมาลงวิ่งที่นี่เยอะมาก ก็เลยรู้สึกว่าจะเป็นงานแรกเราก็น่าจะพอทำได้แหละ แล้วก็มีนักวิ่งคนไทยไปด้วย มีคุณหมอไปด้วย ล่าสุดที่ไปวิ่งกับพี่ตูนก็ดี คือตนอยากไปซ้อมก่อนไปจะลองระยะยาวๆ หลายคนอาจจะคิดว่าตอนวิ่ง “ก้าวคนละก้าว” มันยังไม่พอเหรอ คือมันไม่เหมือนกันช่วงก้าวคนละก้าวมันจะมีช่วงเดินรับบริจาค มันมีช่วงที่เราต้องหยุดบ้างอะไรบ้าง แต่อันนี้มันเป็นการวิ่งระยะยาวที่ยาวจริงๆ 42 กิโล ก็เลยลองมาลงที่สวนผึ้งกันก่อน แล้วดูวันที่พี่ตูนว่างพอดีเขาว่างวันนี้ก็เลยอาสามาวิ่งเป็นเพื่อนเรา

ก้อย ก้าวคนละก้าว วิ่ง มาราธอน เกียวโต

ก้อย รัชวิน

          ส่วนหลายๆ คนก็คงจะสงสัยว่าทำไมสาวก้อยยังสวยแม้ตอนวิ่งสาวก้อยบอกว่า มันหลายๆ อย่างรวมกันพอเรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำมันก็จะออกมาด้วยข้างในของเราเอง หน้าเราก็ไม่เป็นเหงื่อเราก็โทรมกาย ก็เราวิ่งจนเรารู้ว่ากล้องมันจะอะไรยังไง (หัวเราะ) พอผ่านกล้องไปมันก็มีหอบบ้างคนเรามันไม่ได้เป๊ะตลอดเวลา ช่วงที่ไปวิ่งก็ปฏิเสธงานไปค่อนข้างพอสมควร ไม่ได้รู้สึกว่าเสียดายมันเป็นสิ่งที่เราเลือกและตัดสินใจที่จะทำอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราทำงานตรงนี้ เรียกได้ว่าเราก็รับมาเยอะแล้ว ในวันหนึ่งที่เราตัดสินใจที่เราได้เป็นผู้ให้บ้างเราจะไม่มานั่งเสียใจสิ่งที่เข้ามาในตอนนั้น แต่ว่าเราเป็นห่วงคนที่เข้ามาแล้วเราปฏิเสธไปมากกว่า เราก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรกำลังทำเพื่อใครอยู่ หลังจากวิ่งจบชีวิตก็เปลี่ยนเป็นที่ความรู้สึกทั้งภายในและภายนอก อย่างภายในเราก็จะรู้สึกว่าเราได้ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ได้มีโอกาสเป็นส่วนเล็กๆ ในการทำภารกิจของพี่ตูนเอง ซึ่งก้อยมองตัวเองในมุมของเราเป็นทีมงานคนหนึ่งได้ทำในสิ่งที่มันรู้สึกว่าเราอยากทำต่อไปเรื่อยๆ แล้วเราก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เราทำมันจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่เห็น อย่างสิ่งที่พี่ตูนทำมันทำให้คนไทยออกมาเป็นผู้ให้ด้วยกัน ออกมาดูแลสุขภาพร่างกาย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้พูดระหว่างทางแต่พอคนเห็นแล้วทำตาม เราก็เป็นอีกคนที่เห็นพี่ตูนทำแบบนี้แล้วเราก็ทำตาม จนวันนี้เราเปลี่ยนตัวเองจนเป็นคนที่ออกกำลังกายดูแลสุขภาพร่างกายตัวเอง ในส่วนของข้างในเราก็รู้สึกว่าเราเป็นคนที่เรียกว่ามีความสุขกับการให้มากขึ้น อยากจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยอดเงินบริจาคตอนนี้น่าจะประมาณหนึ่งพันสามร้อยล้านกว่าๆ พี่ตูนน่าจะติดตามเยอะกว่าก้อย ก้อยเองก็ได้ฟังข่าวบ้างได้รู้ว่าตอนนี้ยังไม่ปิดรับบริจาคนะยังบริจาคได้เรื่อยๆ ไปจนถึง 30 พฤษภาคม

ก้อย ก้าวคนละก้าว วิ่ง มาราธอน เกียวโต

          ในเรื่องกระแสดราม่าพูดตรงๆ เลยระหว่างที่เราวิ่งกันเนี่ยก้อยไม่ค่อยได้เสพโซเชียลเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้ดูข่าวเท่าไหร่ ไม่ได้รู้เรื่องว่าข้างนอกเขาพูดถึงอะไรบ้าง สิ่งที่เราทำเราก็โฟกัสกับการวิ่งอย่างเดียวเพราะฉะนั้นเรามองสิ่งที่มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องทำดีกว่า ตัวพี่ตูนเองก้อยไม่แน่ใจว่าเขารับทราบเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ก้อยรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่เราทำเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ทุกอย่างผลประโยชน์ที่มันเกิดขึ้นมันเกิดขึ้นจากทุกๆ คนจากคนไทยทุกคน เพราะฉะนั้นก็อะไรที่มันเกิดขึ้นหรือดราม่าอะไรต่างๆ เราวางมันไว้ก่อน เราไม่ได้เอาใจไปปักตรงนั้นเพราะว่าเรารู้สึกว่ามันมีสิ่งที่มันสำคัญและใหญ่กว่านั้นที่เราจะต้องทำ ก้อยรู้สึกว่าในทุกๆ อย่างที่เราทำมันมีทั้งคนที่เข้าใจและคนที่ไม่เข้าใจอยู่แล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามชีวิตมันจะมองเป็นสองด้านได้อยู่แล้ว แต่ว่าสุดท้ายแล้วเรามัวแต่ไปกังวลกับสิ่งนั้นแล้วเราทำให้สิ่งที่เราต้องทำจริงๆ มันพลาดไปหรือแทนที่เราจะไปโฟกัสกับจุดใหญ่ๆ แต่เรากลับมาโฟกัสกับอะไรที่มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทางมันน่าเสียดาย เราเอาสิ่งที่เราทำคืออยากเห็นคนมีความสุขแล้วเราก็ทำด้วยความสุข เพราะฉะนั้นทำทุกอย่างด้วยความสุขเราคิดแต่สิ่งที่ดีที่มันเป็นภาพบวกดีกว่า เราก็จะได้เจอสิ่งนั้น ระหว่างทางก้อยก็เลยไม่ได้คิดที่มันเป็นเรื่องดราม่าหรือภาพลบอะไรเลย แต่ว่าก้อยมองความสวยงามที่มันเกิดขึ้นระหว่างทางจริงๆ

ก้อย รัชวิน ส่งกำลังใจ ตูน  บอดี้สแลม ก้าวคนละก้าว

ก้อย รัชวิน ส่งกำลังใจ ตูน  บอดี้สแลม ก้าวคนละก้าว

ก้อย รัชวิน ส่งกำลังใจ ตูน  บอดี้สแลม ก้าวคนละก้าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ก้อย” คุณแม่ฟูลไทม์เลี้ยงลูก เอ็นจอย “ทะเล” ไม่ตื่นคน ลุ้นขึ้นคอนเสิร์ต “บอดี้สแลม”

ครอบครัว “ตูน บอดี้สแลม” สุดปิติเข้าเฝ้าถวายสักการะ สมเด็จพระสังฆราช ฯ

อยู่เป็นมากลูก! เมื่อ “น้องทะเล” ได้เจอ “เสี่ยตา ปัญญา” ว่าที่พิธีกรคนต่อไปอยู่ไม่ไกลแล้ว

ส่องบ้านสุดหรู “ก้อย - ตูน” ที่ภูเก็ตตั้งชื่อ “บ้านทะเลและเวลา”

โมเมนต์น่ารัก! “น้องทะเล” แอบมาเซอร์ไพรส์รับ “ตูน บอดี้สแลม” กลับบ้านที่สนามบิน งานนี้คุณพ่อยิ้มไม่หุบเลย

น่ารักมาก! “ก้อย รัชวิน” เซอร์ไพรส์วันวาเลนไทน์ “ตูน” ด้วยช่อโดนัทแสนอร่อย

ตื่นเต้นกว่าลูก! “ก้อย - ตูน บอดี้สแลม” แท็กทีมส่ง “น้องทะเล” ไปโรงเรียนวันแรก

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments