“เอิร์น" ยันครอบครัวไม่แตกหลังลือสนั่น “น้ำเพชร" แอบตีท้ายครัวคั่ว “ดร.ดราฟ"
อยู่ดีๆ ก็ต้องมีเรื่องให้ออกมาเคลียร์จนได้ สำหรับกรณีของ "เอิร์น จิรวรรณ เตชะหรูวิจิตร" ที่มีข่าววงในลือสนั่นว่า ถูก "น้ำเพชร สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ" ตีท้ายครัว แอบกิ๊กคั่วกับสามีของตนเองอย่าง “ดร.ดราฟ ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง" ถึงขั้นทำให้บ้านแตกเลยทีเดียว งานนี้เลยไม่รู้จริงเท็จประการใด ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยว่า
กับปัญหาข่าวนี้ จริงๆ ก็มีมาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องลูกและสามี ซึ่งโชคดีที่เราแต่งงานตอนมีวุฒิภาวะทางอารมณ์แล้ว เพราะฉะนั้นข่าวที่เราเสพมันจะมาจากการเรียบเรียงหรือต้องหาเหตุผลหรือที่มาที่ไปก่อนจะไม่ได้โกรธ ไม่โมโหทันที ซึ่งจริงๆ ครอบครัวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังดีอยู่ และกับน้องเขาก็ได้ทราบว่าเขาอยู่ในกลุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์กับสามีของตัวเอง แต่ว่าไม่เคยพูดคุยหรือทักทายกันเป็นการส่วนตัว และปกติสามีเราก็จะเป็นคนเฟรนด์ลี่ มีเพื่อนทั้งผู้ชายผู้หญิงค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราก็รู้สึกชินกับเรื่องแบบนี้เลยไม่ได้ทำให้รู้สึกบั่นทอนอะไร
สำหรับ "น้ำเพชร สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ" ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรกับสามีเราแน่นอน ตอนที่มีข่าวใหม่ๆ ก็มีไปถามสามีว่าเห็นข่าวหรือยัง แต่ตอนนั้นสามียังไม่กลับจากทำงานและยุ่งอยู่ พอว่างเขาก็บอกว่ายังไม่เห็น เราเลยส่งให้ดู และพอสามีกลับมาถึงก็ได้คุยกันว่าที่มาที่ไปเป็นยังไง แต่ว่าข่าวจริงๆ ก็ไม่มีอะไร อย่างรูปที่เห็นก็เป็นคนละช่วง คนละเวลากัน และตอนนี้กำลังหาคำตอบว่าข่าวมาจากไหน
สำหรับเรื่องลูกทั้ง 2 คนอย่าง "น้องดี ด.ช.ดวงดิช ชัยรุ่งเรือง" และ "น้องดวิณ ด.ช.ดวงเดช ชัยรุ่งเรือง" ก็กำลังซนเลย คนโตอายุ 3 ขวบ 4 เดือน คนเล็กก็อายุ 1 ขวบ 4 เดือน คนเล็กก็อยู่ในวัยที่กำลังน่ารัก และทำตามพี่ทุกอย่าง เราก็ต้องใช้วิธีสอนเยอะหน่อย ซึ่งทางคุณพ่อเขาจะรักมาก และทั้ง 2 คนจะดีใจเวลาคุณพ่อเขาชวนไปทำกิจกรรมต่างๆ แต่เวลาพูดหรือถูกดุเมื่อไรก็จะกลัวและเชื่อฟังคุณพ่อมากกว่า แต่เราก็ไม่ถึงขั้นจะตามใจ บางครั้งก็ต้องดุจนเสียงแหบเขาก็ไม่กลัวเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่พ่อไป
ด้านจะมีแววในวงการ คนโตจะชอบเต้น ชอบเล่นละคร และเรียนอยู่ที่สาธิตกรุงเทพธนบุรี อนุบาล 1 ส่วนคนเล็กยังไม่เข้าโรงเรียน แต่มีแพลนให้เขามาเรียนด้วยกันเพราะว่าครอบครัวสามีเขาทำเกี่ยวกับด้านการศึกษาอยู่แล้ว
ส่วนแพลนมีลูกคนที่ 3 ก็ยังไม่มา และยังไม่ได้ปิดอู่ เพราะตอนที่มี 2 คนแรกจะแพลนไว้พร้อม รู้สึกโชคดีมากที่มีเขาคนที่ 3 เลยไม่คิดจะแพลนอะไร และส่วนตัวตั้งใจว่าอาจจะพอแล้ว เพราะว่าจริงๆ การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าจะเลี้ยงเขาให้โตได้นี่ยากมาก ซึ่งส่วนมากเราจะเลี้ยงเอง มีพี่เลี้ยงไว้แค่เป็นเหมือนผู้ช่วยเท่านั้น ไม่ได้ให้เขาเลี้ยงลูกเป็นหลัก ให้ดูแค่ประมาณ 20% ส่วนอีก 80% เราจะเป็นคนดูเองทั้งหมด