“โบว์” ไม่หวั่นหาก “น้องมะลิ” เป็นทอม เปรยมีงานละครทาบแต่ไม่พร้อมรับ
"โบว์ แวนด้า สหวงษ์" เตรียมพาน้อง “มะลิ พาขวัญ สหวงษ์” ไปเยี่ยมคุณย่าและคุณยายช่วงวันแม่ เผยไม่มีความกังวลใจหลัง “มะลิ” เข้ากับเพื่อนได้ดีในชั้นอนุบาล 1 ไม่หวั่นหากโตขึ้นจะเป็นทอมเหตุนิสัยออกห้าวๆ ด้านงานละครมีติดต่อมาเยอะ แต่ยังไม่พร้อมให้รับ
ยังคงเป็นคู่แม่ลูกที่งานชุกอยู่ตลอดๆ สำหรับคู่แม่ลูก "โบว์ แวนด้า" และ "น้องมะลิ พาขวัญ" ที่ล่าสุดทั้งคู่ก็ควงแขนออกงานรับทรัพย์อีกครั้ง งานนี้เลยมีโอกาสได้พูดคุยกับแม่ “โบว์” ว่ายังมีอะไรที่เจ้าตัวกังวลเกี่ยวกับน้อง “มะลิ” ที่โตขึ้นทุกวันๆ พร้อมกับอัพเดทเรื่องงานละครที่แว่วว่ายังคงมีผู้จัดติดต่อเข้ามาให้ไปร่วมงานอยู่เรื่อยๆ รวมไปถึงชีวิตในปัจจุบันกับบทบาทต่างๆ ของเจ้าตัวด้วย โดย “โบว์” เปิดเผยว่า
สำหรับวันแม่ปีนี้ก็ไม่มีอะไรพิเศษ จริงๆ วันแม่ทุกๆ ปี ถ้าตนมีโอกาสก็จะกลับบ้านไปเยี่ยมคุณแม่อยู่แล้ว แต่ว่าปีนี้ถ้ามีโอกาสกลับก็จะกลับพาน้อง “มะลิ” ไปเยี่ยมคุณย่าและคุณยายด้วย
ส่วนเรื่องการเข้าเรียนของน้อง “มะลิ” ตอนนี้น้องเพิ่งเข้าอนุบาล 1 เขาค่อนข้างที่จะปรับตัวได้ดี แล้วก็มีความสุขกับการไปเรียน ตนไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เพราะว่าในทุกๆ วันที่เขาไปโรงเรียนเขาไม่ได้งอแง แต่มีความสุขและยิ้มแย้มก่อนไปโรงเรียนทุกวัน เลยทำให้ตนรู้สึกว่าการที่เขาได้อยู่ที่โรงเรียนมันก็ทำให้เขามีความสุข เพื่อนๆ เขาเวลาเจอกันก็สนุกสนาน ส่วนใหญ่เขาจะมีเพื่อนผู้ชายเยอะ เพราะจะมีนิสัยออกห้าวๆ แต่ตนก็ไม่ได้กังวลอะไรถ้าเขาโตไปแล้วจะเป็นทอม เขาจะเป็นอะไรก็เป็นได้เลย ตนไม่ได้มีความกังวลอะไรเลย
ด้านการแบ่งเวลารับงานให้น้อง “มะลิ” ถ้ามีงานติดต่อเข้ามาส่วนใหญ่จะขอรับเป็นงานเย็น ถ้าเสาร์อาทิตย์ก็รับได้ ไม่ได้มีติดอะไร ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาจ้างไปก็เพราะว่าเขาน่ารัก พูดคุยรู้เรื่อง รู้เหตุผลของเราว่าเป็นยังไง แต่ก็มีงอแงบ้างตามสไตล์เขา ถ้าคนเยอะหรือรอนานบ้าง เขาก็จะงอแงตามประสาเด็ก แต่พอถึงเวลางานจริงเหมือนเขาเริ่มรู้งานแล้วว่าเขาต้องทำยังไง โดยงานส่วนใหญ่ที่ติดต่อมาตอนนี้จะเป็นงานอีเว้นท์ ถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ ส่วนงานละครยังไม่รับเพราะตนมองว่าน้องยังเล็กไป ยังสื่อสารรับรู้ความรู้สึกเขาไม่ได้เต็มที่ว่าเขาอยากได้อะไร ชอบอะไร ณ วันหนึ่งถ้าเขาพูดรู้เรื่องแล้ว บอกความรู้สึกกับเราได้ว่าเขาชอบอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที โดยแม่ “โบว์” เผยว่า จริงๆ มีงานติดต่อมาเยอะ ตนก็จะบอกว่ายังไม่พร้อม ไม่เหมาะสมกับบทละคร บทที่เขามาให้ดีอยู่แล้ว แต่กลัวทางเรายังไม่พร้อมมากกว่า โดยที่ติดต่อมาก็เป็นแนวครอบครัว ตนก็แอบเสียดายเหมือนกัน เพราะว่าทุกๆ งานที่เข้ามามันคือโอกาสในชีวิตที่ดี แล้วก็เป็นงานที่พัฒนาตัวเราไปด้วย มองว่าเป็นการเปิดโลกกว้างของเขาให้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ แต่ถ้าวันนึงมันไม่พร้อมจริงๆ หรือว่าไม่ใช่เวลาของเขา ตนก็ต้องขอห่างก่อน
ส่วนโปรเจ็คท์พิเศษเร็วๆ นี้ยังไม่มี จะมีก็แต่งานถ่ายแบบ งานโฆษณาให้แฟนคลับได้ดูกันไปก่อน สำหรับงานละครของตนก็ต้องดูก่อน ขอดูบท ถ้าตนเหมาะสมกับบทละครก็ใช้เวลาไม่มากเท่าไหร่กับตรงนั้นก็ได้อยู่
ส่วนงานผู้จัดละครที่เคยมีข่าวออกมาครั้งนึงว่าเจ้าตัวได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ไปทำ สาว “โบว์” ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ทำแน่นอน ตนพิจารณาตัวเองแล้วว่ายังไม่มีประสบการณ์ ไม่เคยอยู่ตรงนี้แล้วตนจะไปสั่งคนอื่นได้ยังไง การเป็นผู้จัดก็ไม่ได้ง่าย มันยากมาก คนไม่มีประสบการณ์ก็คงจะทำตรงนี้ไม่ได้ ตนก็พิจารณาว่าตัวเองยังไม่มีความสามารถมากพอ