“ฟาล” รับกดดันเล่น “Princess Hours” พร้อมเผยถึงความยากในการแสดง
“สเตฟาน สายชล ปารเนียส” เผยความกดดันที่ร่วมแสดง “Princess Hours Thailand รักวุ่นๆ เจ้าหญิงจอมจุ้น” พร้อมเล่าความภูมิใจในซีรีส์เรื่องนี้
นักแสดงหนุ่มสุดหล่อ “ฟาล ปารเนียส” ที่ตอนนี้ผลงานกระแสดงของเขาเรื่องล่าสุด อย่าง “Princess Hours” ก็กำลังออนแอร์ให้แฟนๆ ได้ติดตาม ซึ่งในเรื่องนี้เขายังต้องแสดงร่วมกับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง “เต๋า เศรษฐพงศ์ ” และสาว “แพทตี้ อังศุมาลิน” ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำการบ้านอะไรเพิ่มเติมไหม เมื่อได้พูดคุยกับหนุ่ม “ฟาล” เขาได้เผยให้ฟังถึงความยากของการแสดงซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมทั้งเผยความภูมิใจให้ฟังอีกด้วยว่า
“สำหรับโอกาสที่ได้เข้ามาเล่นในเรื่องนี้เพราะทางทีมงานเรียกเข้ามา แล้ว ‘พี่เต้’ แนะนำเข้ามาแคสต์ คิดว่าบทมันน่าจะได้เลยลองเข้ามา ถ้าถามว่ายากไหม ก็มาแคสต์รอบเดียวอ่านบทดูและลองเล่นหลายๆ ฉาก พออ่านบทแล้วรู้สึกว่ามันใช่ ก็เลยทำเต็มที่ หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน เขาก็ติดต่อเข้ามาว่าเราได้ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการถ่ายทำ
ส่วนบรรยากาศในกองก็สนุกสนานเป็นการทำงานแบบแนวครอบครัว กดดันไหม ตามจริงก็กดดันมากกว่าตรงที่ว่า ‘Princess Hours’ เป็นรีเมคของเวอร์ชั่นเกาหลีและเป็นซีรีส์ที่ดังมาก และตัวละครที่เล่นก็เป็นตัวละครที่หลายคนรักมาก มันทำให้เรารู้สึกกดดันมากเหมือนกัน เราได้ไปดูสักประมาณ 5 ตอนแรกผู้กำกับเขาให้ไปดูมาบ้าง แต่ไม่อยากให้ดูหมดเพราะกลัวจะติดกับเวอร์ชั่นเดิม หลังจากนั้นทีมงานได้จัดเวิร์คชอปตัวละคร ก็ได้มีการเตรียมตัวประมาณหนึ่ง
ด้านความยาก คือ ตอนมาถ่ายจริง คือไอเดียที่เคยมีไว้ตอนที่เวิร์คชอป กับความเห็นของผู้กำกับเขาจะเห็นไปอีกแบบหนึ่ง เราเห็นไปอีกแบบหนึ่ง ทำให้ต้องมาปรับจูนกันอีกที ส่วนฉากที่โหดที่สุด คือ ฉากที่เขาใหญ่เพราะถ่ายทั้งวันเป็นซีนอารมณ์ทั้งนั้น ซีนสุดท้ายเป็นซีนที่ใช้อารมณ์มากที่สุด คือจะทะเลาะกับแม่และโดนแม่ตบ เนื่องจากมันเป็นซีนอารมณ์มาทั้งวันและรู้สึกเหนื่อย พอมาเล่นตอนกลางคืนรู้สึกว่าเล่นไม่ดีเท่าที่ควร เลยขอทางทีมงานว่าให้ย้ายไปถ่ายอีกวันหนึ่ง
ตอนแรกไม่คาดคิดว่ากระแสจะดี เราเองรู้สึกเขินและภูมิใจที่คนชอบและให้ความสนใจกับละครเรื่องนี้มากขนาดนี้ ส่วนกับประเทศจีนก็ดีใจที่คนไทยชอบละครของคนไทย ทำให้รู้สึกว่าน่าจะเปิดละครของพวกเราให้ต่างประเทศได้ดูมากกว่านี้ เพราะคนจีนก็คนเยอะมากๆ เวลาเขาก็มีเรื่องของเขาอยู่แล้ว แต่พอรู้ว่ามาชอบเรื่องของเราทำให้เกิดกำลังใจและมีแรงทำมากขึ้น ส่วนมีตติ้งต่างประเทศที่มีแน่ๆ มาเลเซียจะไปเดือนหน้า เป็น พี่เต๋า, พี่เบเบ้ และเรา ส่วน ‘พี่แพทตี้’ จะติดคิวไปไม่ได้
ในส่วนของความภูมิใจที่สุด ตามจริงการที่เราได้เล่นบทที่มันค่อนข้างมีมิติให้ทุกคนชอบ ให้ทุกคนติดตาม เราคิดว่าเป็นความภูมิใจสูงสุดแล้ว อยากให้ติดตามกันด้วยสำหรับเรื่องนี้ เพราะทำกันเต็มที่มากๆ ตอนนี้ถึงนอกประเทศจะป๊อปปูล่าร์มากกว่า แต่อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไทยเปิดใจดูด้วย อยากให้ลองดูว่าสนุกขนาดไหน เพราะมันปรับเข้ากับวัฒนธรรมไทย”