เกินฝัน! "แม่หมู" เล่าเบื้องหลัง "น้องนาย" ร้องไห้ มี "บอดี้แสลม" เป็นแรงบันดาลใจตั้งแต่ 10 ขวบ
"แม่หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ" เล่าเรื่องราวลูกชาย "นาย ณภัทร เสียงสมบุญ" ร้องไห้เมื่อได้ขึ้นร้องเพลงกับวง "บอดี้แสลม" ที่ปลื้มมา 10 กว่าปี มองข่าวกับสาวๆ เป็นเรื่องธรรมดา
นับว่าเป็นอีกหนึ่งงานอีเว้นท์สุดประทับใจ เมื่อนักแสดงวัยรุ่นหนุ่ม "นาย ณภัทร" ได้มีโอกาสขึ้นร้องเพลงกับวงดนตรีวงโปรดอย่าง "บอดี้แสลม" ซึ่งงานนี้ก็ทำเอาหนุ่ม "นาย" อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความซึ้งใจ ทั้งนี้เมื่อทาง "ดาราเดลี่" มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณแม่ "หมู พิมพ์ผกา" คุณแม่ของหนุ่ม "นาย" เธอก็ได้เล่าความประทับใจนี้ พร้อมอัพเดทเรื่องงานและความรักของลูกชายว่า
เป็นตั้งแต่ช่วงเขาเด็กๆ เมื่อประมาณ 10 กว่าขวบ พี่ "ยอด" เป็นแรงบันดาลใจให้น้องเล่นกีต้าร์ด้วย น้องเขาชื่นชอบมากเป็นพิเศษ หัวเตียงเขาจะมีรูปวง "บอดี้แสลม" ทั้งวง ติดเป็น 10 ปีแล้วจนทุกวันนี้ไม่ได้เอาออก พอแม่เจอพี่ "ตูน" แม่เข้าใจในตัวน้อง แม่น้ำตาแตกก่อนอีก เป็นวันที่น้องฝัน เกินที่จะฝันแล้ววันนี้ก็มาถึง ปลื้มแทนน้อง เพราะรู้ว่าเขารักเขาปลื้มมาก เวลาแม่ไม่อยู่ไปถ่ายละคร เขาก็จะส่งไลน์มาให้ เอาวิกผมยาวมาใส่เล่นกีต้าร์ ตั้งแต่ที่ยังเล่นกีต้าร์ไม่เป็น แล้วเมื่อก่อนน้องเขาไม่มีตังค์ไปเรียนกีต้าร์ น้องเขาก็เรียนด้วยตัวเอง แล้วก็ทุกครั้งที่เขาท้อ เขาก็ฟังเพลงพวกนี้ ก็ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจ ก็เล่นกีต้าร์ได้จนทุกวันนี้
ตอนแม่มองขึ้นไปแล้วเห็นน้องร้องไห้ คือแม่ร้องตั้งแต่ที่น้องยังไม่ร้อง แม่รู้ว่าเขารักของเขามาก เขาศรัทธาของเขา แล้วก็มีความรักกับเพลงของพี่ "ตูน" หลายๆ เพลง ทั้งที่บางทีน้องเขาก็เหงาบ้าง ท้อใจบ้างเหมือนเพลงจะเป็นกำลังใจ เป็นเพลงที่ให้กำลังใจคนให้ลุกขึ้นสู้ให้เดินไปข้างหน้า เหมือนเพลงของ "บอดี้แสลม" อยู่เพื่อเป็นแรงกำลังใจให้ทุกคน เวลาที่ "บอดี้แสลม" ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็แล้วแต่ น้องจะขอแม่ไปดู น้องเขาก็จะไปเกาะอยู่หน้าเวทีไปกระโดดๆ อยู่ข้างหน้า ก็มีอยู่ 2-3 ครั้งที่แม่ก็ไปด้วย ไปกระโดดๆ กับน้องด้วยหน้าเวที
พอน้องลงจากเวทีก็ร้องไห้ แล้วแม่ก็วิ่งไปกอด เป็นวันที่น้องดีใจที่สุด แล้วแม่ก็ได้แต่บอกว่า จำวันนี้ไว้นะลูก คือน้องเลือกคนที่เป็นไอดอลไม่ผิด แม่ก็อวยพรว่าวันนึงขอให้ลูกเป็นได้ครึ่งนึงของพี่ "ตูน" ทำได้ครึ่งนึงเท่าที่พี่ "ตูน" ทำ ทำประโยชน์ให้สังคมหรือเปลี่ยนความดังให้เป็นความดีเหมือนพี่ "ตูน" เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ แล้วในฐานะคนเป็นแม่ คือลูกเลือกคนไม่ผิด แม่ไม่ผิดหวังเลยที่ลูกเลือกพี่ "ตูน" เป็นไอดอล
ด้านผลงานตอนนี้มีละครเรื่อง "รักกันพัลวัน" ก็แบ่งเวลาให้เรื่องเรียนด้วย มหาวิทยาลัยที่น้องเรียนคือไม่ใช่แค่ไปเช็กชื่อเรียนก็ได้ ครูเขาไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร คุณจะเลือกเรียนหรือเลือกอะไรกันแน่ ก็ 3-4 ปีที่ผ่านมาน้องก็พยายามเก็บวิชาให้ได้เยอะที่สุดใน 3 ปี แรก เพื่อที่ปี 4 ปี 5 จะได้รับงานได้มากขึ้น แต่รับงานได้มากขึ้น คือ จันทร์-พุธ ถ่ายละคร พฤหัสบดี-ศุกร์ ก็ไปเรียน เสาร์-อาทิตย์เท่านั้นที่จะทำงานได้ เพราะฉะนั้นงานที่รับได้ค่อนข้างที่จะน้อยนิดนึง เพราะว่าต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเรียน
ช่วงนี้น้อง "นาย" เริ่มมีข่าวกับสาวๆ ในวงการบ้างแล้ว แม่มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาคือเราไม่สามารถที่จะทำงานกับผู้ชายได้เพศเดียว เราต้องทำงานกับคนหลากหลายคนหลากหลายเพศ เราไม่สามารถที่จะเลือกได้ แม่มองว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็เข้ากันหมด อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่าเขาจะเลือกมองแบบไหน แม่ก็จะสอนน้องว่าอย่าทำให้มิตรภาพที่ดีมันหายไปเพียงเพราะว่าเรากลัวว่าเราจะตกเป็นข่าว เพราะฉะนั้นเวลาน้องคบใครน้องก็จะบริสุทธิ์ใจ แล้วแม่เชื่อมั่นในสิ่งที่น้องตัดสินใจ ก็คือน้องพูดกับแม่ว่าน้องตั้งใจเรียนก่อน หน้าที่ของน้องตอนนี้น้องก็รักด้วย แล้วถ้ามีแฟนก็ต้องเอาเวลาไปแบ่งให้แฟน ไม่รู้ว่าจะหามาให้จากที่ไหนแล้ว