"เป็นคนธรรมดาไม่ให้คิดว่าดารา" เปิดวิธีสอนลูกจากคุณแม่ดาราเด็กชื่อดัง "น้องอันดา"
ต้อนรับเดือนแห่งวันแม่ เปิดเรื่องเล่าความผูกพันระหว่างแม่-ลูกของดาราเด็กชื่อดังอย่าง "น้องอันดา กุลฑีรา ยอดช่าง“ และคุณแม่สุดเลิฟ
เดินทางเข้าสู่เดือนสิงหาคมเป็นที่เรียบร้อย และแน่นอนว่าหลายคนคงทราบดีว่าเป็นเดือนแห่งวันแม่ ซึ่งบรรยากาศก็จะอบอวลไปด้วยความรัก ความผูกผัน ระหว่างแม่ลูก มีโมเมนต์สุดประทับใจออกมาได้เห็นในช่วงวันแม่ รวมถึงบรรดาคนบันเทิงที่มักจะมีโมเมนต์และเรื่องเล่าสุดอบอุ่นในแบบฉบับครอบครัวขอองตนเองออกมาให้ได้ติดตามกัน โดยทาง “ดาราเดลี่” ก็อยากจะชวนแฟนๆ มาเติมเต็มความรักในเดือนแห่งวันแม่ผ่านบทสัมภาษณ์ความรู้สึกของดาราดังกับความผูกพันกับคุณแม่สุดเลิฟกัน
โดยในวันนี้ก็มาถึงคิวดาราเด็กชื่อดังอย่าง "น้องอันดา กุลฑีรา ยอดช่าง“ และคุณแม่สุดเลิฟที่มีความใกล้ชิดสนิทสนม โดยคุณแม่ก็ได้ออกมาเล่าถึงความผูกพันระหว่างกันและกันว่า
เรื่องการดูแลน้อง จริงๆ แล้วไม่มีอะไรเลยค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้องเขาได้เรียนเยอะขึ้นด้วย ถ้ามีคิวถ่ายละครก็ใช้วิธีการเดิมๆ เลย คือคุยกับคุณครูเขาไว้ก่อน ว่าวันนี้น้องเขาต้องไปถ่าย คุณครูก็จะเก็บบทเรียนมาไว้ให้
ส่วนงานแสดงแม่ช่วยสอนน้องมีแค่ช่วยท่องบทอย่างเดียวค่ะ เราก็จะอธิบายเรื่องมันเป็นแบบนี้ พอมาถึงบทฟีลมันจะเป็นแบบนี้ แค่บอกนิดเดียวเอง ว่าเขาต้องสื่ออกมาเป็นประมาณไหน เรื่องอารมณ์ แอคติ้งน้องเขาก็แสดงออกมาเองเลย
แม่ก็สนับสนุนเขาเต็มที่เลยค่ะ ถ้าชอบทางไหน จริงๆ ตอนแรกเขาฝันหลายอย่างเลย เป็นแอร์โฮสเตส เป็นคุณหมอ เป็นนักแสดง เขาจะพูดตลอดอยากเป็นคุณหมอที่เป็นนักแสดงไปด้วย เราก็สนับสนุกเต็มที่เลย ถ้าผู้ใหญ่ยังเอ็นดูน้องเราก็ให้เขาทำต่อไปค่ะ
ถามว่าห่วงไรน้องบ้าง ก็ห่วงสุขภาพน้องเรื่องการกิน เขาเป็นคนที่ทานอะไรได้น้อยมาก เรื่องการพักผ่อน ส่วนที่เหลือไม่มีอะไรน่าห่วงเลยค่ะ เขาดูแลตัวเองได้
สำหรับความผูกพันเราสนิทกันมาก อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลยค่ะ คู่เราแม่ลูกจะคุยกันทุกเรื่อง อย่างเขากลับมาจากโรงเรียนเขาก็จะมาเล่าให้เราฟัง เราก็จะเล่าให้เขาฟัง ต่างคนต่างไปทำไรมาบ้าง เราจะคุยกันทุกเรื่องให้เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าเขาจะมีปัญหาอะไรมา ก็จะคุยกัน มันเป็นอีกเทคนิคง่ายๆ เหมือนเราคุยกันแบบเพื่อนๆ เพื่อให้เขารู้สึกว่ามีเราใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา
น้องเข้าวงการแต่เด็กไม่กังวลนะคะ เราบอกเขาประจำว่าเราเป็นคนธรรมดา ไม่ว่าจะอยู่กับเพื่อนหรือผู้ใหญ่ ไม่ให้เราคิดว่าเราเป็นดารา เพราะมันจะเข้ากับคนอื่นลำบาก ถ้าวันนึงเราเฟดตัวออกจากวงการแล้วเขายังใช้อภิสิทธิ์ดารามันจะอยู่ยาก เราก็ไม่ค่อยห่วงเวลาเห็นเขาอยู่กับเพื่อน เขาก็เล่นตามปกติ ไม่ว่าจะทำอะไร ให้เขาใช้ชีวิตปกติ ต่อคิว เข้าแถว ทุกอย่างแบบเด็กทั่วไป
ท้ายสุดก็อยากฝากถึงแม่ๆ นะคะ ถ้าเรายังมีลูกยังเล็กอยู่ยิ่งดีค่ะ เรากับลูกควรคุยกันสนิทสนม อย่าปล่อยให้มีระยะห่าง สักวันหนึ่งเราต้องยอมรับให้ได้เมื่อเขาโตขึ้นเขาก็ต้องมีช่วงอยากอยู่กับเพื่อน ตอนนี้เรามีโอกาสก็อยู่ดูแลเขาให้เต็มที่ ไม่ผลักดันเขาไปทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่กดดันเขา ถ้าเขาชอบอะไรก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ ทำกับลูกให้เหมือนเราเป็นเพื่อนกันดีกว่าค่ะ เขาจะได้คุยเปิดใจกับเราทุกอย่าง