เปิดกรุย้อนรอย กว่าจะมาเป็น GDH 559

เปิดกรุย้อนรอย กว่าจะมาเป็น GDH 559

     เจาะลึกค่ายหนังยักษ์ใหญ่ กว่าจะมาเป็น GDH 559 ที่ก่อนหน้านี้ได้สร้างชื่อเสียงไว้ในนาม GTH แฟนคลับล้นประเทศ ผลงานทำรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท

     เรียกได้ว่าเป็นค่ายหนังยักษ์ใหญ่ที่ผลิตผลงานออกมาให้แฟนคลับได้ติดตามรับชมอยู่ตลอด สำหรับค่าย GTH หรือ “จีเอ็มเอ็ม ไท หับ" ที่ภายหลังเปลี่ยนผู้ถือหุ้นและชื่อบริษัทมาเป็น GDH “จีดีเอช ห้าห้าเก้า” ซึ่งค่ายนี้ก็เป็นค่ายที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการภาพยนตร์ไทยและวงการละครซีรีส์เป็นอย่างมากมาย รวมไปถึงผลิตนักแสดงหน้าใหม่ที่มากความสามารถให้ออกมาชิมลางในวงการบันเทิงแล้วหลายคนด้วยกัน โดยก่อนที่จะมาเป็น GDH “จีดีเอช ห้าห้าเก้า” ในทุกวันนี้ พวกเขาก็ได้สร้างผลงานออกมาภายใต้ชื่อ GTH (จีเอ็มเอ็ม ไท หับ) มากมาย 

     “GTH” หรือบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด เริ่มก่อตั้งและจดทะเบียนบริษัทเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2547 โดยมีทุนจดทะเบียน 105,000,000 บาท หรือ หนึ่งร้อยห้าล้านบาทถ้วน และมีกรรมการบริษัท 7 คน ได้แก่

     1.นางสาวบุษบา ดาวเรือง

     2.นางจิราภรณ์ รุ่งศรีทอง

     3.นางกานต์สุดา แสนสุทธิ์

     4.นางสาวสุวิมล จึงโชติกะพิศิฐ

     5.นายวิสูตร พูลวรลักษณ์

     6.นางจงกลนาฎ พูลวรลักษณ์

     7.นางสาวจินา โอสถศิลป์

     ซึ่งในวงการภาพยนตร์ บริษัท GTH ก็สร้างผลงานมากคุณภาพเอาไว้มากมาย ถึง 41 เรื่องด้วยกัน และผลงานที่สร้างรายได้สูงสุดของค่ายก็คือ “พี่มาก..พระโขนง” ผลงานกำกับของ "โต้ง บรรจง" โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างรายได้ทั่วประเทศถึง 1,000 ล้านบาท และได้พระ-นางสุดฮอตอย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “ใหม่ ดาวิกา” มาประกบเรียกความฟิน นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่สร้างรายได้สูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย 

     และเรื่องที่สองที่สร้างรายได้สูงสุดรองมาคือ "ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้" ผลงานกำกับของ "เมษ ธราธร" โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างรายได้ถึง 335 ล้านบาท และได้พระ-นางสุดฮอตอย่าง “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” และ “ไอซ์ ปรีชญา” มาสร้างความฮาสนั่นโรง

     มาถึงเรื่องที่สร้างรายได้สูงสุดเป็นอันดับสามของค่าย คือ "ATM เออรัก เออเร่อ" ผลงานกำกับของ "เมษ ธราธร" โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างรายได้ถึง 152.5 ล้านบาท และได้พระ-นางสุดฮอตอย่าง “เต๋อ ฉันทวิชน์” และ “ไอซ์ ปรีชญา” มาเรียกเสียงหัวเราะ

     และสาเหตุที่พวกเขาตัดสินใจยุบบริษัทเก่าและเปลี่ยนชื่อแปลงโฉมใหม่ เมื่อช่วงสิ้นปีที่แล้ว ทางผู้บริหารก็ได้ออกมาแถลงข่าวว่า

     เราทุกคนได้ช่วยกันสร้างบริษัทแห่งนี้ขึ้นมา มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จจากผู้ชมอย่างดี ยิ่ง ตลอดการทำงานจะมีการทบทวนทิศทางการประกอบธุรกิจตลอดเวลา เช่นเดียวกันกลางปีที่ผ่านมา ได้พูดคุยการพัฒนาการเติบโตทางบริษัท ไทยเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มีความเห็นว่าจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ทางบริษัท หับ โห้ หิ้น มองว่ายังไม่พร้อมที่จะเข้า 1-3 ปีนี้

     GMM เห็นทางผู้ถือหุ้นเห็นไม่ตรงกัน อาจส่งเสียกับทั้ง 3 บริษัท และคำนึงความสัมพันธ์ที่ดี ทั้ง 3 ฝ่าย จึงตัดสินใจยุติการดำเนินงาน GTH ซึ่งจะมีผล 31 ธันวาคมปีนี้ และได้ประชุมบริษัท แจ้งกับพนังงานแล้วเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางบริษัทจะดูแลการจ่ายโบนัส ชดเชยตามหลักกฎหมาย ส่วนนักแสดง ได้มีการพูดคุยให้ทุกคนรับทราบ และนักแสดงก็ตัดสินใจเรื่องสัญญาได้ตามต้องการ สำหรับสิทธิการบริหารจัดการภาพยนตร์ และละครที่ผลิตใน GTH จะให้ทางบริษัท แกรมมี่ บริหารจัดการสิทธิ์ และจะแต่งตั้งผู้มีอำนาจอีกครั้ง

     นอกจากนี้ทางค่ายยังได้ผลิตนักแสดงหน้าใหม่มากความสามารถออกมาสร้างชื่อเสียงในวงการบันเทิงอีกหลายต่อหลายคน อาทิ เต๋อ ฉันทวิชน์ , ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ , พีค ภัทรศยา , มาดามมด , ไอซ์ ปรีชญา ฯลฯ

     และปัจจุบัน บริษัท GTH จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท GDH จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด โดยเริ่มก่อตั้งและจดทะเบียนบริษัทเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 150,000,000 บาท หรือ หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน และมีกรรมการบริษัท 8 คน ได้แก่

     1.นาวสาวบุษบา ดาวเรือง

     2.นายสมภพ บุษปวนิช

     3.นางมณฑนา ถาวรานนท์

     4.นายกิตติศักดิ์ ช่วงอรุณ

     5.นางสาวจินา โอสถศิลป์

     6.นายจิระ มะลิกุล

     7.นายยงยุทธ ทองกองทุน

     8.นายวิชชพัชร์ โกจิ๋ว

     ซึ่งเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ก็ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คุณ "บุษบา ดาวเรือง" และคุณ "จินา โอสถศิลป์" หุ้นส่วนของค่าย ได้เผยถึงเรื่องนี้ให้ฟัง

     "บุษบา" เผยว่า "กรณีปิดตัว "GTH" จบกันได้ดี ต่างฝ่ายต่างให้เกียรติกันและกัน หากมีโปรเจ็คท์พิเศษสามารถร่วมงานกับทางบริษัท "ไท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์" ได้เหมือนเดิม เคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย  คาดหวังกับบริษัทใหม่พอสมควร เพราะทุกคนทุ่มเทกับการทำงานมาก"       

      "จินา" เผยต่อว่า "เป็นการยกระดับให้ดียิ่งขึ้น แต่การทำงานยังเหมือนเดิม ในแง่บริษัทจะเล็กลง เหมือนเป็นการนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง การปิดตัว GTH เป็นการปิดตัวอย่างสวยงาม เพราะทั้ง 3 ฝ่ายได้ตกลงกันอย่างเรียบร้อยแล้ว ส่วนชื่อบริษัทใหม่เพิ่งเริ่มคิดออกมา ย้ำชัด 3 บริษัทในเครือ "GTH" จบกันด้วยดี สาเหตุที่ทางเรายังไม่พร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ (ช่วง 1-3 ปีนี้) อยากให้แฟนๆ ให้กำลังใจในฐานะคนทำงาน หวังแฟนหนังยังให้กำลังใจบริษัท ส่วงช่องเคเบิ้ล (GTH) คอนเทนท์ทั้งหมดจะออกอากาศผ่าน ดิจิตอลทีวี (ONE, GMM25)