เปิดใจ “มด” ศิษย์เก่าโยธินบูรณะ กับการย้ายที่ตั้งและความผูกพันต่อรร.
“มด ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ” ศิษย์เก่าโรงเรียนโยธินบูรณะ เผยความรู้สึกเกี่ยวกับการย้ายที่ตั้งโรงเรียน พร้อมเล่าความประทับใจและความผูกพันที่มีต่อโรงเรียนแห่งนี้
เป็นอีกหนึ่งข่าวที่กำลังถูกพูดถึงในตอนนี้ กับการย้ายที่ตั้งโรงเรียนโยธินบูรณะ จากบริเวณแยกเกียกกาย ไปยังบริเวณสะพานพระราม 7 โดยที่ดินเดิมจะถูกสร้างเป็นรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งก็ได้มีการร่วมงานอำลาโรงเรียนที่เต็มไปด้วยความผูกพัน ล่าสุดเราได้มีโอกาสพูดคุยกับศิษย์เก่าคนเก่งอย่าง “มด ณปภัช” เธอก็ได้เผยความรู้สึกที่มีต่อโรงเรียนแห่งนี้ให้ฟังว่า
เรียกได้ว่าค่อนข้างผูกพันมากๆ เลยค่ะ หนึ่งคือเราจบจากที่นี่ เรียนมาตั้งแต่ม.1 ถึง ม.6 แล้วช่วงระยะเวลาที่เรียนที่นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากสำหรับเราด้วย เพราะว่าตอนที่เรามาเป็น “โฟร์-มด” เราก็อยู่โยธินแล้ว เรียน ม.1 ม.2 แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเราจะออกไปทำงาน แล้วกลับเข้ามาเรียน ทางโรงเรียนซัพพอร์ตเราเยอะมาก แล้วก็อาจารย์ค่อนข้างช่วยเยอะมากๆ แล้วอีกอย่างนึงคือ ทางโรงเรียนเวลามีกิจกรรมเราก็จะช่วยทางโรงเรียนได้เหมือนกันค่ะ ถึงแม้จะจบแต่โรงเรียนอยากให้ไปช่วย ก็ยังช่วยได้ค่ะ แต่ด้วยตารางงานของเรา มันมักจะไม่แน่ไม่นอนสักเท่าไหร่ด้วยค่ะ
จริงๆ จะบอกว่าเราทราบเรื่องนี้ตั้งแต่เรายังเรียนอยู่โยธินแล้วค่ะ คือเรื่องนี้ค่อนข้างนานมาก เราทราบข่าวมาตั้งแต่ที่เราอยู่ประมาณ ม.4 ขึ้นไป ที่เราทราบว่าโรงเรียนจะต้องโดนย้าย เราก็ทำไมอยู่ดีๆ ถึงย้าย เพราะอะไร แต่มันก็เป็นเหตุผลของทางผู้ใหญ่ มันก็ผ่านมานานเหมือนกัน เพราะว่าก็ต้องสร้างที่ใหม่ให้เสร็จก่อนที่จะทุบที่เก่า เราก็คอยติดตามกับเพื่อน ติดตามกับอาจารย์มา ก็ไม่ได้บ่อย แต่ก็นานๆ ครั้งที่จะติดตามว่าตึกใหม่เป็นยังไงบ้าง เราก็เห็นรูป เราก็แบบอิจฉาน้องๆ รุ่นใหม่ ตึกใหม่ไฮโซมาก อยากกลับไปเรียนอีก แต่พอเรากลับมาเห็นรูปที่เราเคยเรียน ตึกที่เราใช้ชีวิตอยู่ 6 ปีที่นั่น มันไม่ใช่แค่ตึกเรียน แต่มันเป็นมากกว่านั้น มันคือความทรงจำนึง มันคือช่วงชีวิตนึงที่เราอยู่ที่นี่ เรามีความทรงจำมากมาย อยู่สนามโรงเรียนเราก็เห็นว่าช่วงกิจกรรมตอนเช้าที่นักเรียนต้องมาเข้าแถวด้วยกันตั้งแต่ม.1 ถึง ม.6 รวมไปถึงงานกีฬาสี หรืองานอะไรหลายๆ อย่างที่จัดขึ้นที่สนาม หรือโรงอาหารที่พักเที่ยงก็ไปกินข้าวกัน ห้องสมุดที่เอาไว้ไปนั่งอ่านหนังสือสอบกัน รวมไปถึงระเบียงหน้าห้องเรียน ตึกที่เราเรียนจะเป็นตึก English Program คือเป็นตึกแบบไม่ใหญ่มาก เป็นตึกเดียว มีแค่ประมาณ 3 - 4 ชั้น เราก็อยู่ตึกนั้นตลอดเวลา แทบไม่ได้ย้ายไปตึกไหนเลย ยกเว้นบางวิชา เช่น นาฎศิลป์ ดนตรีไทย นานๆ ถึงจะย้ายไปเรียนตึกของภาคปกติเค้าเรียนกันค่ะ เราก็จะเห็นความทรงจำตอนเราเรียนเราเรียนฟิสิกส์ห้องนี้นะ เรียนเคมีห้องนี้นะ เราเห็นแล้วเราก็คิดถึง มันเลยกลายเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเรา
ถามว่าได้ไปร่วมงานอำลาไหม แทบไม่ค่อยได้ไปเลยค่ะ คือเราก็ติดงาน เราก็รู้สึกใจหายเหมือนกันนะ เราก็จะเห็นข่าวตามเฟซบุ๊ก เพื่อนก็จะแชร์รูปกัน ใส่ชุดนักเรียนไปถ่ายรูปกัน คือเราเห็นเราก็คิดถึง แต่เราก็ยังมีหน้าที่ที่เราต้องทำอยู่
อยากขอบคุณโรงเรียน ต้องขอบคุณอาจารย์ทุกคนมากๆ เลย อาจารย์ทุกคนที่คอยช่วยเหลือมาตลอด 6 ปี ให้เราผ่านจุดที่เราแย่ที่สุดมาได้ จุดที่เราต้องเหนื่อยกับการเรียนมากๆ เพราะเราเรียนไปด้วย เราทำงานไปด้วย เราก็ไม่รู้จะตอบแทนอาจารย์ทุกคนยังไงเลยค่ะ เพราะอาจารย์ทุกคนช่วยเราเยอะมาก รวมถึงเพื่อนๆ ทุกคน ขอบคุณโรงเรียนโยธินบูรณะที่ทำให้เด็กผู้หญิงคนนึงได้เรียนรู้ ได้สอนอะไรหลายๆ อย่างให้ลูกศิษย์ โรงเรียนโยธินบูรณะได้สร้างศิษย์หลายๆ คนมา เกลาเด็กหลายๆ คนมาให้ออกมาเป็นคนดีของสังคม ให้ออกมาเป็นคนที่มีความสามารถในสังคม คนที่แข็งแกร่งได้ด้วยตัวเอง โรงเรียนมีพระคุณต่อเด็กทุกๆ คนมาก ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคน คนที่เรียนอยู่ด้วยกัน คนที่เติบโตมาด้วยกัน คนที่เป็นมิตรภาพที่ดีให้กับเรา คนที่สร้างความทรงจำที่ดีให้กับเราตั้งแต่ม.1 จนถึง ม.6 รู้สึกดีมากๆ แล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้เป็นลูกศิษย์โรงเรียนโยธินบูรณะค่ะ