“จั๊กจั่น” เข้าใจหัวอกเจ้าของ! พร้อมส่งน้องหมาบริจาคเลือดให้ “ลอยด์”

“จั๊กจั่น” เข้าใจหัวอกเจ้าของ! พร้อมส่งน้องหมาบริจาคเลือดให้ “ลอยด์”  

    เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดเศร้า เมื่อสุนัข “ลอยด์” ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีทำร้ายร่างกายด้วยการฟันขาจนขาดในขณะที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน ส่งผลให้สุนัขได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งต้องขอรับบริจาคเลือดจากสุนัขตัวอื่นๆ เพื่อใช้ในการรักษา และหนึ่งในผู้ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือก็คือนักแสดงสาว “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ที่เธอได้พาสุนัขของเธอเดินทางไปบริจาคเลือด

    โดยล่าสุดทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ สาวจั๊กจั่นก็เล่าให้ฟังว่า

    จั่นเห็นจากในโซเชียลที่เค้าแชร์กันมาในเฟซบุ๊ก ในอินสตาแกรม ที่มีคนโพสต์ต่อๆ กันมา แล้วตอนที่รู้ข่าวคือตอนนั้นก็มีคนพาน้องหมาไปสิบกว่าตัวแล้ว แต่ว่าพอแมตช์เลือดแล้วมันไม่เข้ากับลอยด์เลย ตอนนั้นคือน้องหมาเค้าไตจะวายแล้ว ต้องการเลือดด่วนมาก เพราะว่าเวลาเราบริจาคเลือด หมาไปสิบตัวไม่ใช่ว่าได้ทุกตัวนะคะ บางตัวเห็นสุขภาพดีแข็งแรง แต่อาจจะเป็นโรคเลือดจาง หรือค่าไตสูง แต่ละตัวอาจจะมีโรคแล้วเจ้าของเค้าไม่รู้ ก็ให้ไม่ได้ แล้วตอนนั้นสิบกว่าตัวที่เค้าไปให้เลือดลอยด์ยังไม่ได้เลย แล้วถ้าหมาของเราแข็งแรงดี แล้วเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะช่วยได้ ก็อยากจะช่วย ดีกว่าที่จะไม่มีความหวังเลย พอเสร็จงานพอดีก็พาน้องไป

    เราไม่ได้เข้าไปดูลอยด์ในห้องนะคะ เพราะว่าเมื่อวานน้องหมาที่มีคนพาไปเพิ่มเยอะหลายตัว แต่ก็อย่างที่บอกคือหมาเราปกติอยู่บ้านไม่ค่อยได้เจอตัวอื่น พอเจอตัวอื่นก็เลยแตกตื่น ก็เลยเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมน้องในห้องฉุกเฉิน แต่ก็ได้เห็นรูปแผลที่โดนฟันก็น่าสงสาร ไม่รู้จะพูดยังไง ก็เลยรู้สึกว่าปกติน้องหมาทั่วๆ ไปมันก็จะกลัวคนอยู่แล้ว และหมาพันธุ์นี้ชิบะมันไม่ใช่เป็นหมาที่ดุร้าย รุนแรง ที่จะมาทำร้ายคนเลย ก็ไม่เข้าใจว่าคนที่ทำร้ายเค้าทำได้ยังไง ตอนรู้ข่าวรู้สึกไม่โอเคอยู่แล้ว เวลาที่เจอข่าวคนที่ทำร้ายหมา หรือคนฆ่าหมา หรือว่าแมว จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ที่จิตใจปกติเค้าจะทำกัน

    แล้วที่เราพาน้องหมาไปก็โอเคค่ะ ตอนนี้ “ประสพโชค” รอโรงพยาบาลโทรมาตาม คือถ้าเค้าต้องการเลือดเค้าจะโทรมาตามอีกทีค่ะ เพราะเมื่อวานได้เลือดจากน้อง “เฉาก๊วย” ไปแล้ว พอรับเลือดจากเฉาก๊วยเข้าไปแล้ว และถ้าต้องการเลือดเพิ่ม ก็ต้องเป็นผลเลือดใหม่ เหมือนกับว่าพอลอยด์รับเลือดเฉาก๊วยไปแล้ว ค่าเลือดเก่าเค้าก็จะเปลี่ยน เค้าก็จะเอาประวัติเลือดของเราเก็บไว้ แล้วถ้าต่อไปถ้าเค้าต้องการ เค้าก็จะมาดูค่าเลือด ถ้ามันแมตช์ได้ เค้าก็จะโทรมาตาม เดี๋ยวพอร่างกายลอยด์รับเลือดเฉาก๊วยไปแล้ว ค่าเลือดก็จะเปลี่ยนเป็นอีกค่าเลือดนึง เมื่อวานที่ไปกันหลายตัว เค้าก็เก็บประวัติเลือดไว้ ถ้าตัวไหนได้เค้าก็จะโทรมาตามค่ะ

     เราไม่กังวลว่าจะติดงาน เราพร้อมค่ะ ที่บ้านมีคนรถที่บ้านพาไปได้ ยินดีมาก เราก็รู้สึกว่าน้องแมวเราเคยป่วย เราก็รู้สึกว่าต่อให้เรามีเงินมากแค่ไหน เลือดหมา เลือดแมวในเวลาขอบริจาคมันยากมาก แล้วเรารักเค้าเหมือนคนในครอบครัว รักเหมือนลูก ถ้าเกิดว่าหมาของเราจะเป็นอีกโอกาสนึงที่จะช่วยให้เค้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เราก็ยินดีค่ะ เพราะมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก เราเอาหมาเราไป การให้เลือดมันก็ไม่ได้ทรมานอะไร เหมือนเราไปบริจาคเลือดแค่นั้นเอง แล้วตัวน้องหมาของเราเองก็จะได้บุญด้วย ชาติหน้าก็จะได้มีโอกาสสั่งสมบุญ ได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะเค้าก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไร เหมือนคนไปบริจาคเลือด แล้วเค้าก็แข็งแรง สุขภาพดี ต้องเป็นหมาใหญ่ค่ะ ต้องน้ำหนัก 20 กิโลขึ้นไป อายุไม่เกิน 7 ปี หมาเล็กก็จะให้เลือดไม่ได้ เราก็อยากให้หมาเราได้ทำบุญด้วย ได้ช่วยน้องหมาอื่นๆ ต่อไป คนที่มีหมาเจ็บ หมาป่วย คนรักหมา รักสัตว์จะเข้าใจเวลาที่ลูกเราป่วยแล้วต้องการเลือดมันเป็นยังไง ก็รู้สึกว่าถ้าลูกเราช่วยได้ก็อยากจะช่วย

      ถ้าใครมีโอกาสแล้วมันไม่ได้ลำบาก ไม่ใช่แค่เฉพาะเคสของลอยด์ ก็อยากให้ทุกคนช่วย ถ้ามีโอกาสแล้วมันไม่ได้หนักหนาอะไรก็อยากให้ไปช่วย อนาคตในวันข้างหน้าคุณอาจจะเป็นคนร้องขอก็ได้ อย่างการที่เราพาน้องหมาน้องแมวไป มันก็ไม่ได้เจ็บปวดทุกข์ทรมานอะไร เราไม่ได้เอาเค้าไปวางยา หรือทำอะไร มันก็ได้ช่วยให้น้องหมาอีกตัวนึงได้มีชีวิตไปต่อ มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ

    ซึ่งเมื่อทาง “ดาราเดลี่” ได้มีการเช็กความคืบหน้า อัพเดทล่าสุดจากทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่า ตอนนี้ทางโรงพยาบาลสัตว์ประกาศงดรับบริจาคเลือดเพื่อลอยด์ชั่วคราว แต่ยังบริจาคให้สุนัขตัวอื่นๆ ได้