แฟนเฮ! "น้องออก้า" ออกจากรพ.แล้ว "แม่จูน" เตือน "ไมโคพลาสมา" ระบาดติดได้ทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่
ทำเอาแฟนคลับ "น้องออก้า นครา ศิลาชัย" ลูกชายสุดฮาของดาราหนุ่ม "เปิ้ล นาคร" และสาว "จูน กษมา" ถึงกับเศร้าไปตามๆ กัน เมื่อทราบข่าวว่า "น้องออก้า" ป่วยหนักเป็นไมโคพลาสมา จนต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานเกือบสัปดาห์ แต่ล่าสุดในวันนี้ (1 มี.ค.) แฟนคลับก็คงได้เฮกันแล้ว เพราะน้องออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย และเราได้มีโอกาสพูดคุยกับทาง "คุณแม่จูน" ถึงอาการของน้อง โดยเธอเล่าว่า
"เดิมทีเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วน้องเขาแค่ไอ ก็เหมือนเด็กเป็นหวัดธรรมดา แต่เราก็สังเกตว่าทำไมครั้งนี้ไอนาน แล้วก็ไม่หายสักที พอพักหลังเริ่มมีไข้ 2 วัน เห็นท่าทางไม่ดีเลยพาไปหาหมอ หมอก็เลยเช็กเต็มสูบ คล้ายๆ ตรวจไข้หวัดใหญ่ค่ะแต่เป็นการพันด้วยสำลีแล้วก็แยงเข้าไปในรูจมูก แล้วก็รอตรวจผลประมาณชั่วโมงนึง หมอก็บอกว่าน้องเป็นไมโคพลาสมา จริงๆ โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่แต่จะเป็นกันช่วงหน้าฝน แต่ตอนนี้อากาศแปรปรวน เด็กก็เจอเชื้อโรคเยอะ เลยเริ่มเป็นโรคนี้กันแล้วค่ะ อาการต้องสังเกตดีๆ ค่ะ อย่างเราไม่รู้จักโรคนี้มาก่อนเลย นึกว่าลูกไอปกติ แต่เชื้อนี้ฝังตัวอยู่ 2-3 อาทิตย์กว่าจะแสดงผลออกมา กว่าจะฟักไข้ออกมา ถ้ารู้ว่าลูกป่วย แบบไอแห้งๆ แล้วก็มีไข้ ไปหาหมอได้เลยเพราะตอนนี้เริ่มระบาด ถามคุณหมอแล้วเหมือนมาจากแหล่งชุมชน ตามโรงเรียน ซึ่งน้องยังเด็กก็จะรับเชื้อง่ายอยู่แล้ว และโรคนี้ติดต่อไม่ใช่แค่เด็ก ผู้ใหญ่ก็เป็นได้ ซึ่งตอนที่ออร์ก้าเริ่มไอเราก็แยกเขาอยู่แล้ว เรารู้เร็วก็เลยหาหมอเร็ว ออกัสและออกู๊ดเลยไม่ติดโรคนี้
ออร์ก้านอนโรงพยาบาล 6 วันค่ะ ที่ต้องอยู่เพราะน้องเป็นไข้ 38-39 ทุกวัน เป็นแล้วกินยา แล้วก็ไข้ขึ้น แบบนี้ 5-6 ครั้งต่อวัน เขาก็ซึมตอนเป็นไข้ พอไข้ลงกินข้าวได้ก็จะเล่นได้อยู่พักนึง แล้วก็จะสลับๆ กัน เขาก็มีบ่น เหมือนเบื่อ ไม่มีอะไรทำ อยากกลับบ้าน อยากไปหาออกู๊ด ออกัส ก็อธิบายให้เขาฟัง เราก็สรรหาของเล่นไปให้ลูกเล่นที่โรงพยาบาลค่ะ วันที่ได้ออกดีใจมาก บอกเขาตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะได้กลับบ้านแล้ว ให้เขาเตรียมตัว พอเห็นหน้าตอนเช้าก็ตื่นเต้นใหญ่เลย จริงๆ ไม่หาย 100% แต่อาการสามารถมาดูต่อเองได้ที่บ้านแล้ว แค่กินยาตามอาการ แล้วจะแยกน้องอยู่ ไม่ค่อยมีไข้แล้วแต่ยังไออยู่
ส่วนเรื่องเรียนก็ลายาวเลยค่ะ ยังไม่ปิดเทอม ก็บอกโรงเรียนแล้วให้หายก่อนดีกว่า กลัวหายไม่ดีไปโรงเรียนแล้วติดอีก เพื่อนติดเชื้อออร์ก้าอีก ก็ให้หายสนิทๆ เลย บอกครูว่าน้องป่วยเป็นโรคนี้ ที่โรงเรียนก็ตกใจนะ โรงเรียนมีการประชุมผู้ปกครองเกี่ยวกับโรคนี้
ท้ายสุดก็อยากฝากว่า โรคนี้ไม่ต้องกลัว ไม่ได้ร้ายแรงมากขนาดนั้น แต่เราจะต้องป้องกันตั้งแต่ที่บ้าน ป้องกันลูกเราเลย อย่าให้ไปติดข้างนอก อย่างข้างนอกเราคุมไม่ได้อยู่แล้ว ช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งพาเด็กๆ เบบี๋เดินตามห้างฯ หรือว่าสถานที่เล่น พวกบ้านบอล อย่าเพิ่งดีกว่า เพราะว่าเชื้อนี้มันอย่างที่บอกว่าติดแล้วเป็นเลย มันฟักไข่อยู่เป็น 2-3 อาทิตย์ เราจะไม่รู้ว่าลูกได้รับเชื้อหรือยัง ให้อยู่บ้านอากาศปลอดโปร่งดีกว่าค่ะ"
