“พระเจ้าเสือถูกลอบปลงพระชนม์” แอคชั่นสมจริง “ผู้พันเบิร์ด-เต้ย" สุดทรหด! บู๊สนั่นกลางสายฝน
ภาพยนตร์ “พันท้ายนรสิงห์” โดย ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าตรีเฉลิม ยุคล เราจะได้เห็น 2 นักแสดงหนุ่มสุดฮอตต้องหันหลังชนกันเข้าฉากบู๊ สู้กับนักแสดงแอคชั่นสตันท์อีกนับสิบที่ล้วนแล้วเป็นตัวจริงในเรื่อง “คิวบู๊” เพราะเป็นฉาก และเหตุการณ์สำคัญในภาพยนตร์ที่จะส่งผลต่อการกระชับมิตรและความสัมพันธ์ต่อกันของ “พระเจ้าเสือ” (ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี) และ “พันท้ายนรสิงห์” (เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์) ว่าเหตุไฉน พระเจ้าเสือถึงรักข้าราชแผ่นดินอย่างไอ้สินนัก และไอ้สินเองก็พร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้องกษัตริย์อันเป็นที่รักด้วยใจภักดี
“สำหรับฉากที่เป็นทั้งซีนสำคัญในภาพยนตร์ที่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครสองคนคือพระเจ้าเสือ และสินเป็นฉากแอคชั่นที่ทั้งคู่จะต้องต่อสู้กับผู้ร้ายร่วมกัน เป็นซีนที่สินได้ตัดสินใจเข้าไปช่วยทิดเดื่อ ซึ่งก็คือพระเจ้าเสือที่กำลังจะโดนลอบปลงพระชนม์ ซึ่งเบื้องหลังของการถ่ายทำในฉากนี้ตอนถ่ายมีฝนตกด้วย ต้องเลอะโคลน ถ่ายกันแบบทั้งคืนเลยก็ว่าได้ เริ่มถ่ายตั้งแต่ทุ่มสองทุ่มเสร็จประมาณตีสี่ แล้วก็มีสตั้นท์อีกเป็นสิบเลยครับ จริงๆ ฉากแอคชั่นที่เราจะได้ชมในภาพยนตร์ไม่ได้มีแค่ซีนนี้เท่านั้น และในระหว่างการถ่ายทำก็มีการบาดเจ็บกันตลอด เพราะว่าเราไม่ได้ใส่รองเท้าเลยครับ เราจะโดนอะไรบาดเท้าทุกสัปดาห์ของการถ่าย ซึ่งครั้งหนึ่งผมเคยโดนบาดเพราะถ่ายทำในน้ำ เราก็ต้องแปะเทปแล้วก็ต้องลงไปถ่ายใหม่อีก พอถ่ายเสร็จเราถึงได้ไปโรงพยาบาล เป็นอะไรที่หนักมากเลยในการบู๊แต่ละครั้ง ถึงซ้อมกับสตั้นท์มาก่อนแล้วก็ตาม”
หนุ่มเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์เล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังของการถ่ายทำท่ามกลางอุปสรรคที่เกิดขึ้น แต่ด้วยความสดใหม่ และทุ่มเทสุดชีวิตกับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกถึงเหนื่อยแค่ไหนหนุ่มเต้ยก็ยอม เพื่อให้ได้ภาพและอารมณ์ของภาพยนตร์ออกมาสมใจผู้กำกับอย่าง ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลที่ทรงให้ความสำคัญกับฉากนี้มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการให้แอคชั่นของฉากนี้ออกมาสมจริงที่สุด
“ครั้นเมื่อพระเจ้าเสือเองที่ปลอมตัวมายังวิเศษชัยชาญ เกิดความรู้สึกอดคิดถึงนวลไม่ได้ ก็เลยพยายามที่จะไปหานวลในระหว่างที่เดินผ่านป่าช้าไป ปรากฎว่ามีผู้ร้ายจะมาลอบปลงพระชนม์ท่าน แต่ทว่าไอ้สินได้เข้ามาช่วยซะก่อน ในท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เลยได้กลายเป็นเพื่อนกัน เป็นสหายศึกด้วยซึ่งเป็นฉากต่อสู้ที่เราจะต้องถ่ายทำในเวลากลางคืน การทำงานในฉากนี้ก็ค่อนข้างลำบากครับ ตอนถ่ายทำฝนก็ตกตลอด เราถ่ายตอนฝนตก ในหนังเราอาจจะเห็นเพียงแค่ 2-3 นาที แต่ในตอนถ่ายทำเรียกได้ว่าทั้งคืน เปียกกันโชก คือหนังเรื่องนี้เราไม่มีการใช้คิวบู๊แบบที่เราเห็นในหนังทั่วไปนะครับ ไม่เหมือนกัน เราบู๊กันจริงๆ ฟันกันแบบธรรมดาไม่ได้มีลูกเล่นมากมายนัก แต่ว่าต่อยกันจริงๆ จะๆ เลย ไม่ใช่ต่อยเป็นคิวเหมือนกับหนังทั่วไป เพราะอยากเน้นไปที่ความสมจริง”
เตรียมพบกับอีกหนึ่งฉากแอคชั่นที่เข้มข้นของ ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ และหนุ่มเต้ย พงศกรที่โคจรมาปะทะบทบาทกันทั้งบู๊แอคชั่น และกระชากอารมณ์ชนิดสุดตัว
30 ธันวาคมนี้ พิสูจน์ด้วยตาคุณเองกับ “พันท้ายนรสิงห์" โปรแกรมสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทุกโรงภาพยนตร์