วิวาห์หวาน! "ชาม-เจมส์" เล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่แอบชอบกันมาตั้งแต่เด็ก
สละโสดไปอีกหนึ่งราย สำหรับนางงามสาวคนสวย "ชาม ไอยวริญท์" ที่เข้าพิธีมงคลสมรสกับแฟนหนุ่ม "เจมส์ โธมัส" ซึ่งงานแต่งของทั้งคู่จัดขึ้นสองวันด้วยกัน ในวันแรก (6 ธ.ค.2558) จัดที่โรงเรียนไฮสคูล ISB เป็นสถานที่ทั้งคู่รู้จักกันเป็นครั้งแรก จึงเลือกสถานที่นี้ในการจัดพิธีสมรส แลกแหวนหมั้นต่อหน้าแขกผู้ใหญ่
สำหรับวันนี้ (7 ธ.ค.2558) สาว "ชาม" กับหนุ่ม "เจมส์" ได้จัดพิธีฉลองมงคลสมรส เพื่อขอบคุณแขกผู้ใหญ่และแขกคนสนิท ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ซึ่งครั้งนี้คู่บ่าวสาวได้เล่าความรู้สึกให้ฟัง
"ชาม" พูดว่า "ความรู้สึกจริงๆ มันมีหลายความรู้สึกมาก ตอนแรกเหนื่อยสุดๆ พอมาถึงตรงนี้รู้ว่าทุกคนรัก "ชาม" มากแค่ไหน มีพี่ๆ เพื่อนๆ มาช่วยกัน ทำให้มีความสุขมากๆ หายเหนื่อย
ตอนเจ้าบ่าวแห่ขันหมาก ตื่นเต้นมากไม่รู้ว่าจะเสร็จทุกอย่างไหม พอเห็นแล้วอบอุ่นมาก ได้เห็นบรรยากาศที่เราโตมา ทำให้ลืมความเครียด ความกังวลทั้งหมด เมื่อวานได้เห็นเขาแห่ขันหมากมา ที่แห่คือที่เราเติบโตด้วยกันมา ตอนเรียนอยู่ เวลาเห็นเขาเดินมา รู้สึกว่าเป็นอะไรที่อบอุ่นมาก ความเหนื่อยที่มีก่อนหน้านี้หายไปเลย
ความซึ้งที่ประตูพี่ "แคท" แฮปปี้มาก ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ "แคท" จะเล่นแบบนั้น เอาซึ้งเลย "เจมส์" ไม่ได้เตี๊ยมขอพูด ขอพูดจากใจเลยสื่อถึงเราได้ไม่เฟค"
"เจมส์" พูดต่อว่า "ตอนที่ต้องผ่านประตูเงินประตูทอง ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร ให้ทำอะไรบ้าง ต้องเจอคำถาม "ชาม" ชอบอะไร รู้แต่มีลืมบ้าง ประตูแรกตื่นเต้นที่สุด ทำเต็มที่ ประตูสุดท้ายมีร้องเพลงด้วย เป็นเพลงของเรา"
"ชาม" เล่าอีกว่า "เรารู้จักตอนอายุ 11 ค่ะ เขาดังในโรงเรียน เป็นนักกีฬา ทุกคนรู้จักเขา "ชาม" ไม่ค่อยได้คุย เพราะเวลาเรียนไม่ค่อยตรงกัน จนมาเจอกันในคลาสเต้น ได้คุย รู้จักกัน แต่ไม่ได้สนิทมากมาย หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้เจอกันสิบปี คลาดกันตลอดเวลา เวลาเขามาเมืองไทยแต่ละครั้งก็จะนัดเจอ แต่ "ชาม" ติดถ่ายละครตลอด จนวันหนึ่งว่างพร้อมกัน เขาทักเฟซ "ชาม" มา คุยไปมาก็คลิกกัน เริ่มคุยไม่ใช่ความเป็นเพื่อน เพียงสองวัน "ชาม" ก็รู้แล้วว่าต้องแต่งงานกับคนนี้
ภาพตอนเด็กเขาเป็นคนซ่าๆ ลุยๆ แต่รู้จักจริงๆ ไม่ใช่ ทุกอย่างที่เราต้องการอยู่ในตัวเขาหมด
ตอนขอแต่งงาน เขาเคยพูดไว้แล้วว่า ไปไหนไม่ได้แล้ว เจอคนที่ใช่แล้ว "ชาม" ไม่คิดว่าเขาจะขอ "ชาม" เร็วอย่างนี้ เขาขอในวันเกิดที่จัดให้ "ชาม" ตกใจมาก แต่ก็ดีใจมาก
ส่วนเรื่องสินสอดร้อยล้าน ไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน เราคุยกันไว้แล้ว บ้าน "ชาม" ไม่เรียกร้องอะไร แต่ ณ จากวินาทีนี้ไป เขาทำได้เท่าไหร่ให้ "ชาม" หมด เขาเป็นคนบอกเอง
เขาแข็งแกร่ง สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง "ชาม" มั่นใจว่าชามฝากชีวิตเขาได้ ต่อจากนี้ เขาพยายามที่จะเรียนและหางานที่โยงเข้าเมืองไทยได้ แล้วเขาจะย้ายมาที่ไทยแล้ว
ส่วนเรื่องเรือนหอ "ชาม" เป็นลูกคนเดียว และหลานคนเดียว ที่บ้านมีกฎว่า เจ้าบ่าวต้องย้ายมาบ้าน "ชาม" เขาก็โอเค เรื่องทายาทต้องรอดูก่อน แต่เขาเองพร้อมทุกเมื่อ "ชาม" ขอถ่ายละครเสร็จก่อนเรื่องหนึ่ง "ชาม" อยากมีลูก2คน อยากได้แฝด
ทั้งสองได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกัน "ชาม" บอกว่า "เมื่อวานได้ให้กันไว้ว่า จะรักคนนี้ตลอดไป" ด้าน "เจมส์" บอกต่ออีกว่า "สัญญาว่ารัก และจะดูแล "ชาม" ตลอดไป จะไม่ทำให้ร้องไห้เลย จะไม่อยู่ด้วยกันแค่ชาตินี้ แต่จะอยู่ด้วยกันทุกๆ ชาติไป"
"ชาม" พูดอีกว่า "ด้านงานในวงการ "เจมส์" ทราบว่าเป็นสิ่งที่"ชาม" รักอยู่แล้ว เขาไม่ห้าม แต่ต่อจากนี้ถ้ามีงานอะไรเราต้องปรึกษากัน เรื่องเซ็กซี่ "ชาม" ทราบอยู่แล้วว่าต้องทำยังไง
ก่อนหน้านี้อยู่คนละประเทศ เราต้องใช้ความรัก และความอดทน แต่โชคดีที่มีเครื่องมือทางแอพต่างๆ ที่ทำให้ความรักยืดยาวได้ ถ้าผ่านเรื่องนี้ได้ เรื่องอื่นก็ผ่านได้ "เจมส์" พูดเสริมว่า "มันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่ทำในชีวิต แต่สิ่งที่มีกำลังใจมาก คือ "ชาม" ตอบคำถามในชีวิตได้"
ส่วนเรื่องฮันนีมูน "ชาม" บอกว่า "ยังไม่แพลน แต่ "เจมส์" ชอบทะเล คงไปที่ไหนสักที่ที่เกี่ยวกับทะเล จริงๆ ที่อยากจะพูดอีกอย่างหนึ่งคือ "ชาม" เคยหมดความศรัทธาในความรักไปครั้งหนึ่ง แต่ "เจมส์" เป็นคนที่ "ชาม" แอบชอบตั้งแต่เด็ก เราไม่กล้าพูด แต่สิบปีเขามาสารภาพว่าชอบ "ชาม" แต่เด็กเหมือนกัน เขาไม่คิดว่าคนไทยกับฝรั่งจะคบกันได้ พอมาเจอหลังจากนี้เลยคลิกกันเร็ว
"เจมส์" พูดทิ้งท้ายว่า "ชามเป็นเหมือนความฝันตั้งแต่เด็ก ไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เหมือนตอนนี้ยังอยู่ในฝันอยู่เลย"
