"แก้วใส-คริสตัล" นางเอกป๋าดันของ "ซี-ศิวัฒน์"

"แก้วใส-คริสตัล" นางเอกป๋าดันของ "ซี-ศิวัฒน์"

1

กลายเป็นนางเอกน้องใหม่ที่แจ้งเกิดกับเรตติ้งละครเย็นของช่อง 7 สี แบบถล่มทลาย จากละครเรื่อง “ลูกผู้ชายหัวใจเข้ม” กับละครเรื่องแรก และเป็นนางเอกครั้งแรกของ “แก้วใส-คริสตัล” หรือ “แก้วใส-กัญจน์ณิชา กิตติพรภาณุวงศ์” ที่ละคร “ลูกผู้ชายหัวใจเข้ม” ลาจอไปอย่างสวยสดงดงาม และต่อด้วยละครเรื่อง “คีตโลกา” ในบท “ขวัญอนงค์” ประกบกับนักแสดงอย่าง “นิว-วงศกร” และ “กรีน-อัษฎาพร” ค่ายมีเดีย สตูดิโอ ที่กําลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้

 

 

แรกเข้าวงการบันเทิง...
“คือจริงๆ แล้วก็เล่นละคร ถ่ายโฆษณามาตั้งแต่เด็กๆ พอมาช่วงที่กําลังโตก็เลยหยุดเพื่อที่จะไปเรียน ไม่ได้ทํางานในวงการ แล้วก็มีอยู่ครั้งนึงที่ทางช่องโทร.ให้มาเล่นละครรับเชิญในบทแฟนเก่าของพี่ซี-ศิวัฒน์ ในละครเรื่องคุณชายเลี้ยงหมูคุณหนูเลี้ยงแกะ ก็กลับมาเล่นละครประมาณไม่กี่ฉาก แล้วพี่ซีเอ็นดูก็เลยแนะนําพี่เก๋ก็เลยได้เข้ามาเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 7 ก็เรียกง่ายๆ ว่าพี่ซีเป็นป๋าดัน คือเขาบอกว่าจะแนะนําผู้จัดการ 
ให้ เป็นผู้จัดการซีเองนะให้มาดูแล พี่เก๋ (พรทิพย์ภา สอนจันทร์ ผจก.) ก็พามาแคสท์ที่ช่อง 7 ได้เซ็นสัญญา แล้วก็ได้เล่นละครเลย ได้เป็นนางเอกเลย ก็ดีใจมาก ขอบคุณทั้ง
พี่ซีและพี่เก๋มากที่ช่วยผลักดันเรา”

ความรู้สึกที่รู้ว่าได้เล่นเป็นนางเอก...
“ตื่นเต้นค่ะ แล้วก็เป็นเรื่องแรกด้วย ทางช่องก็ให้โอกาสได้เป็นนางเอกเลย ดีใจมากแล้วก็ขอบคุณช่อง 7 มากให้โอกาสได้เล่นบทดีๆ ด้วย ตอนนี้ทางช่องให้เรียนแอ็คติ้ง กับเพื่อนๆ นักแสดงใหม่ๆ ก็สนุกดีค่ะ แล้วเราก็ได้พัฒนาตัวเองด้วย” 

ได้ร่วมงานกับนักแสดงมากฝีมือ ทั้ง ธันญ์ (ธนากร) ทั้งอ๊อฟ (ชนะพล)...
“พี่ธันญ์กับพี่อ๊อฟน่ารักมาก พี่ธันญ์เขาเป็นคนที่มีพลังงานสูงมาก เล่นบทบู๊ทั้งวันเขาก็ยังดูไม่เหนื่อย ตอนแรกๆ ยังไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ แต่ละครเรื่องนี้ถ่ายนานเป็นปี
ก็เลยสนิทกัน พอสนิทกันก็โดนกัดเละเลย (หัวเราะ) แต่จริงๆ แล้วพี่เขาเป็นคนน่ารัก เป็นสุภาพบุรุษ ตอนแรกๆ เราก็มีเกร็งบ้าง แต่พอสนิทกันแล้วก็เฉยๆ แล้วนะ เหมือนเล่นกับคุณอา คุณลุง” (หัวเราะ) 

มีบทดราม่าค่อนข้างเยอะ...
“บทฟ้าใส ร้องไห้เยอะเหมือนกัน ก็ท้าทายดีค่ะ มีอยู่วันหนึ่งร้องไห้ 10 กว่าฉาก คือร้องตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นเลย คือวันนั้นนอยด์มาก เอ๋อ..เลย เพราะร้องไห้เยอะมาก ร้องจนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว แต่ก็เป็นบทที่ท้าทายดีค่ะ”

มีวิธีเรียกน้ำตายังไง...
“ก็คือคิดเรื่องที่ทําให้เราเสียใจ บางทีก็อินตามบท คือถ้ามีไดอะล็อคมาแล้วร้องไห้ก็ยังได้ แต่บางฉากเริ่มมาก็ร้องไห้เลย เราก็ต้องพยายามคิดถึงเรื่องที่ทําให้เรารู้สึก แต่ก็มีบางครั้งคิดแล้วแต่มันก็ยังร้องไม่ออก ก็จะบิ๊วโดยการโมโหตัวเองจนร้องไห้ออกมา 
คือโกรธตัวเองจนร้องไห้อะไรอย่างนี้ค่ะ”

กระแสตอบรับของละคร “ลูกผู้ชายหัวใจเข้ม”...
“ดีค่ะ แล้วก็ดีใจค่ะที่มีคนดูและมีคนติดตาม เมื่อวันก่อนไปเดินที่เซ็นทรัลแอมบาสซี่ แล้วก็มีน้องตัวเล็กๆ คนนึงเขาร้องเพลง ลูกผู้ชายๆ คือเขาเดินมาแล้ว
คุณแม่จูงมืออยู่ แต่น้องเขาร้องเพลงนี้ขึ้นมาเราได้ยินก็ดีใจแล้ว คือเพลงมันติดด้วยค่ะ แล้วก็มีคนจําหน้าได้บ้างแล้ว เวลาไปไหนคนก็จะเรียกว่า ‘ฟ้าใสๆ’ เราก็รู้สึกดีที่กระแสตอบรับดี แล้วเรตติ้งก็ดี ก็ดีใจเพราะว่าเราเล่นเรื่องนี้เรื่องแรกด้วย แล้วการตอบรับดี
ก็หายเหนื่อย แล้วทุกคนก็ทุ่มเทมาก เพราะว่ามันถ่ายทํานานเป็นปี เราก็ดีใจที่ผู้ชมชอบ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้คาดหวังเลย ก็แค่คิดว่าคงมีคนดูแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับดีอย่างนี้ ก็ดีใจค่ะ”

เริ่มมีแฟนคลับ...
“ดีใจค่ะ ปลื้ม ที่มีคนมาชอบเรา ตอนแรกก็ไม่ได้คิด คือคิดว่าคงต้องเล่นไปสัก 2-3 เรื่องถึงจะมีคนจําเราได้ แต่แค่เรื่องแรกก็มีคนรู้จักเราก็ดีใจมาก เวลาเขาให้ของ หรือมาหาเรานี่ก็จะดีใจมาก ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าเล่นละครเรื่องแรกก็ได้เล่นละครเย็นของช่อง 7 แล้วละครเย็นของช่อง 7 เป็นละครที่เรตติ้งดีมากๆ เราก็ดีใจที่ได้โอกาส แล้วละครเราก็เรตติ้งดีจริงๆ พี่ธันญ์บอกหายเหนื่อยเลย พี่วุฒิที่เป็นผู้กํากับฯ และทุกคน
ก็หายเหนื่อย เพราะเรื่องนี้มันแอ็คชั่นและใช้เวลาเยอะด้วย”    

ผลงานที่ตามมา...
“ตอนนี้มีละครเรื่อง คีตโลกา เล่นกับพี่นิว-วงศกร, พี่กรีน และได้เล่นกับอาดาว (ดวงดาว จารุจินดา) ด้วย อาดาวเล่นเป็นคุณแม่ อยู่ในกองอาดาวก็สอนหลายอย่าง 
ทั้งวิธีการพูด น้ำเสียง อาดาวจะสอนว่าต้องพูดอย่างนี้นะ ต้องมีจังหวะ อาดาวสอนเยอะมาก ก็ขอบคุณอาดาวมากๆ ที่ช่วยสอนให้เราพัฒนาขึ้น แล้วก็ดีใจค่ะที่เรามีครูที่ดีมาก จริงๆ ก็ยังมีอีกเยอะที่เราจะต้องเรียนรู้”

บทบาทในเรื่อง “คีตโลกา”...
“รับบท ขวัญอนงค์ เป็นน้องของพระเอก ภัควัฒน์ ซึ่งเป็นตํารวจ แล้วเรารักและห่วงพี่ชายมาก บทบาทในเรื่องนี้ก็ไม่ได้ดราม่าอะไรมาก แค่ไปตามๆ ห่วงพี่ชาย ไม่อยาก 
ให้นางเอกมายุ่งกับพี่ แต่ไม่ได้ถึงขั้นร้ายนะ แค่่หวงพี่ชายมากแค่นั้นเอง”

บทบาทที่อยากเล่น...
“อยากเล่นบทคนไม่สมประกอบ หรือเสียสติ หรือเป็นโรคจิตอะไรอย่างนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร มันน่าจะท้าทายดี แล้วก็ไม่รู้ว่าคนแบบนี้เขาคิดอะไรอยู่ เขาทําอะไรออกมายังไง ก็เลยอยากลองเล่นดูว่าบทแบบนี้ บทคนสติไม่สมประกอบ หรือเป็นคนโรคจิตนี่มันเป็นยังไง ก็น่าจะท้าทายดี เพราะมันจะต้องใช้จินตนาการเยอะก็เลยอยากลองดูค่ะ”

เป็นเด็กกิจกรรมตัวยงของมหาวิทยาลัย...
“เป็นรองดาวมหา’ลัย ปี 55 ตอนที่เข้าปี 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วก็เป็นทูตของมหาวิทยาลัย เป็นดรัมเมเยอร์ของมหาวิทยาลัย ในงานฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 69 ก็ได้เรียนรู้หลายอย่าง ทั้งการทํางานร่วมกับคนอื่น ความอดทน 
ก็ทําให้เราโตขึ้น ก็ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่มหาวิทยาลัยด้วย คือปกติเราเป็นคนที่ชอบทํากิจกรรมอยู่แล้ว พอเข้าปี 1 มาเราทําทุกอย่างเลย ตอนแรกเข้ามาก็เป็นดาวคณะ แล้วก็ไปประกวดดาว-เดือนมหา’ลัย เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ สนุกดีค่ะ คือทํากิจกรรมทุกอย่างตอนปี 1 พออยู่ปี 2 ก็เป็นรุ่นพี่ไปสอนรุ่นน้อง ก็สนุกดี ตอนนี้ก็ขึ้นปี 3 แล้ว” 

ได้นํามาใช้ในเรื่องการแสดงบ้างไหมสําหรับกิจกรรมที่เคยทํา...
“ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความอดทนมากกว่า เพราะว่าเป็นลีดหรือเป็นดรัมฯ มันต้องฝึกซ้อมทุกวัน แล้วก็ใช้เวลานาน คือซ้อมหลังเลิกเรียน ตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึงตี 1 ตี 2 ตอนนั้นได้ฝึกความอดทน แล้วก็เรื่องของระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา”

เข้าวงการบันเทิงแล้วชีวิตเปลี่ยนไปไหม...
“จริงๆ หนูเป็นคนทําตัวปกติเหมือนเดิมนะ แค่อาจจะโตขึ้นแล้วก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่เรื่องความตลกบ้าบอความโก๊ะนี่ยังเหมือนเดิม แค่มีวินัยมากขึ้นแล้วก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นค่ะ” 

ความใฝ่ฝัน...
“การได้มาทํางานในวงการบันเทิงก็เป็นงานที่ทําให้เรามีความสุขและรู้สึกสนุก ส่วนที่เรียนก็เรียนด้านวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ก็เรียนมาทางด้านนี้ อนาคตฝันว่าอยากจะได้เป็นผู้จัดละครบ้าง ได้มีโอกาสทําละครหรือทําหนังบ้าง ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันที่คิดไว้ แต่คงอีกนานมาก”

ฝากผลงาน...
“ฝากผลงานของแก้วใสด้วยนะคะ เรื่องต่อไปก็คือละคร “คีตโลกา” ออนแอร์แล้ว สนุกแน่นอนค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องราวระหว่าง 2 โลก มีทั้งดราม่าด้วย แอ็คชั่นด้วย 
ฝากติดตามชมด้วยนะคะ”    

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments