“เกรซ” ทุ่มสุดตัวเล่น “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี”
เป็นสาวสวยมากความสามารถอีกคนหนึ่งที่โดดเด่นทั้งในแวดวงสังคม และวงการบันเทิงทั้งในฐานะพิธีกรสาว,นางแบบ, แบรนด์แอมบาสเดอร์ จนกระทั่งได้เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะนักแสดงแบบเต็มๆ ตัวของ ท่านมุ้ย มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล สำหรับ เกรซ มหาดำรงค์กุล ได้รับบทบาท “พระสุพรรณกัลยา” องค์พระธิดาในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และทรงเป็นพระพี่นางของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ สมเด็จพระเอกาทศรถ ที่ตลอดทั้งชีวิตต้องตกเป็นองค์ประกันให้กับหงสาวดี
ซึ่งใน “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี” นอกเหนือจากไฮไลท์สำคัญกับฉากมหาศึกยุทธหัตถี อภิมหาสงครามที่จะตัดสินชะตากรรมถึงความเป็นไปของกรุงศรีอยุธยาที่จะปรากฎสู่สายตาผู้คนเป็นครั้งแรกในโลก เราจะได้เห็นบทบาทและเรื่องราวต่างๆ ที่ดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นกับทุกชะตากรรมของแต่ละตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าใจที่เกิดขึ้นกับ “สมเด็จพระสุพรรณกัลยา” พระพี่นางของพระนเรศวรหลังจากชีวิตต้องตกเป็นองค์ประกันของแผ่นดินแทนพระนเรศวร และต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของ นันทบุเรง (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) ที่สืบสานราชบัลลังก์ต่อจาก บุเรงนอง (สมภพ เบญจาธิกุล) ผู้พ่อ ที่บัดนี้กลายเป็นกษัตริย์พม่าที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิมและเกรี้ยวกราด หมายที่จะบุกเข้าตีและยึดครองอโยธยาให้ราบเป็นหน้ากลองให้จงได้
การทุ่มสุดตัวกับการถ่ายทอดการแสดงในระดับที่เรียกได้ว่าที่สุดในชีวิตของ สาวเกรซ เพราะทุกฉากทุกซีนล้วนเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เข้มข้น ถึงขนาดยอมรับว่าทำให้หลงรักในศาสตร์การแสดงจากการได้ร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้
“แน่นอนว่าสำหรับโปรเจ็คท์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เปลี่ยนชีวิตเกรซ จากที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง คนทั่วไปอาจจะรู้จักเกรซในบทบาทของพิธีกรหรือว่าถ่ายแบบ เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าบ้าง แต่ว่าถ้าพูดถึงในเรื่องของการแสดงนี้ก็เป็นจุดพลิกที่ทำให้คนรู้จักเยอะขึ้นนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับบทเป็นพระสุพรรณกัลยา พอหนังเรื่องนี้ปรากฎออกไปครั้งแรก เกรซก็ได้รับของที่เกี่ยวกับพระสุพรรณกัลยาเยอะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นภาพ ล็อกเก็ต หรือเป็นบทสวด มีคนเอามาให้เกรซเต็มเลยค่ะเยอะมาก แล้วก็มีภาพภาพหนึ่งเขาฝากมาทางคุณปีเตอร์ นพชัยนะค่ะ มาจากพม่า ก็คือเป็นภาพพระสุพรรณฯที่เป็นตัวเกรซใส่ชุดไทยนะคะ แล้วก็ประดับด้วยพลอยทั้งภาพเลย แล้วก็ไม่ได้บอกด้วยว่าเป็นใครก็ต้องขอบคุณด้วยนะคะที่ส่งมาให้ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตก็คือ เรื่องการแสดงจากที่ตอนแรกไม่เคยรับเลยแล้ว เราก็ไม่คิดที่จะทำด้วยก็กลายเป็นว่าเปิดโลกทัศน์ให้เกรซเยอะมากค่ะ รู้สึกว่าการแสดงเป็นศาสตร์อีกอย่างหนึ่งที่เราไม่เคยได้สัมผัส แต่พอได้สัมผัสเลยรู้ว่าการแสดงมันมีเสน่ห์ มีความรู้สึกว่าถ้ามีเรื่องต่อไปที่เราเหมาะก็อยากจะทำ อยากจะแสดงขึ้นมาทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่างานแสดงกับเรานี้จะไปด้วยกันได้”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับระดับครูอย่างท่านมุ้ย มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล
“ท่านมุ้ยเป็นสุดยอดผู้กำกับ มีความละเอียดในการทำงาน และเป็นคนที่น่ารัก และคอยเอาใจใส่นักแสดงทุกคน มีอยู่วันหนึ่งในการถ่ายทำที่เมืองกาญจนบุรีอากาศร้อนมาก เราถ่ายทำกันในโรงถ่ายที่เราเซ็ทขึ้นมาเป็นห้องบรรทมของพระสุพรรณฯ ซึ่งแน่นอนว่าก็จะไม่มีแอร์อยู่แล้วเพราะต้องเก็บเสียง แล้วในการถ่ายทำก็จะมีควันมีเอฟเฟ็คต์ อากาศร้อนมาก มีทีมงานอยู่กันเป็นร้อยชีวิต หายใจกันไม่ค่อยออก ออกมานี่เหงื่อท่วมตัวไปหมดเลยค่ะ เมคอัพคือหลุดไปเลย วันนั้นเกรซร้อนแล้วรู้สึกเหนื่อย เพราะว่าไม่ได้นอนมาหลายวัน เราถ่ายทำถึงเช้าตลอด แล้วท่านก็อยากมาให้กำลังใจ ท่านก็เดินมาลงนั่งแบบขัดสมาธิข้างกล้องค่ะ ท่านก็บอกว่า เดี๋ยวฉันจะกำกับเธอจากตรงนี้แหละ แล้วเกรซก็บอกว่าถ้าท่านมานั่งตรงนี้เกรซยิ่งไม่กล้าใหญ่เลย ท่านก็พูดว่า อ้าวจริงเหรอ ปกตินักแสดงถ้าผู้กำกับเข้ามาแล้วจะรู้สึกเหมือนให้กำลังใจ ท่านก็พยายามช่วยทุกวิถีทางค่ะเพื่อให้นักแสดงเล่นไปได้ ด้วยความน่ารักของท่านเราก็มีกำลังใจขึ้น แล้ววันนั้นซีนนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แล้วมีอีกหลายๆ ซีนค่ะที่ต้องใช้อารมณ์”
ติดตามอีกหนึ่งความสามารถทางด้านการแสดงแบบทุ่มสุดตัวในทุกๆฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้นของ เกรซ มหาดำรงค์กุล ในบทบาทของ พระสุพรรณกัลยา ผู้ที่เต็มไปด้วยความเสียสละเพื่อแผ่นดินใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี