เพราะมีตลาดประเทศเพื่อนบ้านลู่ทางสดใสอย่าง ลาว และเขมร ซึ่งขณะนี้เพลงลูกทุ่งของไทยได้รับความนิยมอย่างสูง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว "ศุภชัย นิลวรรณ" ผู้บริหารค่ายอาร์สยาม ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
"เรื่องการเปิดการค้าเสรีเศรษฐกิจอาเซียนส่งผลกระทบโดยอ้อม คือเมื่อมีการเปิดการค้าเสรีในอาเซียนทำให้ตลาดใหญ่ขึ้น ดังนั้น การใช้เงินในภาคธุรกิจบันเทิงเกี่ยวกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์คาดว่าจะมากขึ้นด้วย ซึ่งจะสะท้อนกลับมาหาอาร์สยามในรูปของกิจกรรมทางการตลาด การลงโฆษณาในสื่อของบริษัทฯ ซึ่งอาร์สยามมีความได้เปรียบคือเรามีสื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "สบายดี ทีวี" มีเครือข่ายพื้นที่การรับชม 22 ประเทศ ครอบคลุมอาเซียนทั้งหมด
อีกอย่างเพลงของอาร์สยามได้รับความนิยมในประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศลาว สินค้าที่มีการค้าขายระหว่างกันสามารถทำโฆษณา ณ จุดเดียว ออกอากาศครอบคลุมได้ทั่วอาเซียน ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากไปลงโฆษณาในประเทศต่างๆ โฆษณาจุดเดียวถือว่าคุ้มค่า
ในส่วนข้อดีแบบตรงๆ ทำให้นักร้องของค่ายได้รับความนิยมมากขึ้น ขยายไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านด้วย แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องของภาษาที่แตกต่าง ใกล้เคียงที่สุดคือประเทศลาว ในส่วนของประเทศเขมร มีการนำเพลงของอาร์สยามไปแปลงเนื้อเป็นภาษาเขมร ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ขณะนี้คือเพลง "สัญญาก่อนนอน" ของ "หนู มิเตอร์"
อาร์สยามเองก็กำลังจะมีโครงการเข้าไปคุยกับบริษัทเอกชนที่ประเทศเขมร ซึ่งได้เชิญเรามาแล้ว เช่นเดียวกับทางประเทศลาว ที่กำลังจะมีการพูดคุยเหมือนกัน นอกจากเรื่องลิขสิทธิ์แล้ว ยังมีเรื่องของความร่วมมือกันในด้านตลาดเพลงในรูปแบบพาร์ทเนอร์ ว่าสามารถจะต่อยอดสร้างมูลค่าอะไรได้บ้าง ซึ่งยังไม่สามารถคำนวณมูลค่าทางการตลาดได้ว่ามากน้อยขนาดไหน เพียงแต่ว่า ณ จุดนี้ ต้องมีการเริ่มต้นหาลู่ทาง และศึกษารายละเอียดกันต่อไป" ♦