ซึ่งเป็นวันหยุดยาว หลายคนอาจจะสนุกสนานที่ต่างจังหวัด แต่ เวลากลับคงทุกข์หนัก เพราะรถราติดหนึบแทบทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นสายเอเซีย มุ่งภาคเหนือ หรือมิตรภาพเส้นทางสู่อีสานทําให้ผมอิจฉาคนที่ไม่ไปไหน อยู่กับบ้านที่กรุงเทพฯ เห็นว่าถนนโล่ง แทบจะตั้งประตูเล่นฟุตซอลกันได้เลย
ไหนๆ ก็ผ่านเทศกาลแห่งความสุขและทุกข์จากการจราจรบนท้องถนนมาแล้ว ผมเองก็ไม่มีของขวัญพิเศษอะไรให้กับผู้อ่านนอกจากพร...ขอให้ผู้อ่าน ผู้มีอุปการคุณทุกท่าน จงประสบแต่ความโชคดี ปราศจากโรคภัย มีเงินใช้แบบไม่ขัดสนตลอดปีใหม่ไทย...สาธุ
หลังสงกรานต์ บรรยากาศในแวดวงบันเทิง ไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ อาจมาจากยังตั้งหลักไม่ติด นอกจากข่าวคราวการแต่งงานของดาราหลายๆ คู่ ที่ประกาศจองวัน จองโรงแรมกันแล้วไม่ว่าจะเป็นคู่ของพระเอกรุ่นใหญ่ ป๋อ ณัฐวุฒิ-เอ๋ พรทิพย์, คู่ เป้ย ปานวาด กับลูกชายอดีตผบ.ทบ. คู่ของ ต่าย ซีซั่นเชนจ์ กับ ทิม ทายาทธุรกิจน้ำมันรําข้าว รวมทั้งคู่ของ พระเอกไม้เลื้อย ที่วันนี้เลิกแล้วค่ะ...ชาคริต แย้มนาม ซึ่งเข้าพิธีวิวาห์กับ วุ้นเส้น
แต่มีข่าวอยู่ชิ้นหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยจะได้รับความสนใจจาก "สื่อบันเทิง" มากนัก นั่นคือ ความเคลื่อนไหวของบริษัท สํารวจเรตติ้งยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย "นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ซ" ที่ประกาศเพิ่มกลุ่มตัวอย่างการวัดผลเรตติ้งคนดูทีวี
ย้อนอดีตเพื่อเป็นการปูพื้นฐานก่อนว่า...ที่ผ่านมา "นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ซ" จะผูกขาดการวัดเรตติ้งคนดูเฉพาะ "ฟรีทีวี" ซึ่งก็คือช่อง 3-5-7-9-11 และ ไทย พีบีเอส
ข้อมูลเรตติ้งเหล่านี้ บริษัทโฆษณาจะเอาไปใช้ในการ แพลนโฆษณา ถ้าช่องไหนเรตติ้งคนดูดี ก็มีสิทธิ์รับเละ
รายการไหนมีเรตติ้ง "เหนือกว่า" รายการอื่น เงินทองจะไหลมาเทมา ประมาณว่า ฝ่ายตลาดไม่ต้องออกแรงมาก
เพราะมีเรตติ้งที่ "นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ซ" สํารวจมาให้เป็นใบเบิกทาง ไม่ต้องอธิบายปากเปียกปากแฉะ ยกสรรพคุณรายการดีอย่างนั้น เลิศอย่างนี้ให้น้ำลายเหนียว
เพียงแต่เอเยนซีดูตัวเลขเรตติ้งที่วัดมาได้ จะพยักหน้า หรือ "สั่นหัว" อยู่ตรงนี้แหละ!!
แต่สมัยนี้ไม่ใช่ว่าจะมี "ฟรีทีวี" สื่อเดียว ยังมีเคเบิลทีวี, โทรทัศน์ดาวเทียม และสื่ออื่นๆ ตามมาบานเบอะ "นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ซ" เลยปรับเปลี่ยนวิธีการสํารวจใหม่ พร้อมกับเพิ่มกลุ่มตัวอย่าง
ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ต้อนเดือนเมษายน...โดยปรับเป็นรับชมผ่านเสาอากาศ 700 ตัวอย่าง ทรูวิชั่นส์ 200 ตัวอย่าง เคเบิล 82 ตัวอย่าง และทีวีดาวเทียม 468 ตัวอย่างจากเดิมที่เคยวัดเรตติ้งผ่านเสาอากาศ 790 ตัวอย่าง ทรูวิชั่นส์ 200 ตัวอย่าง เคเบิล 100 ตัวอย่าง ทีวีดาวเทียม 160 ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ ตัวอย่างการดู "ทีวีดาวเทียม" พุ่งพรวดจาก 160 ตัวอย่าง เป็น 468 ตัวอย่าง ประมาณว่า เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวทีเดียว
ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือว่า ทีวีดาวเทียม มีกระแสความนิยมเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่ใกล้เคียง "ฟรีทีวี" ที่เป็นผู้นําสื่อโทรทัศน์ แต่ทําให้แชมป์นอนผวาได้เหมือนกันการขยับกระบวนท่าวัดเรตติ้งคนดูครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่า "สื่อโทรทัศน์" นับจากนี้เป็นต้นไป จะไม่ "แช่" อยู่แค่ "ฟรีทีวี" ยังมีเคเบิลและ "ทีวีดาวเทียม" เข้ามาแทรกเป็นยาดํา
ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมโฆษณาก็ต้องเปลี่ยนตาม
ไม่ใช่หลับหูหลับตา "จิ้ม" แค่ช่อง "ขาประจํา" แต่ต้องหันหน้าและเงี่ยหูฟังตัวเลขเรตติ้งของ "ทีวีดาวเทียม" ด้วย
การสํารวจครั้งนี้ก็คงไม่ถึงกับพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน เพราะยังเห็น "ช่องโหว่" นั่นคือเสาอากาศ ที่เคยติดอยู่บ้านเรือนทั้งในต่างหวัดและกรุงเทพฯ ปัจจุบันแทบจะหาทํายายาก
แม้แต่คนบ้านหนองหมาว้อ ตอนนี้ติดจานดาวเทียมแทบทุกครัวเรือน ซึ่งจานดาวเทียมที่ว่านี้ ก็ไม่ได้ดูแค่ช่องทีวีดาวเทียม แต่ยังพ่วงช่อง "ฟรีทีวี" ด้วยตรงนี้แหละคือปัญหาของบริษัทสํารวจ...จะแยกแยะกันยังไงว่า บ้านหลังนี้ดูช่องทีวีดาวเทียม หรือดูรายการช่อง "ฟรีทีวี"
ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและ "คุณภาพ" ของรายการแล้วแหละ... จะเป็นตัวตัดสิน!!"ฟรีทีวี" จะอยู่เหมือนเดิม ทํารายการแบบขอไปที ไม่ต่างจากพิธีกรรมแก้บน แล้วคิดว่า ยังไงคนก็ต้องดู...คิดแบบนี้ เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
"ทีวีดาวเทียม" จะหลงตัวเอง เป็นขี้ใหม่หมาหอม เอารายการอะไรยัดๆ ใส่ให้เต็มเวลา ก็อยู่ยากเช่นเดียวกัน
ใครเหนือใคร ถึงเวลาวัดที่ "คุณภาพ" กันแล้วล่ะครับ!!