เพื่อปรับสัดส่วนให้น้ำหนักอะไรมาก-น้อย สุดท้ายก็ลงตัวที่ข่าว-สาระ 70% บันเทิง 30% ผิดกับ "ช่องขาประจํา" ที่จะให้น้ำหนักบันเทิงมากกว่า ข่าว-สาระ เพราะมองว่า "บันเทิง" สร้างรายได้ให้สถานีเป็นกอบเป็นกํา ยังไงก็ต้องกอดสัดส่วนนี้เอาไว้จนตาย ส่วนคนดูจะ "โง่" หรือ "ฉลาด" แล้วแต่เวรแต่กรรม สถานีไม่เกี่ยว เงินมาก่อนเรื่องอื่นว่าทีหลัง...เป็นยังงั้นจริงมั้ย
ล่าสุดก็มีข่าวว่า พร้อมใจกันปรับเรทค่าโฆษณาขึ้นอีก จนทําเอาเอเยนซี เจ้าของสินค้ากัดฟันกรอดๆๆ...แต่ทําไงได้ ในเมื่อสื่อทีวีเป็น "สื่อหลัก" เขาจะโขกจะสับ จะปรับจะขึ้นก็ต้อง "ยอม" เกิดทีวีดิจิตอล 100 ช่องเมื่อไหร่ อย่ามาง้อก็แล้วกัน...อันนี้ผมไม่ได้พูดเอง แต่ได้ยินเจ้าของสินค้าเขาบ่นพึมพำแบบนั้น
"ช่อง 5" เป็นสถานีเดียว ที่ไม่ปรับค่าเช่าเวลา-ไม่ขึ้นค่าโฆษณา เพราะรู้ดีว่า...คนไทยไม่ได้ร่ำรวยอะไรนักหนา สิ่งไหนที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกัน เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุขกันไป นี่คือ "น้ำใจ" ของช่อง 5 ที่ไม่ได้ทํา"ธุรกิจ" แบบไม่เห็นหัวเห็นหางคนอื่น แต่เป็น "สื่อสาธารณะ" ที่มองส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ช่อง 5 ไม่ได้มองที่ "รายได้" ซึ่งได้มาจากค่าเช่าเป็นหลัก แต่มองที่ "สาระ" ที่คนดูจะได้รับมากกว่า จึงเป็นสถานี "ทางเลือกใหม่" ที่เรตติ้งขยับขึ้นตลอดเวลา
การปรับผังรายการใหม่ ภายใต้การนําของ "พลโทฉัตรชัย สาริกัลยะ" ผอ.ช่อง 5 คนปัจจุบัน เชื่อมั้ยครับว่า สามารถสร้างเรตติ้งให้กับรายการข่าว ขยับเพิ่มอีกเท่าตัว ผลสํารวจของ เนลเส็น มีเดีย ระบุว่า...เดือนมกราฯ ที่ผ่านมาหมาดๆ รายการข่าวมีคนดูเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้นถึง 36% เมื่อเทียบกับปริมาณคนดูเมื่อเดือนธันวาฯ ปีที่แล้ว
คำว่า คนดูที่ "เพิ่มขึ้น" มาจาก 2 ทางด้วยกัน...1.คนที่ไม่เคยดูรายการข่าวมาก่อน อาจจะดูรายการบันเทิงและวาไรตี้ประจํา หันมาดู "ข่าวช่อง 5"
2."คอข่าว" ที่เป็นแฟนประจําของสถานีโทรทัศน์ ช่องอื่น เริ่มเอือมกับรูปแบบจําเจ ต้องการ "ทางเลือกใหม่" จึงมาดูข่าวช่อง 5
ภาพรวมของภาคข่าวช่อง 5 ถ้าใครเป็นแฟนประจํา จะเห็นว่าไม่ได้เป็น "วาไรตี้ข่าว" เหมือนที่หลายช่องกําลังเป็น แต่เน้นเนื้อข่าว เอาความสามารถเฉพาะตัวของบุคลากรข่าวที่สถานีมีออกมาใช้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่สถานีตีกรอบเอาไว้คือ "รอบ-ลึก-สร้างสรรค์" ตั้งแต่เปิดสถานีจนปิดสถานีจะมีข่าวหลายช่วงให้ดู แต่ละ รายการต้องบอกว่า กดรีโมทแช่ไว้ได้เลย มีความน่าสนใจ มีคอนเซ็ปต์ของตัวเอง
นอกจากนี้ยังได้คนอ่านข่าวหน้าตาดี มีสมอง มีมุมมองที่ดี ใครๆ ก็อยากดู ที่สําคัญช่อง 5 ไม่ชอบเด็ดดอกไม้ในอุทยานคนอื่น ประมาณว่า ไปดึงพิธีกรข่าวชื่อดังจากสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นมาร่วมงาน
วันนี้ช่อง 5 จึงมีผู้ประกาศข่าวใหม่ หน้าตาดี ร่วมงานแยะ...เขมสรณ์ หนูขาว คุปต์ มะรินทร์ ปาจรีย์ สวนศิลป์พงศ์ สืบสกุล พันธ์ุดี ฯลฯเป็นธรรมดาของการเปลี่ยนแปลง ในเมื่อช่อง 5 ต้องการจะเอาเวลาที่เคยเป็น "บ้านเช่า" ให้คนอื่นอยู่อาศัย มาทําเอง จึงต้องมีการยกเลิกบางรายการ ตอนนี้ รายการข่าวช่อง 5 แทบจะทุกช่วง สถานีลงมือทําเองหมด คอนโทรลเนื้อหา คอนโทรลคอนเซ็ปต์ได้ ทุกอย่างเลยออกมา "ลงตัว" และ "ดูดี" ไม่เอียงกะเท่เร่ไปข้างหนึ่งข้างใด
ผมชอบการทํางานสไตล์ "พลโทฉัตรชัย" นิ่ง ขรึม แต่เวลาออกหมัดแต่ละที คู่ต่อสู้มีสะเทือน เพราะไม่ได้ทําตามกระแส หรือแรงกดดันจากภายนอก แต่ทุกครั้งที่ลง มือทําจะต้องตรงเป้า เคยเห็นดาบไหมครับ...ทําไมจะต้องมีฝัก เพราะเขาไม่ต้องการให้ชักตั้งแต่ได้ยินเสียงหมาเห่า... แต่ทุกครั้งที่ชักออกมาจะต้องตรงเป๊ะ เด็ดขาด นี่คือสไตล์การทํางานของช่อง 5 การทํางานจึงไม่กดดัน เพราะไม่ได้มองสถานีช่องอื่นเป็น "ศัตรู" จึงได้ใจพนักงาน ช่วยกันพายช่วยกันเข็น เดินไปสู่เป้าหมายให้ได้
ถูกต้องแล้วที่ ผอ.ช่อง 5 ให้ความสําคัญกับภาคข่าว ใส่ใจในรายละเอียด ปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นสถานีทางเลือกของ "คอข่าว"อย่าไปใส่ใจกับกระแสปาก เพราะเท่าที่เห็น และเป็นอยู่ก็มองเห็น "อนาคตใหม่" ที่ไม่เป็น ลูกไล่ของช่องใดอีกต่อไป♦