สมัยนั้นอยู่ที่กองปราบปราม ถนนวรจักร มีเพลงบ้าง ข่าวบ้าง และสาระอื่นๆ บ้าง
ต่อมา ไม่ช้าไม่นานเพลงที่เปิดก็ถูก จํากัดขอบเขตว่าเพลงนี้เปิดได้ และเพลงนั้นห้ามเปิด ก็เหตุผลทางการเมืองนั่นแหละครับ ผู้มีอํานาจมีความเห็นว่าเป็นเพลงที่มีเนื้อหา คําร้อง เสียดสีเหน็บแนม ฟังแล้วไม่สบายใจ จึงยัดเยียดข้อหาให้เป็นเพลงปลุกระดม หรือเป็นเพลงที่ทําให้ประชาชนกระด้างกระเดื่องต่อรัฐบาล
ซึ่งเรื่องของเพลงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองนั้นมีมาตั้งแต่สมัย "คํารณ สัมปุณนานนท์" เช่นเพลง มนต์การเมือง หัวอกสามล้อ เป็นต้น ต่อมาเพลงเหล่านี้ถูกเรียกว่าเพลงเพื่อชีวิต ซึ่ง จะถือว่า "คุณคํารณ" เป็นต้นแบบก็ได้
ประมาณ ปี พ.ศ.18 -19 - 20 เพลงเพื่อชีวิตก็ถูกเหมาห้ามเปิดเป็นส่วนใหญ่ เช่นเพลงของวงคาราวาน โดย "พี่หงา-สุรชัย จันทิมาธร" ของน้องๆ มิตรรักแฟนเพลง มีเพลงคนกับควาย แต่งโดย สมคิด สิงสง นกสีเหลือง โดยวินัย อุกฤษณ์ อีสาน โดย อัศนี พลจันทร์ลุกขึ้นสู้ เปิบข้าว อเมริกันอันตราย และเพลงอื่นๆ อีกหลายเพลงแม้แต่เพลงลูกทุ่งที่ร้องโดย "สดใส ร่มโพธิ์ทอง" เพลง เราคนจน ก็ ไม่เว้น
"คาราวาน" วงดนตรีเพลงเพื่อชีวิตวงแรกๆ ของประเทศไทย ถือกําเนิดมาจากการรวมวงดนตรีสองวงคือ ทอเสนและสัญจรและ บังกลาเทศแบนด์ ปัจจุบันยังรักษาสไตล์เพื่อชีวิตเหมือนเดิม
วงเพื่อชีวิตที่โด่งดังค้างฟ้า สะใจวัยโจ๋ ทุกวันนี้ นับว่าวง "คาราบาว" ยังไม่มีใครมาทาบรัศมี วงกรรมาชน เป็นอีกวงหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้คนที่มีอุดมการณ์ทางการเมือง
ในอดีตนั้น ผู้คนที่เป็นมิตรรักแฟนเพลง หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเพลงเหล่านี้มักจะถูกเพ่งเล็งว่าเป็นพวกหัวเอียงซ้าย หัวรุนแรง และกลุ่มประชาชนที่ประท้วงรัฐบาลจะด้วยเรียกร้องอะไรก็ตาม เมื่อรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน มีเวทีปราศรัย ก็นิยมเอาเพลงเหล่านี้มาร้อง มาบรรเลงกันอยู่เสมอ
วันนี้มีม็อบมากมายหลายม็อบ เพลงเหล่านี้ก็หาฟังไม่ยาก มีทั้งรุ่นเก่า และที่แต่งขึ้นมาใหม่ ใครชอบก็ขอเชิญไปทัศนา คอนเสิร์ตการเมืองซึ่งกําลังเบ่งบานอยู่ตามถนนหนทางทั่วไป ♦