ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกำลังระบาดไปทั่วทุกซอกมุมของสังคมไทย และลุกลามเข้าไปในเด็กหญิงชาย วัยรุ่น ครอบครัว จนกระทั่งกลายเป็นการ "เสพติดเซ็กซ์" พฤติกรรมที่ไม่ต่างกับการติดยาเสพติดและนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมๆ กับ ค่านิยมทางเพศที่ต้องการความแปลกใหม่ ตื่นเต้นและเร้าใจ
น.พ.พนมทวนให้ข้อมูลว่า โรคเสพติดเซ็กซ์ (Sexually Addiction) คือ การใช้เซ็กซ์เป็นทางออกเพื่อผ่อนคลายหรือระบายความเครียด แต่ไม่สามารถควบคุมหรือหยุดการมีเพศสัมพันธ์ได้ เมื่อเสพติดนานๆ เข้าก็จะเพิ่มปริมาณในการเสพ หมกมุ่นแต่เรื่องเซ็กซ์อย่างเดียว คนกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรม ซ้ำๆ โดยติดการเสพความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์เหมือนการติดยาเสพติดหรือสุรา จึงมักหยุดไม่ค่อยได้ นอกจากการมีเพศสัมพันธ์แล้ว คนกลุ่มนี้อาจช่วยตัวเอง ชอบโชว์ แอบดู จนอาจนำไปสู่การร่วมเพศ และเป็นรักสองเพศ (HOMOSEXUAL) ได้
พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นการรบกวนชีวิตปกติ ประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชีวิตรัก หรือชีวิตการทำงาน เมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็จะรู้สึกผิดละอาย แต่หยุดไม่ได้ กลัวจะถูกเปิดเผย กลัวคนอื่นรู้ความลับ แต่ยังทำ กลายเป็นพฤติกรรมสำส่อน มั่ว ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้แต่เอดส์ก็ไม่ทำให้เขากลัวจนเลิกพฤติกรรมได้
น.พ.พนมทวน อธิบายต่อว่า ส่วนใหญ่สาเหตุมักเกิดจากประสบการณ์ในวัยเด็กถูกทารุณ ทำร้าย ทุบตี และส่วนหนึ่งเกิดจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง นอกจากจะเสพติดเซ็กซ์แล้ว คนกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมติดอย่างอื่นรวมอยู่ด้วยถึง 87% เช่น ติดสารเสพติด ติดเหล้า ติดพนัน พวกบ้างานมากๆ ใช้จ่ายมาก ทั้งนี้พบว่าในอเมริกามี 3-6 % ที่มีโอกาสเป็นโรคนี้
"คนกลุ่มนี้ต่างกับกลุ่มที่มีความต้องการทางเพศสูงหรือมีเซ็กซ์จัด เนื่องจากพวกเซ็กซ์จัดจะพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ของตน ส่วนคนที่เป็นโรคเสพติดเซ็กซ์ทำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเหมือนคนปกติ ขาดความรัก ความศรัทธา ความมั่นคง ในตัวเอง และจะรู้สึกผิด ละอายเมื่อทำไปแล้ว และหากได้รับการปฏิเสธก็จะรู้สึกชีวิตล้มเหลว เสียความเป็นตัวเอง เรียกว่าพวกเขาพยายามหาความสุขแต่ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง"
เรื่องนี้ได้คัดลอกมาโดยไม่มีที่มาที่แน่ชัด เราต้องขอขอบคุณเจ้าของเรื่องตัวจริงด้วย ♦