บริษัทที่ผลิตรายการโทรทัศน์มายาวนาน มองอนาคตและแนวโน้มของรายการโทรทัศน์ในบ้านเราว่า
"ปี 54 นี้ก็น่าจะต้องคึกคักขึ้นอีกเพราะต้องแข่งกันเยอะในภาคของ Free TV ขณะนี้คนทําทีวีไม่ใช่ว่าคิดอยากจะทําอะไรก็ทําได้ เพราะมี Satellite มีเคเบิล แล้วยังมีอินเตอร์เน็ตเข้ามาอีก ที่มาแย่งผู้ชมจาก Free TV ไป เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าเรทติ้งของ Free TV จะลดลง
..แต่ถึงอย่างไร Free TV ก็ยังเป็นสื่อตัวหลัก ที่ยังมีคนชมมากที่สุด คือการทํารายการของ Free TV ตอนนี้ต้องไปคิดอยู่ในเชิงของการตลาดมากขึ้นแล้ว เพราะมันเริ่มถูกแชร์ตลาดไป หรือแม้แต่ Free TV ก็ยังต้องแข่งกันเองเพื่อช่วงชิงเรทติ้ง
..แล้วแรงผลักดันที่จะทําให้เทรนด์มันเป็นแบบไหนมันก็ขึ้นอยู่กับเรื่องเรทติ้งด้วย ใครเรทติ้งไม่ดีก็อยู่ไม่ได้ แล้วเม็ดเงินโฆษณามันถูกแบ่งกระจายออกไป ทําให้คนที่ทํารายการตอนนี้ก็แข่งกันใหญ่ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ว่าจะเป็นการแข่งในด้านของ Mass Market ก็คือการทําเรทติ้งอย่างเดียว แต่ว่าคุณภาพ หรือคุณค่าของตัวรายการที่จะให้กับผู้บริโภคมันอาจจะลดน้อยลง แต่ไปได้ความบันเทิงอย่างเดียว
..เพราะฉะนั้น ตรงนี้มันเป็นตัวที่ชี้นําอนาคตของสื่อไทยในวันข้างหน้า พอเป็นอย่างนี้แล้ว รายการมันก็จะออกมาซ้ำๆ กัน พิธีกรซ้ำๆ กัน ตัวเนื้อหารายการก็จะซ้ำๆ กัน อยู่ที่ว่าใครจะทําได้มีสีสันมากที่สุด
..การผลิตรายการนับวันก็จะยากขึ้น เพราะการที่เราจะผลิตรายการที่มีสาระแล้วก็มีทั้งความบันเทิงด้วยนั้นมันยากมากที่จะทําให้เกิดเรทติ้ง เพราะว่าเรทติ้งมันไม่มี อย่างแฟนรายการของเจเอสแอล ส่วนใหญ่จะเป็นคนกรุงเทพ เพราะเราไม่มีรายการที่เป็น Mass แต่ว่ารายการประเภท Mass Media ประชาชนคนทั่วไปที่อยู่ในหัวเมืองในชนบทดูเยอะ
ซึ่งพวกนั้นคือกลุ่มใหญ่ เพราะฉะนั้นเวลาที่ผู้ผลิตรายการทีวีทํารายการอะไรเขาก็จะมุ่งไปที่คนตรงนั้น เพราะฉะนั้นตัวเนื้อหารายการก็จะออกไปทาง Mass Media อย่างทุกวันนี้" ♦
