ดังนั้น "แอทโฮ" ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรีดผ้า มีเทคนิคการขจัดกลิ่นอับบนเสื้อผ้า และการรีดผ้า มาฝากคุณแม่บ้าน โดยไม่ต้องกังวลกับกลิ่นอับชื้นที่มาพร้อมสายฝนอีกต่อไป
"เปลี่ยนนิสัยการซักผ้าแบบเดิมๆ" เปลี่ยนนิสัยการซักผ้าให้บ่อยขึ้น เพราะไม่งั้นการสะสมของเชื้อแบคทีเรียจะทําให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับมากยิ่งขึ้น และอาจจะต้องเลือกใช้ผงซักฟอกที่สามารถลดกลิ่นอับชื้นได้ แม้ตากในที่ร่ม ซักเสร็จบิดให้แห้ง แล้วนํามาตากโดยเว้นระยะห่างสักหน่อย เพื่อให้ลมพัดผ่านได้อย่างทั่วถึงก็สามารถช่วยบรรเทาปัญหากลิ่นอับได้
"เมื่อกลิ่นอับมารังควานงานนี้ต้องใช้ผู้ช่วย" เบคกิ้งโซดา หรือผงฟูมาเป็นผู้ช่วยในการขจัดกลิ่นอับบนเสื้อผ้า เพียงผสมผงฟู 3-4 ช้อนลงในน้ำ 1 กะละมัง นําผ้าลงแช่สักครู่ หรือจะลองแช่ทิ้งไว้ข้ามคืนก็สามารถทําได้ ถ้ากลัวว่ากลิ่นอับจะยังติดทน แล้วค่อยซักตามปกติ จากนั้นอาจจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มผสมในน้ำสุดท้ายด้วยก็ได้ เท่านี้ก็เรียบร้อย แต่คําเตือนก็คือ เสื้อผ้าที่บอบบางมากๆ อาจไม่เหมาะกับวิธีการนี้
"กลิ่นมาจากไหนแก้ให้ตรงจุด" หมายถึงว่า หากกลิ่นอับของเสื้อผ้ามาจากตู้ใส่เสื้อผ้า เราก็ต้องแก้ปัญหาที่ตู้ก่อน หลังจากนี้จะได้ไม่มีเสื้อผ้าติดกลิ่นอับอีก เริ่มแรก คุณต้องนําเสื้อผ้าออกจากตู้ให้หมด เปิดตู้ทิ้งไว้เพื่อระบายอากาศสัก 1 วัน พร้อมทั้งทําความสะอาดตู้ให้ทั่ว
จากนั้นค่อยเพิ่มกลิ่นหอมให้ตู้เสื้อผ้าแบบที่ทั้งง่ายและประหยัดด้วยขวดน้ำหอมที่ใช้หมดแล้ว เพียงเปิดฝาขวดแล้วนําไปวางไว้ในตู้ น้ำหอมที่เหลือจะระเหยความหอมติดตู้ ช่วยป้องกันไม่ให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับได้อีกทางหนึ่ง
"เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำ ช่วยคุณได้" กรณีที่ลองหลายวิธีแล้ว แต่ว่ากลิ่นอับยังฝั่งแน่นในเนื้อผ้า ลองเปลี่ยนขั้นตอนการรีด มาใช้เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำ ด้วยคุณสมบัติของพลังไอน้ำที่นอกจากจะทําให้ผ้าเรียบเร็ว และเนื้อผ้านุ่มฟู สวมใส่สบายแล้ว พลังไอน้ำ จะช่วยไล่กลิ่นอับชื้นให้หมดไปจากใยผ้า ขจัดสิ่งสปรกและไรฝุ่นซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคภูมิแพ้ และยังรักษาเนื้อผ้าตัวเก่งของคุณให้สวยยาวนานอีกด้วย
เพียงเท่านี้คุณแม่บ้าน ก็สามารถจัดการกับปัญหากลิ่นอับบนเสื้อผ้า และกลิ่นอับภายในบ้านได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่แน่นอนของดินฟ้าอากาศอีกต่อไป ♦