หรือปปท.ภาคเอกชน เรียกร้องให้ภาครัฐจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มบุคคลที่แอบลักลอบหรือนําภาพยนตร์ของค่ายต่างๆ ไปเรียงร้อยหรือทําซ้ำ เพื่อเสนอจําหน่ายให้ธุรกิจเคเบิลทีวี
เนื่องจากที่ผ่านมาจากการติดตามและเก็บข้อมูลขบวนการเคเบิลทีวีเถื่อน พบว่า มีแม่ข่ายและลูกข่าย รวมกันกว่า 300 สถานี โดยวิธีการทํางาน แม่ข่ายจะเป็นผู้รวบรวมหนัง และเสนอแพ็คเกจให้กับลูกข่าย ซึ่งลูกข่ายจะนําไปขายต่อให้กับผู้บริโภคในแต่ละจังหวัด
โดยผู้บริโภคสามารถโทรศัพท์ไปยังเคเบิลทีวีในแต่ละจังหวัดเพื่อขอชมภาพยนตร์ที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังใหม่ชนโรง หนังเก่า หรือหนังต่างประเทศ
โดยที่กลุ่มผู้ประกอบการภาพยนตร์ได้นําเรื่องนี้เข้าหารือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อให้ดําเนินการกับแม่ข่ายและลูกข่ายเคเบิล ทีวีเถื่อน
โดยมีโทษอัตราสูงสุด จําคุก 4 ปี หรือปรับ 8 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งทางกลุ่มอยากจะขอให้ผู้ที่พบเห็นการละเมิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่บก.ปอศ. หรือกรมทรัพย์สินทางปัญญาด้วย
จึงได้มีการสั่งการให้เชิญประชุมผู้ประกอบการเจ้าของลิขสิทธิ์และผู้ให้บริการระบบอินเตอร์เน็ตและเคเบิลทีวี มารับทราบนโยบายการปราบปรามว่าจะมีการปราบปรามอย่างจริงจังและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ♦