เรื่องย่อละคร : รุ้งร้าว

เรื่องย่อละคร : รุ้งร้าว

1

       ทอรุ้ง (พรชิตา  ณ สงขลา) สาวสวยผู้พรั่งพร้อมด้วยเสน่ห์และไหวพริบ ลูกสาวคนเดียวของ นเรนทร วิเศษเวโรจน์ (เกรียงไกร   อุณหะนันทน์) นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ด้านการโรงแรมและห้างสรรพสินค้าชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ตัดสินใจทิ้งอาชีพไกด์ต่างแดนที่ฝรั่งเศส เตรียมบินกลับเมืองไทยทันทีเมื่อเธอรู้ว่าผู้เป็นพ่อกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนอย่างมีเงื่อนงำจนต้องถูกกักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโรคประสาท

ทันที่ กรองกาญจน์ (จริยา  แอนโฟเน่) หุ้นส่วนธุรกิจผู้อยู่เบื้องหลังอาการป่วยของนเรนทรได้ข่าวว่าทอรุ้งกำลังจะเดินทางกลับเมืองไทย สาวใหญ่ก็สั่งให้ ก้องกฤต (สุรสิทธิ์  เอี่ยมโอภาสวงศ์) ลูกชายคนเล็ก พร้อมกับ คมชิต (วิทิต  แลด) ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ยึดเงินเป็นพระเจ้าจนยอมตกเป็นทาสรับใช้ให้กับหล่อน หาทางกำจัดทอรุ้งเพื่อตัดรากถอนโคน ตระกูลวิเศษเวโรจน์ ให้สิ้นซาก

เปรมยุดา (ชนานา  นุตาคม)ผู้เป็นป้าของทอรุ้งนั้นไม่ไว้ใจกรองกาญจน์อยู่แล้ว จึงโทรไปบอกทอรุ้งให้ระวังตัวในวันเดินทางกลับ เพราะคิดว่ากรองกาญจน์จะต้องหาทางกำจัดหลานสาวของเธออย่างแน่นอนเพื่อฮุบกิจการทั้งหมดที่เป็นของน้องชายของเธอ

คมชิตให้ เทวัญ (ชัชวาล  เพชรวิศิษฐ์) และ วิษณุ สมุนใต้บังคับบัญชาสวมรอยเป็นพนักงานขับรถของโรงแรมไปรับทอรุ้งที่สนามบิน แต่แผนการที่ได้วางไว้ก็ล้มเหลวลงไม่เป็นท่าเมื่อไม่มีแม้แต่เงาของทอรุ้งปรากฏให้ใครเห็นเลยแม้แต่น้อย เพราะทอรุ้งปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวแหม่มสาว จึงรอดพ้นสายตาของเทวัญและวิษณุมาได้ กรองกาญจน์แค้นใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าถูกทอรุ้งแหกตา สาวใหญ่จึงสั่งให้คมชิตและสมุนไปดักรอกำจัดทอรุ้งที่โรงพยาบาลโรคประสาท เพราะหล่อนมั่นใจว่าทอรุ้งต้องไปเยี่ยมนเรนทรผู้เป็นพ่อของเธออย่างแน่นอน

ต่อตระกูล (วิทยา  วสุไกรไพศาล) บุตรชายคนโตของกรองกาญจน์ แอบได้ยินสิ่งที่แม่คุยโทรศัพท์กับคมชิต นึกไม่ถึงว่าแม่ของตนจะคิดการใหญ่ร้ายแรงถึงเพียงนี้ จึงหาทางช่วยเหลือทอรุ้ง เพราะไม่อยากให้แม่ของตนทำผิดกับนเรนทร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เขาให้ความเคารพนับถือดั่งญาติสนิทคนหนึ่ง ชายหนุ่มจึงรีบตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลประสาทเพื่อเตือนภัยที่อาจเกิดขึ้นให้หญิงสาวได้รับรู้ ทันทีที่ต่อตระกูลไปถึงโรงพยาบาล ชายหนุ่มแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเห็นทอรุ้งในคราบของแหม่มสาวกำลังสวมกอดร่างเหม่อลอยของผู้เป็นพ่อด้วยหัวใจที่ช้ำชอก วินาทีนั้นต่อตระกูลจึงรู้ว่าทอรุ้งเองก็มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวที่ไม่อาจมองข้าม ทอรุ้งได้พูดคุยกับพิธาน (ภาณุเดช  วัฒนสุชาติ) นายแพทย์หนุ่มผู้รักษาพ่อของเธอ เขาวินิจฉัยว่าสาเหตุที่นเรนทรเป็นเช่นนี้ก็เพราะเครียดจากเรื่องงานและรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้ทอรุ้งหนีไปอยู่เมืองนอกหลายปี

เมื่อหมอพิธานปล่อยให้ทอรุ้งอยู่กับพ่อตามลำพังแล้ว ต่อตระกูลจึงเข้าไปแนะนำตัวเองให้ทอรุ้งรุ้จัก แต่จากข้อมูลที่ทอรุ้งได้จากเปรมยุดาเกี่ยวกับครอบครัวของกรองกาญจน์ ทำให้หญิงสาวต่อว่าต่อตระกูลอย่างสาดเสียเทเสียทันที ต่อตระกูลพยายามจะเตือนให้ทอรุ้งระมัดระวังตัวเพราะกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่ทอรุ้งก็ปิดหูปิดตาไม่สนใจคำพูดของชายหนุ่ม มิหนำซ้ำเธอยังขับไล่เขาและสั่งกำชับทางโรงพยาบาลห้ามทุกคนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของกรองกาญจน์เข้าเยี่ยมพ่อของเธอ

การพบปะและการโต้เถียงของสองหนุ่มสาวตกอยู่ในสายตาของคมชิตและลูกสมุน ดังนั้นเมื่อสบโอกาสคมชิตจึงสั่งให้เทวัญและวิษณุใช้ปืนเก็บเสียงจัดการกับทอรุ้งในขณะที่เธอกำลังพานเรนทรเดินเล่นในสวนหย่อม เทวัญเกือบพรากชีวิตของทอรุ้งไปจากนเรนทรได้ตามความประสงค์ของกรองกาญจน์ หากไม่เป็นเพราะต่อตระกูลเข้ามาเอาตัวบังไว้ ทำให้เทวัญยิงไม่ถนัด และยังถูก ไหมแก้ว (บุษรา  เบ็ญจวัฒน์)หญิงบ้าคนหนึ่งมายื้อแย่งปืนไปจากมือของเขา กระสุนจึงเปลี่ยนทิศทางไปโดนไหล่ของต่อตระกูลแทน

ต่อตระกูลต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กรองกาญจน์จึงใช้โอกาสที่ลูกชายเธอช่วยชีวิตทอรุ้งไว้นี้เชื่อมสัมพันธ์กับหญิงสาว โดยอ้างว่าเธอเป็นคนให้ต่อตระกูลไปคอยดูแลทอรุ้งเอง กรองกาญจน์ให้คมชิตเสนอตัวเข้ามาสืบคดี และจูงใจให้ทอรุ้งเข้าใจว่า พงศ์เกียรติ (ศานติ  สันติเวชชกุล) อดีตหุ้นส่วนเพื่อนรักของนเรนทรเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนฆ่าทอรุ้งในครั้งนี้ ด้วยอาจเป็นเพราะความคับแค้นใจที่ถูกนเรนทรหลอกซื้อหุ้นกลับคืน ทอรุ้งยังไม่ปักใจเชื่อนัก เพราะพงศ์เกียรติเป็นทั้งเพื่อนรัก เพื่อนแท้ และเพื่อนตายของผู้เป็นพ่อมากว่า 30 ปี เธอเข้าใจว่าการที่ต่อตระกูลมาช่วยอาจเป็นแผนของกรองกาญจน์ที่จัดฉากให้เธอไว้เนื้อเชื่อใจ แต่ก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานมาเอาผิดกับกรองกาญจน์ได้

พอลับหลังทอรุ้ง กรองกาญจน์ก็ต่อว่าต่อตระกูลที่เข้ามาวุ่นวายกับทอรุ้ง ต่อตระกูลพูดเป็นนัย ๆ ว่ารู้ว่าแม่กำลังจะทำอะไร ทำให้กรองกาญจน์ไม่พอใจมากแต่ก็ยังไม่ยอมรับ ต่อตระกูลเสนอตัวกับทอรุ้งว่าจะช่วยเหลือเธอ ทอรุ้งจึงตัดสินใจใช้ต่อตระกูลเป็นสะพานเพื่อเชื่อมประชิดตัวกรองกาญจน์ เพื่อไขความลับทั้งหมด โดยไม่ยอมฟังคำทัดทานของเปรมยุดา ทอรุ้งกลับไปอยู่ที่บ้าน แม้ผู้เป็นป้าจะเตือนว่า บ้านวิเศษเวโรจน์ ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะบรรดาข้าเต่าเก่าเลี้ยงได้ถูกกรองกาญจน์ไล่ออกไปจนหมด หลังจากที่สาวใหญ่ใช้เสน่ห์เล่ห์กลทำให้นเรนทรเห็นกงจักรเป็นดอกบัว คงเหลือแต่เพียงครอบครัวของ ปริก (โฉมฉาย  ฉัตรวิไล) แม่บ้านใหญ่ซึ่งกลายเป็นนกสองหัวบ่าวสองนายด้วยเพราะน้ำเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มนชนก (วิภาวี  ศิริมะณีวัฒนา) ลูกสาวของปริกซึ่งมีนิสัย รักสบาย ใฝ่สูงเกินตัว และมักจะใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ปริกจึงต้องคอยหาเงินมาบำรุงบำเรอลูกสาวใจแตกคนนี้

ทันทีที่ต่อตระกูลหายเป็นปกติ ทอรุ้งจึงประกาศตัวขึ้นรับตำแหน่งต่อจากนเรนทร แล้วแต่งตั้งต่อตระกูลให้เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สร้างความแค้นอกแค้นใจให้กับกรองกาญจน์เป็นอย่างยิ่ง  ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้กรองกาญจน์พยายามเกลี้ยกล่อมทอรุ้งให้เซ็นมอบตำแหน่งกรรมการผู้จัดการให้กับตนแทนตำแหน่งรองกรรมการฯ ทอรุ้งตัดแขนตัดขาของกรองกาญจน์ไปได้หลายส่วนจากคำแนะนำของพงศ์เกียรติ ทำให้สาวใหญ่แทบกระอัก ด้านก้องกฤตก็แค้นใจหญิงสาวอยู่ไม่น้อยที่ถูกลดอัตราเงินเดือนในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของโรงแรม ชายหนุ่มจึงเร่งให้ผู้เป็นแม่กำจัดทอรุ้งด้วยวิธีการเดียวกันกับนเรนทร

คำสั่งโยกย้าย การปรับเปลี่ยนระบบบริหารของทอรุ้ง กลายเป็นที่กล่าวขานและโจษจันของเหล่าพนักงาน บ้างก็เห็นดีเห็นงามบ้างก็ตั้งข้อรังแครังคัดหญิงสาวเพราะมันเหมือนกับการฉีกหน้ากรองกาญจน์จนไม่มีชิ้นดี ยิ่งไปกว่านั้นต่อตระกูลเข้ามาใกล้ชิดทอรุ้งมากขึ้น เพราะคิดว่าอย่างน้อยหากมีเขาอยู่ใกล้เธอ แม่ของเขาอาจจะไม่กล้าทำอะไรรุนแรงมากนัก ทอรุ้งแกล้งถือโอกาสใช้ต่อตระกูลเหมือนกับคนรับใช้ส่วนตัว ทั้งชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร หาอาหาร 3 มื้อ และยังมีหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับทอรุ้ง แถมยังต้องวิ่งหาซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับหญิงสาวในบางครา ซึ่งต่อตระกูลรู้ดีว่าที่ทอรุ้งทำแบบนี้ก็เพื่อต้องการทำให้แม่ของเขานั้นขายหน้า แต่เขาก็ยอมอดทนเพื่อให้ทอรุ้งไว้ใจและเชื่อคำเตือนของเขา

ทอรุ้งคิดจะจับผิดกรองกาญจน์เรื่องกิจการบัตเตอร์ฟลายทัวร์ซึ่งกรองกาญจน์ร่วมเป็นหุ้นส่วนด้วย จึงชวนเปรมยุดาไปสืบหาความจริงจากโรงแรมคู่สัญญาของบัตเตอร์ฟลายทัวร์ที่เขาใหญ่ โดยมีต่อตระกูลเป็นผู้ติดตาม ทอรุ้งพบสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง กรองกาญจน์รู้เข้าจึงให้คมชิตส่งสมุนมาจัดการจับตัวทอรุ้งไปหวังฆ่าหมกป่า แต่ต่อตระกูลตามไปช่วยไว้ทันเวลาและพาตัวทอรุ้งกลับมาได้ ท่ามกลางความโล่งใจของเปรมยุดาที่เป็นห่วงหลานสาวจับใจ แม้ทอรุ้งจะแอบประทับใจที่ต่อตระกูลช่วยชีวิตเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอยังดักคอเขาว่าอย่าคิดว่าเธอจะไว้ใจเขามากขึ้นกว่าเดิม เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกของศัตรู

เมื่อทอรุ้งกลับจากเขาใหญ่ เธอก็สั่งปลด รติรส  ออกจากการเป็นผู้ช่วยของกรองกาญจน์ ทำให้พนักงานในเครือวิเศษเวโรจน์พาณิชย์ยอมศิโรราบต่อทอรุ้ง หลังจากที่ทุกคนพากันแข็งข้อตามแรงยุของก้องกฤต จนแม้แต่ต่อตระกูล เปรมยุดา และพงศ์เกียรติก็คาดไม่ถึง ทอรุ้งแสดงการใช้อำนาจของการเป็นกรรมการผู้จัดการอีกครั้งด้วยการสั่งยกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับ บัตเตอร์ฟลายทัวร์ เพราะข้อสัญญาที่ระบุไว้ บัตเตอร์ฟลายทัวร์ค่อนข้างเอารัดเอาเปรียบ มิหน้ำซ้ำยังติดค้างค่าที่พักกับทางโรงแรมมากว่า 1 ปี ทั้งๆ ที่ทอรุ้งสืบทราบมาว่าบัตเตอร์ฟลายทัวร์มีผลกำไรต่อปีกว่าหลายล้านบาท

กรองกาญจน์แทบอยากจะฉีกทอรุ้งออกเป็นชิ้นๆ ที่ตัดช่องทางทำมาหากินของหล่อนอย่างไม่ไว้หน้า เมื่อหล่อนเห็นว่าน้ำกำลังเชี่ยวจึงไม่คิดที่จะเอาเรือเข้าไปขวาง อีกทั้งติดขัดที่ต่อตระกูลคอยทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองอยู่ สาวใหญ่จึงเปลี่ยนแผนมาใช้ไม้นวม แกล้งยอมอ่อนข้อให้กับทอรุ้งเพื่อต้องการให้หญิงสาวตายใจ กรองกาญจน์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้หัวใจที่แข็งกร้าวของทอรุ้งหวั่นไหว สาวใหญ่แสร้งไปเยี่ยมนเรนทร อ่านหนังสือให้ฟัง พาเดินเล่น ปรนนิบัติหนุ่มใหญ่เฉกเช่นผู้เป็นภรรยา โดยให้เหตุผลว่าอยากช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของทอรุ้งที่หล่อนรักดุจลูกหลานคนหนึ่งบ้าง ด้านก้องกฤตก็แสร้งทำเป็นเอาการเอางานตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ ส่วนต่อตระกูลนั้นกรองกาญจน์ใช้เป็นแหล่งข่าวสอบถามความเคลื่อนไหวของทอรุ้ง

การเฝ้าปกป้องทอรุ้งของต่อตระกูลทำให้คนทั้งสองผูกพันกันโดยไม่รู้ตัว ทิพย์วารี ลูกสาวของคมชิต ซึ่งกรองกาญจน์หวังจะจับคู่ให้ต่อตระกูล พอรู้ระแคะระคายว่าต่อตระกูลเริ่มสนใจในตัวของทอรุ้งก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง ลึกๆ แล้วต่อตระกูลก็อิ่บเอิ่บใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ใกล้ชิดกับทอรุ้ง แม้หญิงสาวมักจะทำตัวดื้อแพ่งไม่เชื่อคำตักเตือนของเขาก็ตาม ในยามเมื่อเธอพยายามค้นหาความจริงอาการป่วยของผู้เป็นพ่อจากเขา

ทอรุ้งยังไม่ไว้ใจกรองกาญจน์นัก แต่เธอก็เลิกจับผิดกรองกาญจน์ไปชั่วคราว หันมาเอาใจใส่พ่อมากขึ้น เมื่อเห็นนเรนทรอาการดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ แม้หนุ่มใหญ่จะจำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้ทั้งหมด แต่เขาก็จำลูกสาวอันเป็นที่รักของเขาได้เป็นอย่างดี สร้างความดีใจให้กับทอรุ้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเธอจะมีโอกาสขอโทษผู้เป็นพ่อหลังจากที่เคยทะเลาะกันอย่างรุนแรงมาแล้ว สิ่งที่น่าปลาบปลื้มใจเป็นที่สุดมันยังทำให้สายสัมพันธ์ของพ่อลูกเริ่มกลับมาแน่นแฟ้นดังเดิม ทอรุ้งเริ่มเชื่อว่าที่พ่อเธออาการดีขึ้นนั้นเป็นเพราะได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์กับลูกสาวที่จากกันไปหลายปี โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รู้ว่าแท้จริงแล้วที่นเรนทร อาการดีขึ้นนั้นก็เพราะกรองกาญจน์ สั่งให้ หมอพิธานงดฉีดยากล่อมประสาทให้กับหนุ่มใหญ่ชั่วคราว ต่อตระกูลรู้ดีว่าไม่มีวันที่แม่ของเขานั้นจะยอมอ่อนข้อให้กับใครได้ง่ายๆ ทางเดียวที่เขาพอจะช่วยทอรุ้งได้ก็คือคอยเตือนสติให้หญิงสาวระวังตัวทุกฝีก้าว

แล้วในที่สุดทอรุ้งก็ตกหลุมพรางที่กรองกาญจน์ได้ขุดดักไว้ เมื่อสาวใหญ่นำหลักฐานที่นเรนทร ซื้อหุ้นของบริษัทกลับคืนมาจาก เสี่ยเวคิน เจ้าของบ่อนการพนันที่พงศ์เกียรติใช้หุ้น 10 เปอร์เซนต์ของตนเองชำระหนี้การพนันกว่า 20 ล้านบาทภายในบ่อนมาให้กับหญิงสาว และทันทีที่ทอรุ้งเห็นเอกสารทั้งหมด เธอจึงไม่มั่นใจว่าแท้จริงแล้วใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังอาการป่วยพ่อของเธอ อาจจะเป็นพงศ์เกียรติก็อาจเป็นได้ เพราะการพนันอาจทำลายมิตรภาพความเป็นเพื่อนระหว่างคนทั้งสอง

ทอรุ้งพยายามคาดคั้นผู้เป็นพ่อถึงอาการป่วยที่เกิดขึ้น แต่นเรนทรก็ไม่สามารถบอกความจริงแก่ลูกสาวได้เพราะพิธานคอยควบคุมเขาตลอดเวลา มิหนำซ้ำพิธานยังขู่ว่าหากเขาพูดอะไรมากจนเกินไปจะเพิ่มปริมาณยาที่ฉีดขึ้นอีกเป็นเท่าทวีคูณ จนยากแก่การรักษาและจะกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนตลอดชีวิต ที่สำคัญที่สุดความรักระหว่างพ่อกับลูกก็จะหายสาบสูญไปตลอดกาล

เมื่อเหยื่อติดกับกรองกาญจน์ก็ไม่ยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปแม้เพียงเสี้ยวเดียวเพื่อการทำลาย  สาวใหญ่สั่งให้ปริกใส่ยากล่อมประสาทลงไปในอาหารให้ทอรุ้งทานเฉกเช่นเดียวที่เคยทำกับนเรนทร เพราะทอรุ้งไว้ใจปริกซึ่งเป็นแม่บ้านเก่าแก่ ปริกทำตามคำสั่งของกรองกาญจน์อย่างเคร่งครัดเพราะค่าเหนื่อยในครั้งนี้หล่อนหมายจะเก็บไว้เป็นทุนสำรองให้กับมนชนก ซึ่งกำลังคบหาอยู่กับภุชงค์ หนุ่มใหญ่เจ้าของสปาและเตรียมจะร่วมหุ้นกับเขา เพียงไม่นานทอรุ้งก็ล้มป่วยลง หญิงสาวคิดว่าคงเป็นเพราะโหมงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน แต่ต่อตระกูลนั้นกลับคิดตรงกันข้ามหญิงสาวเพราะอาการของทอรุ้งเหมือนกับอาการป่วยของนเรนทร ต่อตระกูลจึงรีบไปคาดคั้นความจริงจากกรองกาญจน์ แต่กรองกาญจน์อ้างว่าเป็นเพราะทอรุ้งเครียดเกินไป ต่อตระกูลไม่เชื่อ สามแม่ลูกจึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก้อง กฤตต่อว่าต่อตระกูลอย่างสาดเสียเทเสียถึงความอกตัญญู จนเกือบจะเกิดสงครามระหว่างพี่น้อง กรองกาญจน์จึงยุติเรื่องทั้งหมดด้วยการประกาศก้องว่า หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป นับแต่บัดนี้เธอจะไม่มีลูกชายที่ชื่อต่อตระกูลอีกต่อไป ทำให้ต่อตระกูลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ก้องกฤตสงสัยว่าทำไมกรองกาญจน์จึงไม่หว่านล้อมให้ต่อตระกูลร่วมมือด้วย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นแม่ลูกกัน กรองกาญจน์จึงเปิดเผยว่า ที่แท้แล้วต่อตระกูลเป็นเพียงลูกติดสามีเก่าที่เสียชีวิตไปแล้วของกรองกาญจน์ หล่อนจึงไม่มีความผูกพันทางสายเลือดใดๆ กับเขา สิ่งที่กรองกาญจน์ทำไปก็เพื่อตัวเองกับก้องกฤต ลูกชายที่แท้จริงเท่านั้น ต่อตระกูลแอบได้ยินเข้าจึงเสียใจมาก ความจริงที่รับรู้ไม่ได้ทำให้เขารักแม่กับน้องน้อยลง แต่ทำให้เขายิ่งอยากจะช่วยทอรุ้งเพื่อไม่ให้ทั้งสองทำผิดไปมากกว่านี้

ทอรุ้งบอกให้ปริกติดต่อ นพดนัย หมอประจำตระกูลมาตรวจร่างกายของเธอ แม่บ้านใหญ่จึงรีบโทรรายงานกรองกาญจน์ให้ได้รับรู้ สาวใหญ่จึงสั่งให้คมชิตและลูกน้องไปจัดการนพดนัย ไม่ให้สามารถมารักษาทอรุ้งได้ตามความต้องการหญิงสาว ก่อนจะแกล้งรุดไปเยี่ยมทอรุ้งด้วยความห่วงใย แล้วอาสาหาหมอมือหนึ่งมาตรวจรักษาทอรุ้งแทนนพดนัย ที่ประสบอุบัติจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน แต่เปรมยุดากลับปฏิเสธข้อเสนอของกรองกาญจน์เพราะกลัวว่าหลานสาวจะมีสภาพเหมือนผู้เป็นน้องชาย เพียงข้ามคืนทอรุ้งก็ได้รับข่าวร้ายว่าผู้เป็นป้าพลัดตกลงมาจากคอนโดจนถึงแก่ความตาย ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากชายหนุ่มคู่ขาที่เปรมยุดามักซื้อบริการมาจากคลับเฮ้าส์ชั้นหรูของบรรดาสาวแก่แม่ม่ายไฮโซ สร้างความเสียใจให้กับทอรุ้งเป็นยิ่งนัก อีกทั้งปริกยังคอยวางยาตามคำสั่งของกรองกาญจน์ จึงยิ่งทำให้ร่างกายและจิตใจของทอรุ้งทรุดหนักลงเรื่อย ๆ ด้วยความละอายที่มีต่อทอรุ้ง ต่อตระกูลจึงอาสามาดูแลหญิงสาวอย่างใกล้ชิด ทำให้กำแพงหัวใจของเธอสั่นคลอนและพังทลายลงทีละน้อยๆ  ระหว่างนั้นเขาก็คอยสืบหาสาเหตุอาการป่วยของหญิงสาวให้กระจ่าง จนเกือบจะพบความจริงว่าปริกเป็นคนวางยา  แต่ทิพย์วารีเข้ามาแทรกกลางระหว่างต่อตระกูลและทอรุ้งเสียก่อน โดยแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต่อตระกูลคือสมบัติของเธอแต่เพียงผู้เดียวทำให้ทอรุ้งหงุดหงิดและอารมณ์แปรปรวน จึงเกิดการทุ่มเถียงกับต่อตระกูลและเธอไล่เขาออกไปจากบ้าน ไม่ให้เข้ามาวุ่นวายกับเธออีก

มนชนกถูกภุชงค์หลอกให้ลงขันร่วมหุ้นแล้วเชิดเงินหนีไปจนหมดเนื้อหมดตัว แถมเป็นหนี้เป็นสินมากมาย ปริกขอเงินเพิ่มจากกรองกาญจน์แต่หล่อนไม่ยอมให้ เพราะที่เคยให้ปริกไปก็มากพอแล้ว และงานกำจัดทอรุ้งก็ยังไม่สำเร็จตามเป้าหมาย มนชนกเสียใจคิดจะฆ่าตัวตายแต่ทอรุ้งมาช่วยไว้ทัน มนชนกจึงตัดสินใจบอกความจริงให้ทอรุ้งได้รู้ว่าปริกเป็นคนวางยาตามคำสั่งของกรองกาญจน์ ทอรุ้งจะไปจัดการกับกรองกาญจน์โดยใช้ปริกเป็นพยานสำคัญ แต่ก็ไม่ทันที่ลูกสมุนของคมชิตเข้ามาจับตัวทอรุ้งไว้ให้หมอพิธานฉีดยากล่อมประสาทอย่างแรงให้ จนหญิงสาวหมดสติไป ต่อตระกูลไม่สามารถติดต่อทอรุ้งได้และเข้าบ้านไม่ได้ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

อาการของทอรุ้งทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นเพ้อและประสาทหลอน กรองกาญจน์จึงไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป สาวใหญ่จัดแถลงข่าวผลประกอบการของธุรกิจตระกูลวิเศษเวโรจน์ในไตรมาสสุดท้ายแก่สื่อมวลชนและผู้ร่วมธุรกิจในทุกแขนง โดยจัดฉากให้ทอรุ้งเข้ามาร่วมในงานเพื่อหวังทำลายภาพพจน์และความน่าเชื่อของหญิงสาว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ต้องการ เมื่อจู่ๆ ทอรุ้งก็เกิดอาการประสาทหลอนว่ามีคนจะมาฆ่าเธอเพื่อฮุบบริษัท สร้างความแตกตื่นให้กับแขกที่มาร่วมงาน แล้วข่าวของเธอก็กลายเป็นข่าวใหญ่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจเกือบทุกฉบับ พิธานแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนถึงอาการของทอรุ้งว่า คงด้วยเพราะความเครียดในเรื่องงานและอาการป่วยของผู้เป็นพ่อ จึงทำให้หญิงสาวมีอาการทางระบบประสาท จำเป็นจะต้องเข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาลโรคประสาทเป็นการด่วนจนกว่าอาการจะกลับมาเป็นปกติดังเดิม

เมื่อทอรุ้งไม่สามารถมาบริหารงานได้ กรองกาญจน์จึงประกาศตัวรับอาสาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการแทนทอรุ้งชั่วคราว จนกว่าหญิงสาวจะหายเป็นปกติ แล้วแต่งตั้งให้ก้องกฤตเป็นผู้ช่วย ก่อนจะรื้อระบบงาน โยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่ทอรุ้งวางไว้ จนสร้างความวุ่นวายให้กับเหล่าพนักงานไปทั่วทุกหัวระแหง ทอรุ้งอาละวาดหนักเมื่อถูกจับตัวส่งมาอยู่ในโรงพยาบาลโรคประสาท เธอพยายามพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้บ้าอย่างที่พิธานกล่าวหาแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเธอเลย นอกจากต่อตระกูล เขามาเยี่ยมทอรุ้งแต่กลับทำให้เธอมีอาการหงุดหงิดคลุ้มคลั่ง ยิ่งไปกว่านั้นอาการพ่อของเธอกลับทรุดลงไปอีก จึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นคนแปลกหน้าในสายตาของผู้เป็นพ่อ พงศ์เกียรติเมื่อรู้ข่าวจึงรีบรุดมาเยี่ยมทอรุ้งด้วยความห่วงใยพร้อมกับยอมรับว่าตนเคยติดการพนันเพราะการชักจูงของกรองกาญจน์ วินาทีนั้นทอรุ้งจึงได้รู้ว่าเธอตกหลุมพรางอันแยบยลของกรองกาญจน์เข้าเสียแล้ว ร้ายยิ่งไปกว่านั้นกรองกาญจน์ยังให้ คฑาวุธ (กิตติพล  เกศมณี)ทนายความประจำตระกูลยื่นคำร้องต่อศาลว่าทอรุ้งเป็นบุคคลไร้ความสามารถ ขออำนาจศาลแต่งตั้งให้เธอเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ทั้งหมดของวิเศษเวโรจน์แต่เพียงผู้เดียว

ต่อตระกูลพยายามช่วยทอรุ้งโดยวางแผนพาเธอหนีออกจากโรงพยาบาล เพื่อไปรักษาตัวที่อื่น แต่ก็ล้มเหลวเมื่อถูกผู้ช่วยของพิธานจับได้ พิธานจึงจับทอรุ้งไปแยกขังเดี่ยวแล้วเพิ่มปริมาณยาที่ฉีดให้กับหญิงสาวเป็นสองเท่า เพื่อทำให้ศาลเห็นว่าทอรุ้งเป็นบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งก็เป็นไปตามที่กรองกาญจน์ต้องการทิพย์วารีน้อยใจต่อตระกูลเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มทุ่มเทเวลาเอาใจใส่ดูแลทอรุ้ง จนลืมวันเกิดของเธอ ด้วยความช้ำชอกหญิงสาวจึงใช้เหล้าเป็นที่พึ่ง ความไร้สติทำให้เธอเผลอตัวเผลอใจให้กับ ก้องกฤตซึ่งหมายมั่นเด็ดหญิงสาวมาเชยชมตั้งแต่แรกเห็น

ความใกล้ชิดและความผูกพัน ที่ต่อตระกูลมีต่อทอรุ้งทำให้ชายหนุ่มคิดหาทางช่วยเหลือหญิงสาว เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่าทอรุ้งไม่ได้วิกลจริตเหมือนที่กรองกาญจน์และพิธานกล่าวหา  แต่แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ต้องมีอันสั่นคลอนเมื่อ เอกวีร์ แพทย์หนุ่มรุ่นน้องของพิธานซึ่งย้ายมาจากต่างจังหวัดมีโอกาสได้รู้จักกับทอรุ้ง

พิธานยกหน้าที่ดูแลทอรุ้งให้กับเอกวีร์ ความใกล้ชิดและความสงสารทำให้ชายหนุ่มหลงรักหญิงสาวจนหมดหัวใจแต่ทอรุ้งคิดว่าเอกรวีร์อาจจะเป็นพวกเดียวกับพิธานจึงทำตัวเย็นชากับชายหนุ่ม เอกวีร์เริ่มสงสัยในอาการของทอรุ้ง บางครั้งก็ดูเหมือนคนปกติ บางครั้งก็อาละวาดราวกับคนวิกลจริต ยิ่งไปกว่านั้นการบำบัดของพิธานกลับยิ่งทำให้อาการของทอรุ้งแย่ลง แล้ววันหนึ่งเอกวีร์ก็ได้พบกับคำตอบแรกเมื่อเขาแอบตาม กิ่งแก้ว พยาบาลสาวที่ถูกซุบซิบนินทาจากบรรดาเหล่าเพื่อนร่วมงานว่าเป็นคู่ขาของพิธานไปฉีดยาให้กับทอรุ้ง เอกวีร์แปลกใจเป็นที่สุดว่าทำไมพิธานถึงให้กิ่งแก้วฉีดยากล่อมประสาทในปริมาณที่มากเกินผิดปกติเพราะอาการของหญิงสาวไม่น่าจะร้ายแรงอย่างที่คิด

เอกวีร์แอบเข้าไปค้นห้องของพิธานเพื่อหาประวัติและบันทึกการรักษาของทอรุ้ง และในที่สุดเขาก็ได้พบกับคำตอบที่สอง เมื่อบันทึกการให้ยากล่อมประสาทในการบำบัดทอรุ้งผิดปกติจากที่เขาเคยรักษาผู้ป่วยมา และยิ่งเมื่อเอกวีร์รู้ประวัติของทอรุ้งอย่างคราวๆ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกใจเป็นที่สุดเมื่อสองพ่อลูกถูกส่งเข้าบำบัดในโรงพยาบาลเดียวกันแถมยังมีอาการป่วยที่เหมือนกันอย่างน่าประหลาด เอก วีร์จึงตัดสินใจถามเรื่องราวของทอรุ้งจากต่อตระกูลเพราะเขาสัมผัสได้ว่าต่อตระกูลมีความรู้สึกที่พิเศษต่อทอรุ้งเช่นกัน

ด้านต่อตระกูลเมื่อเห็นหลักฐานที่เอกวีร์แอบทำสำเนามาจากพิธาน จึงเชื่อมั่นว่าชายหนุ่มไม่ได้ตกเป็นเครื่องมือของนายแพทย์ใจทรามอย่างแน่นอน ก่อนจะตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับทอรุ้งด้วยความละอายใจ เพราะแม่ของเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายทั้งหมด ซึ่งนั่นก็ทำให้เอกวีร์พบกับคำตอบสุดท้ายว่าเพราะเหตุใดพิธานถึงทำให้อาการทอรุ้งกลับแย่ลง ต่อตระกูลและเอกวีร์จึงตัดสินใจที่จะร่วมมือกันช่วยทอรุ้งพิสูจน์ตัวเองว่าเธอไม่ได้บ้าอย่างที่ถูกกล่าวหาและพร้อมที่จะบริหารงานต่อจากนเรนทร ทอรุ้งเมื่อรู้ว่าเอกวีร์มีใจบริสุทธิ์ที่จะช่วยเหลือเธอ เธอจึงยอมเปิดใจให้กับชายหนุ่ม

เอกวีร์วางแผนขอบำบัดทอรุ้งด้วยตนเอง พิธานไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีเล่ห์กลแอบซ่อนอยู่จึงยอมตกลง โดยมีข้อแม้ว่ากิ่งแก้วต้องเป็นผู้ดูแลเรื่องการฉีดยากินยาของทอรุ้งเพียงคนเดียวเท่านั้น เอกวีร์ตกลงตามข้อเสนอแต่พิธานคงคิดไม่ถึงว่าเอกรวีร์ได้วางแผนแอบเปลี่ยนยากล่อมประสาทให้กลายเป็นยาบำรุงให้กับทอรุ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พิธานแอบดูการบำบัดของเอกวีร์ ซึ่งก็เป็นไปตามแผนที่เอกวีร์วางไว้ให้ทอรุ้งแกล้งอาละวาดหนักขึ้น เมื่อพิธานเห็นว่าไม่มีอะไรผิดสังเกตจึงปล่อยหน้าที่บำบัดทอรุ้งให้กับเอกวีร์อย่างเต็มตัว

อาการของทอรุ้งเริ่มกลับคืนเป็นปกติ ต่อตระกูลจึงช่วยทอรุ้งวางแผน โดยเขาไปพบกับพงศ์เกียรติ เพื่อขอให้ช่วยทอรุ้งรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับกรองกาญจน์ที่หมายจะฮุบกิจการทั้งหมดที่เป็นของวิเศษเวโรจน์และให้หมอจิตแพทย์ยืนยันว่าทอรุ้งไม่ได้วิกลจริตอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งต่อตระกูลมีเงื่อนไขว่าหากทอรุ้งได้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมาแล้ว จะไม่ฟ้องร้องเอาผิดใด ๆ กับกรองกาญจน์ และเขาจะขอให้กรองกาญจน์ถอนหุ้นทั้งหมดและวางมือเอง

ต่อตระกูลคิดว่าทอรุ้งดำเนินไปตามแผนที่ร่วมวางกันไว้คือให้พงศ์เกียรติช่วย แต่ทอรุ้งกลับหาได้ดำเนินตามแผนไม่ ด้วยความความแค้นที่เข้าครอบงำจิตใจของหญิงสาว ทอรุ้งจึงตัดสินใจเลือกที่จะให้บทเรียนอันสาสมกับทุกคนที่ทำให้เธอและผู้เป็นพ่อต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เธอแอบหนีออกจากโรงพยาบาลโดยให้เอกวีร์และไหมแก้วช่วยปิดบังเวลาที่กิ่งแก้วมาตรวจเป้าหมายแรกที่จะได้รับบทเรียนอันสาสมจากทอรุ้ง คือเทวัญ และ วิษณุ โดยทอรุ้งสืบทราบมาว่าทั้งคู่แอบชอบโคโยตี้สาวคนเดียวกัน ทอรุ้งจึงวางแผนเสี้ยมให้ทั้งสองต้องเปิดศึกชิงนาง ในที่สุดสองเพื่อนรักก็ยิงกันตายเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว คมชิตจึงขาดสมุนคู่ใจโดยไม่รู้ว่าทอรุ้งคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของสมุนทั้งสอง

ด้านทิพย์วารีเมื่อพยายามตัดใจจากต่อตระกูลและรู้ว่าตนเองตั้งท้องได้สองเดือนกับก้องกฤตจึงรีบไปปรึกษากับชายหนุ่ม แต่ก้องกฤตปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ ทิพย์วารีจึงขู่ว่าหากก้องกฤตไม่รับผิดชอบลูกในท้อง เธอจะเปิดโปงเรื่องทั้งหมดของกรองกาญจน์ ความกลัวทำให้ก้องกฤตคิดจะทำลายลูกในท้องของทิพย์วารีเพื่อไม่ให้หญิงสาวนำมาเป็นข้อต่อรองได้ ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถพุ่งชนทิพย์วารีขณะที่กำลังเดินข้ามถนนหลังจากเข้าไปฝากครรภ์ที่คลินิก โดยที่ก้องกฤตก็ไม่มีโอกาสได้รู้ว่าพฤติกรรมอันเลวทรามในครั้งนี้ของเขา ทอรุ้งซึ่งกำลังแอบติดตามทิพย์วารีอยู่นั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเก็บไว้ทุกขั้นตอน คมชิตแค้นใจมากประกาศก้องว่าจะนำไอ้อีที่ขับรถชนลูกสาวอันเป็นที่รักของเขา จนต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องแถมยังต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามาลงโทษให้สาสม แต่สิ่งที่คมชิตประหลาดใจมากที่สุดก็คือใครคือพ่อของเด็กที่อยู่ในท้อง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาทิพย์วารีก็ไม่เคยให้ความสนิทสนมกับชายหนุ่มคนไหนเป็นพิเศษนอกจากต่อตระกูล คมชิตจึงเริ่มสงสัยในตัวเขาและคอยจับตาต่อตระกูล เมื่อเห็นชายหนุ่มไปเยี่ยมทอรุ้งบ่อย ๆ จึงเข้าใจว่าอาจเป็นเพราะต่อตระกูลทำให้ทิพย์วารีท้องแต่ไม่ยอมรับ เพราะแท้จริงแล้วต้องการจะจับทอรุ้ง คมชิตจึงคาดคั้นจากต่อตระกูล แต่เขาปฏิเสธ ทำให้คมชิตไม่พอใจมาก

นเรนทรอาการค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากที่เอกวีร์แอบสับเปลี่ยนยาจากกิ่งแก้ว แต่หากยามใดที่พิธานมาตรวจอาการ หนุ่มใหญ่ก็จะแกล้งคลุ้มคลั่งตามแผนการของต่อตระกูลและเอกวีร์เพื่อประวิงเวลาให้ทอรุ้งหาหลักฐานมัดตัวกรองกาญจน์และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ทอรุ้งแกล้งให้เอกวีร์พาเธอไปเยี่ยมผู้เป็นพ่อ นเรนทรดีใจมากเมื่อรู้ว่าอาการของลูกสาวหายเป็นปกติ แต่ลึกๆ แล้วหนุ่มใหญ่เสียใจเป็นที่สุดเมื่อเขาเป็นต้นเหตุให้รุ้งที่มีสีสันงดงามเส้นนี้ มัวหมองและแตกร้าวเพราะปล่อยให้ไฟแห่งความแค้นเข้าครอบงำ ยิ่งเมื่อทอรุ้งให้สัญญากับเขาว่าอีกไม่นานทุกอย่างจะกลับมาเป็นของวิเศษเวโรจน์ดังเดิม ก็ยิ่งทำให้ความห่วงใยที่นเรนทรมีต่อทอรุ้งเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าทวีคูณ นเรนทรพอจะอ่านใจของต่อตระกูลและเอกวีร์ออกจึงฝากฝังให้ทั้งคู่ดูแลทอรุ้งแทนตน

ทอรุ้งรู้จากต่อตระกูลว่าเขาถูกคมชิตสงสัยว่าเป็นพ่อในท้องของทิพย์วารีและอาจจะเป็นคนทำร้ายทิพย์วารีด้วย จึงตัดสินใจส่งภาพถ่ายที่บันทึกเหตุการณ์ในวันนั้นเข้ามือถือของคมชิต ในที่สุดคมชิตจึงได้รู้ว่าใครคือพ่อของเด็กในท้องของทิพย์วารี หนุ่มใหญ่แค้นใจมากจึงเตรียมบทเรียนอันสาสมให้กับก้องกฤต คมชิตชวนก้องกฤตมาดื่มสังสรรค์ที่บ้าน ก่อนจะแอบใส่ยาบ้าไว้ในแก้วเหล้าและในรถของชายหนุ่มแล้วส่งข่าวให้กับสายตรวจ ก้องกฤตถูกจับด้วยข้อหามียาบ้าไว้เสพและครอบครอง กรองกาญจน์ร้อนใจมากสั่งให้คมชิตหาทางช่วยเหลือก้องกฤตให้ออกจากคุกเร็วที่สุด โดยที่สาวใหญ่ไม่รู้ว่ามันเป็นแผนการของคมชิตทั้งหมด ความแค้นที่ร้อนรุ่มสุมอกคมชิตจึงบอกให้ผู้เป็นเพื่อนที่ทำงานอยู่ในเรือนจำให้บทเรียนราคาแพงกับก้องกฤต เพียงไม่ทันข้ามอาทิตย์หลังจากถูกขาใหญ่ในคุกรับน้องใหม่ก้องกฤตก็ได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล หัวอกคนเป็นแม่อย่างกรองกาญจน์แทบสลายเมื่อเห็นลูกชายต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุก ต่อตระกูลเสียใจไม่แพ้ผู้เป็นแม่ที่น้องชายต้องหมดอนาคตลงเช่นนี้ ด้านคมชิตก็แสร้งทำเป็นเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พิธานเริ่มสงสัยว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับทุกคนที่ทำให้ วิเศษเวโรจน์ต้องพบกับชะตากรรมอันโหดร้าย เขาจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับกรองกาญจน์และคมชิต เมื่อพิธานตั้งข้อสงสัยไปยังทอรุ้งคมชิตจึงรีบสนับสนุนอีกแรงเพื่อเบนความสนใจ  กรองกาญจน์เห็นด้วยจึงสั่งให้คมชิตตามสืบ พิธานอาสาช่วยอีกแรง

ต่อตระกูลและเอกวีร์ก็เริ่มสงสัยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของใคร ต่อตระกูลจึงโทรไปถามความคืบหน้าในการรวบรวมหลักฐานจากพงศ์เกียรติ และในที่สุดชายหนุ่มก็ได้รู้ความจริงว่าทอรุ้งไม่เคยไปขอความช่วยเหลือจากพงศ์เกียรติเลย วันหนึ่งเขาจึงแอบติดตามทอรุ้งไปจึงได้รู้ว่าเธอกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรมของคมชิต ด้วยความรักและความห่วงใยที่มีต่อทอรุ้ง ต่อตระกูลจึงต่อว่าหญิงสาวอย่างรุนแรง ทอรุ้งโกรธมากเลยพาลต่อว่ากรองกาญจน์ที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอและพ่อต้องพบกับชะตากรรมอันเลวร้าย ทั้งสองทะเลาะกัน จนพิธานได้ยินเข้าจึงรู้ความจริงทั้งหมด และตามสืบจนรู้ว่าเอกวีร์กำลังจะใช้ไหมแก้วเป็นพยานในการเปิดเผยพฤติกรรมโฉดของตนด้วย

ด้วยความโกรธที่ถูกหลอกราวกับเป็นคนโง่ พิธานจึงย้อนรอยแอบเข้าไปฉีดยาให้กับไหมแก้วเพื่อเป็นการสั่งสอน ไหมแก้วเห็นภาพหลอนที่เกิดขึ้นด้วยความกลัวจึงตัดสินใจโดดตึกลงมาตายอย่างน่าอนาถ ทอรุ้งเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนต้องมาตาย เพราะไหมแก้วคืออีกหนึ่งพยานปากเอกที่จะเผยธาตุแท้ของพิธานว่ามีพฤติกรรมอันเลวทราม มักแอบลอบฉีดยาให้กับคนไข้สาวที่สวยต้องตา ก่อนจะลงมือข่มขืนราวกับสัตว์ป่าที่หิวโหยและไหมแก้วคือหนึ่งคนไข้สาวในจำนวนนั้น

ทอรุ้งถูกกักบริเวณและห้ามเยี่ยม ส่วนเอกวีร์ก็ถูกพิธานสั่งพักงานก่อนจะยื่นหนังสือเพิกถอนใบประกอบอาชีพโดยอ้างว่าเอกรวีร์ทำผิดกฏโรงพยาบาล และทำตัวไม่เหมาะสมใช้กำลังลวนลามพยาบาลสาวซึ่งก็เป็นฝีมือของพิธานและกิ่งแก้วที่วางแผนไว้ทั้งหมด พิธานให้กิ่งแก้วเพิ่มปริมาณยาที่ฉีดให้กับสองพ่อลูก ต่อตระกูลพยายามช่วยทอรุ้ง เขาจับจุดอ่อนของกิ่งแก้วได้ว่าเป็นคนขึ้หึง ขี้ระแวง และไม่ชอบให้ใครนินทาเรื่องของเธอลับหลัง จึงเสี้ยมให้กิ่งแก้วแตกคอกับพิธานและแฉพฤติกรรมอันเลวทรามให้เธอได้รับรู้ กิ่งแก้วไม่เชื่อจึงพยายามค้นหาความจริงด้วยตนเอง ในที่สุด

กิ่งแก้วก็แทบช็อคเมื่อเห็นพิธานแอบเข้าไปในห้องผู้ป่วยสาวแล้วฉีดยากล่อมประสาทก่อนจะลงมือข่มขืนอย่างป่าเถื่อน กิ่งแก้วต่อว่าพิธานอย่างรุนแรง ความโกรธทำให้พิธานลงไม้ลงมือกับพยาบาลสาวจนสะบักสะบอม ก่อนจะกำชับให้กิ่งแก้วรูดปากให้สนิทกับภาพที่เห็นในที่สุดกรองกาญจน์ก็ได้รู้ว่าเหตุใดคมชิตจึงนิ่งเฉยไม่ยอมวิ่งเต้นเรื่องของก้องกฤต เมื่อภาพถ่ายเหตุการณ์ที่ก้องกฤตขับรถชนทิพย์วารีแล้วหนีไปปรากฏขึ้นบนจอโทรศัพท์ของหล่อน สาวใหญ่แค้นใจมากจึงสั่งให้พิธานกำจัดคมชิตเพื่อแก้แค้นให้กับลูกชาย แต่คมชิตไหวตัวทันและหนีไปเสียก่อน

ด้านกิ่งแก้วความเจ็บช้ำทำให้เธอเตรียมบทเรียนอันแสนเจ็บปวดไว้ให้กับพิธาน กิ่งแก้วแอบอัดเทปกิจกรรมโฉดของพิธานกับคนไข้สาวเพื่อนำมาเป็นข้อต่อรอง ชั้นเชิงที่ด้อยกว่ากอปรกับยังคงมีเยื่อใยกับหนุ่มใหญ่ทำให้กิ่งแก้วหลงกลพิธาน ที่สุดเธอจึงถูกชายหนุ่มอันเป็นที่รักฆ่าปิดปากตายอย่างอนาถ กรองกาญจน์สั่งให้พิธานกำจัดทอรุ้งขั้นเด็ดขาด โดยฉีดยาให้ทอรุ้งคลุ้มคลั่งจนฆ่าตัวตายเหมือนไหมแก้ว แลกกับเงินก้อนใหญ่ตามที่พิธานต้องการ  ต่อตระกูลได้ยินแผนการของกรองกาญจน์ จึงแอบเข้ามาช่วยทอรุ้งหนีออกจากโรงพยาบาล แต่ ตอนแรกเธอไม่เชื่อเขา ทั้งสองจึงทะเลาะกันจนพิธานเกือบจับได้ ต่อตระกูลพาทอรุ้งไปหลบที่รีสอร์ทริมทะเลแห่งหนึ่ง ขณะรอเวลาที่เอกวีร์จะนำเอกสารทั้งหมดที่ขโมยมาพบทอรุ้งตามนัด เพื่อส่งเป็นหลักฐานให้กับทางราชการ ต่อตระกูลเฝ้าดูแลทอรุ้งเป็นอย่างดี ระหว่างนั้นทั้งสองได้ปรับความเข้าใจและรู้สึกถึงความต้องการของหัวใจที่มีต่อกัน แต่ด้วยความแค้นที่ทอรุ้งยังคงมีอยู่กับกรองกาญจน์ผู้เป็นแม่ของเขาก็ทำให้เธอยังไม่อาจเปิดใจให้กับต่อตระกูลได้

พิธานแค้นใจมากจึงร่วมมือกับกรองกาญจน์จับตัวนเรนทรไปเป็นข้อต่อรองเพื่อแลกกับหลักฐานทั้งหมด คมชิตเฝ้าจับตามองการเคลื่อนไหวของคนทั้งสอง หนี้แค้นที่เขาต้องชำระ หนุ่มใหญ่จึงจับตัวต่อตระกูลเพื่อเป็นข้อต่อรองแลกกับเงินจำนวน 20 ล้านบาทจากกรองกาญจน์เช่นกัน

ทอรุ้งได้รู้ความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับวิเศษเวโรจน์รวมทั้งการตายของเปรมยุดาจากคมชิต กรองกาญจน์กับพิธานตามมาเอาหลักฐานจากเอกวีร์ที่มาพบกับทอรุ้ง ในขณะเดียวกัน คมชิตจับตัวต่อตระกูลมาต่อรองกับกรองกาญจน์  กรองกาญจน์ไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ตัวต่อตระกูลตามที่คมชิตร้องขอ โดยเปิดเผยความจริงว่าต่อตระกูลเป็นเพียงลูกติดจากสามีเก่า ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ

ต่อตระกูลบอกว่าเขารู้ความจริงมานานแล้ว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังรักและเคารพกรองกาญจน์เหมือนแม่แท้ ๆ ของเขาเช่นเดิม และขอบคุณที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กจนโต ที่เขาช่วยทอรุ้งก็เพราะไม่อยากให้แม่ทำผิด เขาขอให้กรองกาญจน์ยุติแผนการทั้งหมดแล้วเข้ามอบตัวเพื่อโทษหนักจะได้เป็นเบาแต่เธอไม่ยอม หวังจะฆ่าทอรุ้งให้ตายเพื่อตนจะได้ทุกอย่างตามต้องการ

นเรนทรถูกกรองกาญจน์ยิงจนได้รับบาดเจ็บเพราะเข้าไปแย่งปืนจากสาวใหญ่ที่หมายจะฆ่าทอรุ้ง แรงแค้นทำให้ทอรุ้งคว้าปืนจากเอกวีร์เพื่อหมายแก้แค้นให้กับผู้เป็นพ่อ แต่แล้วทอรุ้งก็แทบช็อคเมื่อต่อตระกูลนำร่างของเขามารับกระสุนแทนผู้เป็นแม่เลี้ยง ทอรุ้งสะสางหนี้แค้นให้วิเศษโรจน์ได้สำเร็จ คมชิตถูกกำลังตำรวจที่ดักซุ่มอยู่ถล่มยิงจนถึงแก่ความตาย พิธานรีบเก็บของเตรียมหลบหนีไปต่างประเทศ แต่ก็ถูกตำรวจจับเสียก่อน กรองกาญจน์ต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ข่าวของเธอปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้ต้องประสบกับความอับอายจนทนไม่ไหว สุดท้ายจึงตัดสินใจยิงตัวตายอย่างอนาถ

ทอรุ้งเฝ้าดูแลต่อตระกูลจนเขาพ้นขีดอันตรายก่อนจะตัดสินใจหายไปจากชีวิตชายหนุ่มด้วยความผิดที่ไม่อาจยกโทษให้กับตัวเธอเองได้ พงศ์เกียรติให้สัญญาว่าจะช่วยดูแลกิจการของวิเศษเวโรจน์จนกว่านเรนทรจะหายเป็นปกติ

1 ปีผ่านไป....

ทอรุ้งยึดอาชีพไกด์อยู่ที่เชียงใหม่โดยมีเอกวีร์คอยเป็นเพื่อนคู่คิดอยู่เคียงข้าง ต่อตระกูลยังคงไม่ลืมทอรุ้ง เมื่อรู้ความต้องการของหัวใจตนเองและลบไฟแค้นออกไปจนหมดสิ้นจึงออกตามหาทอรุ้ง แต่แล้วความหวังของเขาก็พังทลายไม่มีชิ้นดีเมื่อรู้ว่าทอรุ้งกำลังจะแต่งงานกับเอกวีร์  แต่ในขณะที่ต่อตระกูลกำลังจะเดินจากมาด้วยความช้ำชอกนั้น ชายหนุ่มก็รู้ความจริงจากเอกวีร์ว่าหญิงสาวที่เอกวีร์กำลังจะแต่งงานด้วยนั้นไม่ใช่ทอรุ้ง แต่เป็นพยาบาลที่อยู่ในสถาบันบำบัดเดียวกัน เพราะทอรุ้งยังคงมีใครคนหนึ่งอยู่ในหัวใจเสมอ ต่อตระกูลจึงกลับไปง้องอนและพิสูจน์ตนเองเพื่อขอเริ่มต้นใหม่กับเธออีกครั้ง

ทอรุ้งขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและสัญญากับต่อตระกูลว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยให้ไฟแค้นใดๆ เข้าครอบงำจิตใจของเธอได้อีกต่อไป รุ้งเส้นนี้จะกลับเป็นสายรุ้งที่มีสีสันสดใส ไม่มัวหมองหรือแตกร้าวดังเช่นที่ผ่านมา

รายชื่อนักแสดงละครเรื่อง “รุ้งร้าว”

1    พรชิตา   ณ  สงขลา        ทอรุ้ง   
2    วิทยา       วสุไกรไพศาล    ต่อตระกูล   
3    จริยา         แอนโฟเน่    กรองกาญจน์   
4    เกรียงไกร   อุณหะนันทน์    นเรนทร   
5    สุรสิทธิ์      เอี่ยมโอภาสวงศ์    ก้องกฤต   
6    เพ็ญเพ็ชร   เพ็ญกุล        หมอเอกวีร์   
7    ภาณุเดช      วัฒนสุชาติ    หมอพิธาน   
8    ปณิตา         พัฒนาหิรัญ    กิ่งแก้ว   
9    ชนานา         นุตาคม        เปรมยุดา   
10    อัญชิสา        เลี่ยวไพโรจน์    ทิพย์วารี   
11    โฉมฉาย       ฉัตรวิไล    ปริก   
12    วิทิต              แลด        คมชิต   
13    วิภาวี             ศิริมะณีวัฒนา    มนชนก   
14    บุษรา            เบ็ญจวัฒน์    ไหมแก้ว   
15    ชัชวาล          เพชรวิศิษฐ์    เทวัญ   
16    ศานติ           สันติเวชชกุล    พงษ์เกียรติ   รับเชิญ
17    ปริศนา         กล่ำพินิจ    สุวิตา        รับเชิญ
18    กิตติพล        เกศมณี    คฑาวุธ   

แนวเรื่อง    : ดราม่า ทริลเลอร์
บทประพันธ์ : กานติมา
บทโทรทัศน์ : อาณาจินต์ 
กำกับการแสดง : ชนะ คราประยูร
ดำเนินงาน : ทาริกา ธิดาทิพย์ บ. มาสเตอร์ วัน วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

รุ้งร้าว ออกอากาศ พุธ - พฤหัส เวลา 20.30 น. เริ่ม วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 ทางช่อง 3 ♦

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments