สำหรับคู่รักสามี-ภรรยาที่เรียกได้ยังคงความเสมอต้นเสมอปลายไว้อย่างคงเส้นคงวา และถือเป็นคู่รักคู่ครอบครัวที่น่าเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ สำหรับคู่ของ "บี๋-ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์" ช่างภาพมือหนึ่งของเมืองไทยที่ถ้าพูดถึงเรื่องฝีมือไม่ต้องบอกก็สามารถการันตีความมืออาชีพไว้ กับผลงานที่ออกมาได้อย่างดี กับนักแสดงเจ้าบทบาทมากความสามารถที่ยังคงความสวยและหุ่นดีอย่าง "ฮันนี่-ภัสสร บุณยเกียรติ" เพราะถึงแม้ว่าฝ่ายสามีนั้นจะต้องทำงานกับสาวๆ เซ็กซี่เป็นร้อยเป็นพัน แต่ศรีภรรยที่ดีอย่างฮันนี่นั้นก็ไม่เคยหวั่นไหวยังคงประคองตำแหน่งภรรยาสุดที่รัก และแม่ที่ดีที่สุดของลูกเอาไว้อย่างอยู่
หมัด ถึงแม้ว่าจะมีการทะเลาะกันบ้างแต่ บี๋ กับ ฮันนี่ บอกว่าไม่เคยมีสักครั้งที่จะไม่ให้อภัยกัน แถมยังเตือนหนุ่ม-สาววัยรุ่นที่รักง่ายหน่ายเร็วในปัจจุบัน อย่าริชิงสุกก่อนห่าม ต้องดูกันให้นานๆ และถ้าไม่คิดที่จะคบกันจนแต่งงาน หรือมีลูกด้วยกันนั้นก็อย่าใจด่วน กายด่วนกันก่อนเด็ดขาด
19 ปียังหวานเหมือนเดิมมั้ย
(ฮันนี่) "19 เหรอ ไม่เคยนับนะ น่าจะถึงนะ ตั้งแต่เล่นมิวสิควิดีโอ"
ทำยังไงให้ความรักถึงได้ยืนยาวถึง19 ปี
(ฮันนี่) "ก็ไม่มีเคล็ดลับอะไรมาก เราก็เห็นกันทุกวันนะ พูดถึงอย่างที่เราเจอๆ กัน ปกติเป็นคนที่ทำงานด้วยกันทั้งคู่แล้วก็มีครอบครัวแล้วก็มีลูก ก็ต้องดูแลซึ่งกันและกัน แล้วก็ไม่ได้เอาเรื่องจุ๊กจิ๊กมาเป็นอารมณ์ คือด้วยการที่เราเป็นคนทำงานก็เลย อะไรที่บริหารได้กลืนกันแล้ว เราผ่านจุดที่น่ากลัวแล้วก็ถือว่าดีแล้วด้วย"
ก็คือไว้ใจเชื่อใจกันและกัน
(ฮันนี่) "ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้นมากกว่า เพราะถ้าเกิดไม่ไว้ใจเค้านี่คงเยอะเลยล่ะ (หัวเราะ)"
จริงๆ พี่บี๋เจ้าชู้มั้ยค่ะพี่ฮันนี่
(ฮันนี่) "เท่าที่เห็นนะส่วนมากจะมีคนเข้ามาหาเค้าเอง มากกว่า"
มีวิธีการจัดการยังไงบ้าง
(บี๋) "ส่วนมากที่เข้ามาเรื่องงานครับ ส่วนมากก็ถ่ายแบบอะไรพวกนี้ไม่มีอะไรมากมาย"
พี่ฮันนี่ขี้หึงมั้ย
(บี๋) "ไม่เลย ไม่ขึ้หึง ไม่สงสัย ไม่จุ๊กจิ๊ก ไม่อะไรเลย"
แสดงว่า19 ปีมาเนี๊ยไม่เคยทะเลาะหรือเถียงกันเรื่องความเจ้าชู้เลย
(พร้อมกัน) "เถียงเรื่องเดียว คือ เรื่องอาหารการกินมากกว่า ถ้าเกิดเบรกเรื่องกินอันนี้เรื่องใหญ่ (ฮันนี่)โกธรนะเราทำงานเราเหนื่อยๆ เราเล่นละคร"
พี่บี๋อยากให้พี่ฮันนี่ดูแลอะไรบ้าง
(บี๋) "อะไรเดี๋ยวบอกครับ ถ้าสมมุติว่า เออ วันนี้ห้ามทานช็อกโกเลตนะก็จะไม่คุยกันเลย"
อย่างเวลาพี่บี๋มีถ่ายแบบเราต้องไปคอยดูแลมั้ย
(ฮันนี่) "ไปได้เหรอ (หัวเราะ) คือนางแบบเค้าจะกลัวฮันนี่มากกว่านะ ไม่ไปดีกว่านะ (บี๋) นอกซะจากว่าถ่ายอาหาร จะมาช่วยตกแต่ให้ดูสวยๆ เพราะเค้าชอบ"
แต่ถ้าเซ็กซี่นี่จะไม่
(บี๋) "จะไม่ครับ ขอตัว"
เรียกว่าชินได้มั้ยกับเรื่องสาวๆ
(ฮันนี่) "ชินได้มั้ย คือเห็นมาตั้งนานแล้ว ถ้าเห็นมาตั้งนานแล้วก็ คือ ใช่ เพราะว่าเป็นช่างภาพที่ถ่ายพวกผู้หญิงเซ็กซี่อย่างนี้อยู่แล้ว"
(บี๋) "แต่ฮันนี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วตั้งแต่คบกันมาเค้าไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องงาน ฮันนี่เค้าไม่เคยไปด้วย ตั้งแต่รู้จักเค้าใหม่ๆ แล้วเค้าก็ยังเป็นอยู่อย่างเดิมจนถึงทุกวันนี้"
พี่บี๋คะอะไรที่พี่ฮันนี่มัดใจพี่บี๋ได้อยู่มัด
(บี๋) "ก็น่าจะใจแหละครับ ชนะใจ (ฮันนี่)ไม่ไปยุ่งเรื่องเค้ามากกว่ามั้ง เรื่องส่วนตัว รู้สึกว่าเค้ากำลังทำงาน (บี๋) เค้าเป็นคนค่อนข้างที่จะเอาอกเอาใจ แล้วก็ รู้ใจเรา แล้วก็คอยเทคแคร์เราเหมือน...มารดา (หัวเราะ) ก็คงประมาณนั้นแหละครับ"
พี่ฮันนี่ล่ะ
(ฮันนี่) "เหมือนลูกคนโตค่ะ ก็กับพี่บี๋ตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งแต่ 19 ปีที่แล้วที่รู้จักกัน เค้าก็เข้ามาดูแลชีวิตอยู่ตั้งแต่ตอนที่ช่วงร้องเพลง ไปอังกฤษ คุณแม่เค้าไปอังกฤษไปหาเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวต่างๆ ที่โน้น คือดูแลตั้งแต่แรกๆ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นความเคยชิน เป็นความผูกพันตรงนั้นมา แล้วเป็นผู้ชายที่เก่ง ฉลาด มีความรู้ ก็เลยคิดว่า เออ...ลูกเราเนี๊ยนะมีคุณพ่อที่เก่งอย่างนี้ ตรงนี้มันมีพื้นฐานตรงนี้อยู่ก็เลยรู้สึกภาคภูมิใจ แล้วก็เค้าเป็นคนดี สำหรับฮันนี่ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง"
คู่ชีวิตคู่นี้มีวิธีเติมความรักให้กันยังไงให้มันหวานอยู่ได้ตลอด
(บี๋) "ก็อย่างที่บอกจริงๆ เราไปตามความรู้สึกมากกว่า ไม่ได้มีสูตรอะไรพิเศษ หรือว่ามีเคล็ดลับอะไร อย่างเช่น สมมุตินะครับ ถ้าเกิดมีการขัดใจกัน หรือ ถึงขั้นทะเลาะกันก็น่าจะดูด้วยเหตุผล ใครเป็นฝ่ายผิดก็จะรู้ตัวเอง หรือถ้าพี่ผิด หรือว่า ฮันนี่ผิดก็จะแบบค่อยๆ เงียบไปก่อน (ฮันนี่) แต่เค้าไม่เคยผิด ไม่เคยผิดสักเรื่อง (ยิ้ม)"
แสดงว่าพี่ฮันนี่ยอมตลอด
(ฮันนี่) "เค้าไม่เคยผิดสักเรื่อง (บี๋) ส่วนใหญ่จะยอมตลอด"
จริงๆ แล้วดูเหมือนพี่ฮันนี่จะดุแต่จริงๆ แล้วพี่บี๋ดุกว่ารึเปล่า
"เป็นบางเรื่องครับ จะดุเป็นบางเรื่อง"
เรื่องอะไรที่พี่ฮันนี่โดนพี่บี๋ดุบ่อยสุด
(ฮันนี่) "เรื่องกินค่ะ "
แสดงว่ายังอยากให้พี่ฮันนี่หุ่นดีอยู่ตลอดเวลา
(บี๋) "ก็ด้วยครับ เพราะว่า อย่างเราอยู่ในวงการนี้ใช่มั้ยครับ ไม่ใช่แค่ฮันนี่คนเดียว ตัวพี่เองต้องคอยออกกำลังกาย ต้องระวังเรื่องอาหารการกิน มันต้องคอยดูแลตัวเอง"
อยากให้ลดสักกี่โล
(ฮันนี่) "ใครพูดช่วยแพนไปที่หน้าคนพูดหน่อย (หัวเราะ) (บี๋) จริงๆ แล้วพูดยากเหมือนกันเพราะจะขึ้นๆ ลงๆ"
แล้วตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้พี่ฮันนี่ยังสวยเหมือนเดิมมั้ย
(บี๋) "ยังสวยเหมือนเดิมครับ คือเรา 19 ปีแล้ว เรามองกันด้วยใจมากกว่า ร่างกายรองลงมา มองกันที่ใจ ใจสวยงามมากกว่า"
อยากให้แนะนำคนที่จะใช้ชีวิตคู่หรือคนที่มีชีวิตคู่อยู่ค่ะ ว่าจะทำยังไงให้มันยืดยาว เพราะเดี๋ยวนี้ชีวิตดารารักง่ายหน่ายเร็วนะ
(บี๋) "น่าจะเป็นครั้งแรกที่เจอกันอย่าเพิ่งรีบร้อน อยากให้ดูกันเยอะๆ ก่อนที่จะไปลงเอยกัน ตรงนั้นน่าจะเวิร์คที่สุด ดูใจกันก่อนให้ดีๆ ว่าจะไปกันรอดมั้ย"
ชีวิตคู่มันต้องใช้อะไรบ้างคะพี่ฮันนี่
(ฮันนี่) "ถ้าในส่วนตัวฮันนี่เอง ก็อย่างที่พี่บี๋พูดก็พูดถูก ว่ายุคปัจจุบันนี้รู้สึกว่าการตัดสินใจของวัยรุ่นค่อนข้างที่จะใช้อารมณ์มากกว่า เพราะฉะนั้นรุ่น คุณพ่อ คุณแม่เรา น่าจะเข้าใจ ว่าอะไรต้องมาก่อน การที่ดูมุมมองของผู้ใหญ่ กับมุมมองของเด็กมันต่างกัน มาถึงตรงนี้เราก็จะเข้าใจแล้วเพราะว่าเรามีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ตอนนี้ ก็เลยคิดว่าถ้าเกิดว่าเราสองคนไม่รักกันจริงๆเลย ไม่คิดที่จะอยู่ด้วยกันจริงๆ เลยเนี๊ย อย่าคิดที่จะแต่งงานแล้วมีลูกด้วยกัน น่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ เพราะตรงนั้นมันจะมีส่วนยาวไปถึงอนาคตของเรา เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจทุกอย่าง มันอยู่ที่ความเข้าใจ เราต้องรับได้ว่าตรงนี้ มันเป็นอย่างนี้ เป็นอย่างนั้น จะสำคัญมาก ไม่ใช่ว่าเอาความรู้สึกตัวเองเป็นหลักอย่างนี้ไม่ได้ ต้องจูนเข้าหากันให้ได้ (บี๋) แรกๆ แสง สี เสียง อาจจะทำให้หน้ามืดตามัวไปชั่วคราว (หัวเราะ) เราลองก้าวถอยหลังกลับมาสัก 2 ก้าว ค่อยเล็งให้ดีๆ แล้วค่อยกระโดดลงไปอะไรประมาณนั้น"
เคยมีมั้ยว่าอย่างเช่นมันอาจจะมีสาวๆมาทำให้เกิดสะดุดบ้าง
(ฮันนี่) "(คิด) ก็ผู้ชายก็ต้องมีแหละ ไม่เห็นต้องจัดการอะไร ก็ให้เค้าจัดการ ก็ให้เคลียร์เรื่องของเค้าเอง" ♦